
รายละเอียด
ตรวจสุขภาพเตรียมความพร้อมก่อนมีบุตร Fertility Health Check Up
การตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร เป็นการตรวจคัดกรองความพร้อมด้านสุขภาพ รวมถึงหาความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการมีบุตร เช่น โรคทางพันธุกรรม ภาวะแทรกซ้อนหลังคลอด หรือภาวะมีบุตรยาก เพื่อให้คู่สามีภรรยาทราบแนวทางการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม และทำให้การมีบุตรผ่านพ้นไปอย่างราบรื่น ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงการคลอดสมาชิกใหม่ของครอบครัว

ไม่แน่ใจ ต้องผ่าตัดมั้ย? ถ้าผ่าตัด มีขั้นตอนยังไง ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่? ปรึกษาอาการหรือขอความเห็นที่สองทางออนไลน์กับแพทย์ได้เต็มที่ ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่จำกัดเวลา กดเพื่อดูรายละเอียดการเข้ารับบริการ

สารบัญเนื้อหา
ตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร สำคัญอย่างไร?
ใครควรตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร
ตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร ควรตรวจเมื่อไร?
ตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร ตรวจอย่างไร?
ตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร ตรวจอะไรบ้าง?
ตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร เจ็บหรือไม่?
ตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร หากพบความผิดปกติ ต้องดูแลตนเองนานหรือไม่?
การเตรียมตัวก่อนตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร
การดูแลตนเองหลังตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร
คำถามที่พบบ่อย
ขั้นตอนการรับบริการ
-
1
สอบถามหรือทำนัด
แอดมินของ HDcare พร้อมตอบทุกข้อสงสัยและทำนัดให้คุณได้ปรึกษาคุณหมอ
-
2
ปรึกษาและประเมิน
เลือกพบคุณหมอได้ทั้งแบบออนไลน์หรือที่โรงพยาบาล ไม่จำกัดจำนวนครั้งจนคุณมั่นใจ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งนั้น
-
3
ผ่าตัด
อุ่นใจมีพยาบาลที่ปรึกษาดูแลตลอดจนการผ่าตัดเรียบร้อย ตั้งแต่อำนวยความสะดวกที่โรงพยาบาล ประสานงานกับบริษัทประกัน ไปจนถึงให้คำแนะนำก่อนและหลังผ่าตัด
ตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร สำคัญอย่างไร?
เพื่อให้สามารถวางแผนการมีบุตรได้อย่างปลอดภัย เพิ่มโอกาสให้ทารกในครรภ์เติบโตอย่างแข็งแรง ปราศจากโรคแทรกซ้อน ความพิการ หรือปัญหาด้านสุขภาพอื่นๆ
ลดภาวะความเครียดหรือความวิตกกังวลจากการตั้งครรภ์
หาความเสี่ยงโรคทางพันธุกรรมหรือโรคแฝงที่อาจส่งต่อถึงทารกในครรภ์
ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ที่ไม่คาดคิดในภายหลัง
ในกรณีตรวจพบโอกาสเกิดภาวะมีบุตรยาก แพทย์จะให้คำแนะนำวิธีการมีบุตรอย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ให้สูงขึ้น
ใครควรตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร
คู่รักที่วางแผนจะมีบุตรในอนาคต
คู่รักที่ฝ่ายหญิงมีอายุมากกว่า 35 ปี เพราะเป็นวัยที่มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ยากขึ้น และทารกมีความเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังคลอด
คู่รักที่เคยผ่านการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะมีบุตรยาก และต้องการตรวจความคืบหน้าของความพร้อมด้านสุขภาพในการมีบุตร
คู่รักที่มีโรคประจำตัวหรือความผิดปกติที่อาจส่งต่อถึงทารกในครรภ์ ต้องการตรวจความพร้อมหรือขอรับคำแนะนำก่อนเริ่มมีบุตรจากแพทย์ เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (Sexually Transmitted Diseases: STDs) โรคธาลัสซีเมีย (Thalassemia) โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukemia) กลุ่มอาการดาวน์ซินโดรม (Down Syndrome)
ตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร ควรตรวจเมื่อไร?
ตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร ควรตรวจก่อนเริ่มต้นทุกกระบวนการ ไม่ว่าจะมีบุตรด้วยวิธีธรรมชาติหรือด้วยวิทยาศาสตร์การแพทย์ เช่น การทำเด็กหลอดแก้ว การฉีดเชื้ออสุจิเข้าโพรงมดลูก คู่รักทุกคู่ควรตรวจความพร้อมก่อนมีบุตรเพื่อให้มั่นใจถึงความพร้อมด้านสุขภาพ
นอกจากนี้คู่รักหลายคู่ยังนิยมตรวจความพร้อมก่อนมีบุตรก่อนเข้าพิธีแต่งงาน เพื่อเช็กความพร้อมด้านสุขภาพก่อนเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่อย่างเป็นทางการ

ตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร ตรวจอย่างไร?

- 1ตรวจร่างกายทั่วไป เช่น ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดัน ซักประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว ประวัติการใช้ยา ประวัติการฉีดวัคซีน พฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์ก่อนหน้านี้ หรือการคุมกำเนิดกับแพทย์
- 2เก็บตัวอย่างเลือดส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ซึ่งสามารถหาความเข้มข้นของเลือด ระดับน้ำตาลในเลือด โรคที่ส่งต่อได้ทางพันธุกรรม รวมถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- 3การทำอัลตร้าซาวด์และ ตรวจภายในเพื่อประเมินความปกติของมดลูก ปีกมดลูก และ รังไข่
- 4การตรวจดูความแข็งแรงของอสุจิ
ตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร ตรวจอะไรบ้าง?
การตรวจความพร้อมก่อนมีบุตรสำหรับผู้หญิงและผู้ชายจะมีรายการตรวจที่ไม่เหมือนกัน โดยจะแตกต่างกันไปตามระบบการทำงานของร่างกาย อวัยวะสืบพันธุ์ เงื่อนไขสุขภาพ รวมถึงวัตถุประสงค์ในการตรวจ
โดยการตรวจในแพ็กเกจ Fertility Health Check Up สำหรับผู้หญิงและผู้ชาย มีรายการดังนี้
รายการตรวจสำหรับผู้หญิง 10 รายการ
ตรวจความสมบูรณ์ของเลือด (CBC)
ตรวจกรุ๊ปเลือด (RH Group)
ตรวจการเป็นพาหะของเบต้าธาลัสซีเมียและฮีโมโกลบิน (HB Typing)
ตรวจฮอร์โมน (E2, P4, FSH, PRL)
ตรวจฮอร์โมนกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ (TSH)
ตรวจหาเชื้อเอชไอวี (HIV)
ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)
ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบซี (Anti-HCV)
ตรวจหาเชื้อกามโรค (VDRL)
การเจาะเลือดเพื่อตรวจวัดระดับฮอร์โมน AMH
รายการตรวจสำหรับผู้ชาย 8 รายการ
ตรวจความสมบูรณ์ของเลือด (CBC)
ตรวจการเป็นพาหะของเบต้าธาลัสซีเมียและฮีโมโกลบิน (HB Typing)
ตรวจกรุ๊ปเลือด (RH Group)
ตรวจหาเชื้อเอชไอวี (HIV)
ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)
ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบซี (Anti-HCV)
ตรวจหาเชื้อกามโรค (VDRL)
ตรวจคุณภาพอสุจิ (Semen analysis)
ตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร เจ็บหรือไม่?
ผู้เข้ารับบริการอาจรู้สึกเจ็บได้บ้างในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ใช้เข็มเจาะเก็บตัวอย่างเลือด และในกรณีมีรายการตรวจภายในร่วมด้วย ก็อาจรู้สึกไม่สบายตัวระหว่างแพทย์สอดอุปกรณ์ตรวจเข้าไปทางช่องคลอด แต่โดยทั่วไปจะอยู่ในระดับที่ทนได้
ตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร หากพบความผิดปกติ ต้องดูแลตนเองนานหรือไม่?
ระยะเวลาในการปรับพฤติกรรมและฟื้นฟูสุขภาพในแต่ละคนขึ้นกับผลตรวจที่ออกมา บางคนอาจเริ่มมีบุตรได้หลังตรวจไม่กี่เดือน หรืออาจต้องดูแลสุขภาพก่อนเป็นปี จึงจะมีบุตรได้อย่างปลอดภัย และมีความเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ต่ำที่สุด
การเตรียมตัวก่อนตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร
เตรียมประวัติสุขภาพมาพูดคุยกับแพทย์อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะประวัติด้านโรคประจำตัว โรคทางพันธุกรรมของคนในครอบครัว โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (หากเคยตรวจพบ) ประวัติการตั้งครรภ์ที่ผ่านมา การคุมกำเนิด ภาวะมีบุตรยาก (หากเคยตรวจพบ)
พักผ่อนให้เพียงพอ
ฝ่ายชายควรงดการมีเพศสัมพันธ์ รวมถึงการช่วงตัวเองด้วยวิธีใดๆ ก่อนวันรับบริการ 3-7 วัน แต่ไม่ควรนานเกินกว่านั้น
การดูแลตนเองหลังตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร
หลังรับบริการเสร็จแล้ว ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น แต่นอกจากนี้ก็ยังต้องปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลสุขภาพจากแพทย์ภายหลังฟังผลตรวจ เพื่อให้โอกาสตั้งครรภ์อย่างสมบูรณ์แข็งแรงมีเพิ่มมากขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
-
ตรวจความพร้อมก่อนมีบุตร จำเป็นมั้ย?
การตรวจความพร้อมก่อนมีบุตรเป็นการตรวจที่ไม่ได้เป็นข้อบังคับ แต่เป็นการตรวจที่จำเป็นและควรตรวจ เพื่อช่วยให้ทราบสาเหตุของการมีบุตรยาก เพื่อกำหนดแนวทางการรักษา และช่วยตรวจหาควาเสี่ยงทางสุขภาพเบื้องต้นของคู่สามี ภรรยา ที่ส่งผลกระทบต่อการมีบุตรอีกด้วย.