ฉีดเมโส Meso Hair และโปรแกรม PRP บริเวณหนังศีรษะ บำรุงเส้นผมเต็มรูปแบบ 1 ครั้ง

รายละเอียดราคา ฉีดเมโส ฉีด PRP บำรุงเส้นผม

ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

• ค่าฉีดเมโส Meso Hair และโปรแกรม PRP บริเวณหนังศีรษะ บำรุงเส้นผมเต็มรูปแบบ 1 ครั้ง

ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ ฉีดเมโส ฉีด PRP บำรุงเส้นผม

• ระยะเวลารับบริการประมาณ 30-60 นาที
• แพทย์จะให้คำปรึกษาและคำแนะนำก่อนเริ่มกระบวนการฉีด PRP
• เป็นโปรแกรมพิเศษที่รวมเอา ฉีดเมโสผม และฉีดพลาสม่าบำรุงเส้นผมไว้ด้วยกัน เพื่อการบำรุงเส้นผมอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยวิตามินและพลาสม่าที่ช่วยบำรุงเซลล์รากผมให้แข็งแรง จะช่วยกระตุ้นการเกิดเส้นผมใหม่ และช่วยชะลออาการผมร่วงอย่างเต็มรูปแบบ
• หลังจากฉีด PRP จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ในระยะประมาณ 1-3 เดือน โดยควรฉีดต่อเนื่องประมาณ 1-2 เดือน ควบคู่กับการรักษาด้วยยาและรับประทานอาหารเสริม
• ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล
• ควรมาฉีด PRP ซ้ำ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ซึ่งความถี่และจำนวนครั้งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์หรือผู้ชำนาญการ

การเตรียมตัวก่อนรับบริการ

• หากมีการแพ้ยา แพ้อาหาร มีโรคประจำตัว หรือมียาที่รับประทานประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 6-8 ชั่วโมง
• ดื่มน้ำสะอาดมากๆ ประมาณ 2 ลิตร
• ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
• ห้ามรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด 1 สัปดาห์ก่อนทำ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค พอนสแตน วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย โสม St. John's wort น้ำมันกระเทียม เพราะมีผลต่อยาต้านการแข็งตัวของเลือด (ควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาก่อนหยุดยา)
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2-3 วัน

การดูแลหลังรับบริการ

• ห้ามโดนน้ำภายใน 24 ชั่วโมงหลังรับบริการ
• ไม่ควรนวดหรือสัมผัสบริเวณหนังศีรษะหลังทำทันที
• งดออกแดดแรงๆ เป็นเวลา 48 ชั่วโมงหลังฉีดเมโส
• ห้ามสระผมอย่างน้อย 4-5 ชั่วโมงหลังฉีดเมโส
• หากสระผมไม่ควรเกาศีรษะรุนแรงและควรใช้ผ้าเช็ดผมเบาๆ
• ใช้ผลิตภัณฑ์สระผมสูตรอ่อนโยนประมาณ 1 สัปดาห์
• หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการออกกำลังกายอย่างหนัก
• หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่มีความร้อนหรือโดนแสงแดดจัดอย่างน้อย 2-3 วัน
• หลีกเลี่ยงการรับประทานยาไอบูโปรเฟนหรือแอสไพริน 2-3 วัน เพราะจะทำให้เลือดออกง่าย
• หากมีอาการปวดสามารถรับประทานยาพาราเซตามอลได้

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ

• ผลลัพธ์ของการเสริมความงามขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพบอาการผิดปกติหลังรับบริการควรปรึกษาแพทย์
• ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากมีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาหรืออาหารเสริมอยู่

ข้อห้ามสำหรับบริการนี้

• สตรีมีครรภ์และหญิงให้นมบุตร
• ผู้ที่มีแผลอักเสบ การติดเชื้อที่บริเวณหนังศีรษะ
• ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน
• ผู้ที่มีประวัติแพ้ส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์
• รับประทานยาโรคหัวใจ
• ผู้ที่สูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก
• เป็นโรคผิวหนังหรือมะเร็งบริเวณหนังศีรษะ
• ผู้ที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ เคยมีปัญหาเลือดหยุดยาก หรือต้องรับประทานยาละลายลิ่มเลือด
• ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์
• ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ เชื้อเอชไอวี
• ผู้ที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคตับ มะเร็งเม็ดเลือดทุกชนิด

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

• อาจมีอาการฟกช้ำ เกิดการอักเสบ บวม แดง หลังจากการฉีด ซึ่งสามารถหายได้เองภายในไม่กี่วัน
• อาจเกิดการติดเชื้อหรือเกิดแผลเป็นหลังทำ ซึ่งโอกาสเกิดค่อนข้างน้อย
• อาจเป็นอันตรายต่อหลอดเลือดหรือเส้นประสาทที่หนังศีรษะได้
• การฉีดเมโสผมมีความเสี่ยงไม่มากนัก แต่อาจเกิดอาการข้างเคียงได้ ดังนี้ 
  • อาการคลื่นไส้
  • อาการเจ็บปวด
  • บวม แดง มีผื่นคัน
  • มีรอยช้ำ
  • ผิวหนังมีรอยคล้ำ
  • มีรอยแผลเป็น

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการฉีดเมโส ฉีด PRP บำรุงเส้นผม

การฉีดเมโส (Mesotherapy) เป็นการฉีดผิวด้วยสารละลายที่มีสารสำคัญต่างๆ ขึ้นอยู่กับสูตรที่ใช้ โดยเป็นการฉีดไปยังผิวหนังชั้นกลางโดยตรง เรียกว่าชั้นเมโส (Meso) ด้วยเข็มฉีดยาที่มีขนาดหัวเข็มเล็กมาก

การฉีดเมโสผม
เป็นการฉีดสารละลายที่ประกอบไปด้วย แร่ธาตุ วิตามิน กรดอะมิโน (Amino Acid) กรดนิวคลีอิก (Nucleic Acid) โคเอนไซม์ (Coenzyme) และสารละลายอีกหลายชนิดเข้าผิวชั้นนอกที่มีความลึกประมาณ 1 มิลลิเมตร เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณรากผม บำรุงหนังศีรษะ ฟื้นฟูสภาพผมให้แข็งแรง กระตุ้นให้ผมงอกใหม่ ลดปัญหาผมร่วง ผมบาง
สารละลายที่ใช้ฉีดประกอบด้วยสารสำคัญต่างๆ เช่น วิตามิน แร่ธาตุ สารอาหาร หรือสารอื่น ที่เมื่อฉีดไปที่ผิวโดยตรงแล้ว จะมีส่วนช่วยรักษาหรือฟื้นฟูผิวด้วยคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป

สาเหตุของปัญหาผมร่วง

• พันธุกรรม
• ปัญหาความเครียด
• การแพ้ยาบางชนิดหรือการใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษาโรคมะเร็ง
• การติดเชื้อ เช่น การติดเชื้อรา ซิฟิลิส เริม HIV
• ได้รับการรักษาโรคด้วยการฉายรังสี
• ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายผิดปกติ
• โรคทางผิวหนัง DLE และโรคทางภูมิคุ้มกัน SLE (Systemic Lupus Erythematosus)
• พฤติกรรมบางอย่าง เช่น การดึงผม มัดรวมตึงผมแบบรัดแน่นจนเกินไป

หมายเหตุ

• ความถี่และจำนวนครั้งในการรับบริการขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

PRP หรือ Platelet-Rich Plasma คือพลาสมาที่อุดมไปด้วยเกล็ดเลือด ได้จากการนำเลือดจำนวนเล็กน้อยมาผ่านกระบวนการให้ได้ส่วนของพลาสมาที่มีความเข้มข้นของเกล็ดเลือดและสารโปรตีนอื่น ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ตามธรรมชาติ
การแพทย์ในปัจจุบันจึงมีการนำ PRP มาฉีดเพื่อช่วยรักษาและฟื้นฟูเซลล์และเนื้อเยื่อหลายชนิด รวมถึงการฉีดเพื่อแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง

การฉีดหนังศีรษะด้วย PRP แก้ปัญหาผมร่วงได้อย่างไร?
PRP สามารถช่วยลดผมหลุดร่วงได้ทั้งในชายและหญิง โดยเกล็ดเลือดและส่วนประกอบอื่นๆ ใน PRP เช่น โกรทแฟกเตอร์ (Growth Factor) ที่มีคุณสมบัติช่วยสร้างและฟื้นฟูเซลล์ จะกระตุ้นให้เซลล์รากผมสร้างเส้นผมเองตามธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น
จากการศึกษาพบว่า PRP อาจช่วยแก้ปัญหาผมร่วงหรือผมบางได้ จากคุณสมบัติต่อไปนี้

• ทำให้รากผมแข็งแรง ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม
• กระตุ้นการเจริญของเส้นผมที่เซลล์รากผม ช่วยทำให้เส้นผมมีลักษณะที่หนาขึ้น
• เพิ่มจำนวนเซลล์รากผม ช่วยลดปัญหาผมบาง

ขณะฉีดเจ็บหรือไม่? หลังฉีดต้องพักฟื้นนานแค่ไหน?
การฉีด PRP บนหนังศีรษะจะไม่รู้สึกเจ็บ เนื่องจากมีการใช้ยาชา และเข็มที่ใช้มีขนาดเล็กเป็นพิเศษ (Microneedle) ระยะเวลาพักฟื้นจึงค่อนข้างต่ำหรืออาจไม่ต้องพักฟื้น อย่างไรก็ตามควรปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการทำอย่างเคร่งครัด

ปลอดภัยหรือไม่?
พลาสมา หรือ PRP ที่นำมาฉีดมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นส่วนที่ได้มาจากเลือดของตัวเอง แต่ควรมีกระบวนการทำ PRP ที่เหมาะสมและปลอดเชื้อ ดังนั้นการเลือกสถานพยาบาลและแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจึงมีความสำคัญ

เมื่อไหร่จึงจะเห็นผล?
หลังการฉีดจะไม่เห็นผลทันที เพราะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูเซลล์และสร้างเส้นผมใหม่ นอกจากนี้การฉีด PRP เพื่อรักษาปัญหาผมร่วงผมบางจำเป็นต้องมีการฉีดมากกว่า 1 ครั้ง ซึ่งสามารถทำความเข้าใจเพิ่มเติมได้กับแพทย์ผู้ทำการรักษา

หมายเหตุ

• การฉีด PRP ควรทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ และควรปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยก่อนตัดสินใจ
• แม้สาร PRP ที่ใช้ฉีดได้มาจากเลือดของตัวเอง ดังนั้นโอกาสแพ้หรือมีปัญหาแทรกซ้อนจึงน้อย อย่างไรก็ตาม ควรเลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกที่สะอาดและได้มาตรฐาน เพื่อลดโอกาสเสี่ยงดังกล่าว
• จากการศึกษาพบว่าผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับชนิดหรือสาเหตุของปัญหา ความรุนแรงของอาการ และความสมบูรณ์ของเลือดในแต่ละบุคคล

ที่อื่นที่มีบริการรักษาผมร่วง ปลูกผม ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่

วิธีซื้อแพ็กเกจของ Billion Care Clinic ผ่าน HDmall

วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง

1. กดชำระเงินออนไลน์
2. รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
3. โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
4. ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ

เงื่อนไขการใช้คูปอง

• สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
• คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
• สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
• อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง

เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Billion Care Clinic อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th