โบท็อกซ์ (Botox) สารที่มีดีมากกว่าตัวช่วยเสริมความงาม

โบท็อกซ์ (Botox) หนึ่งในสารยอดนิยมที่แพทย์ศัลยกรรมด้านความงามนำมาใช้ในการยกกระชับ ปรับหน้าเรียว และลดกราม เนื่องจากโบท็อกซ์มีสารสารสำคัญอย่างโบทูลินัมท็อกซินเอ (Botulinum toxin A) ซึ่งสกัดมาจากแบคทีเรียคลอสตริเดียมโบทูลินัม (Clostridium botulinum) เป็นสารที่หากได้รับมากเกินไปจะทำให้อาหารเป็นพิษ หรือเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่ถ้าได้รับในปริมาณพอเหมาะ จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว วงการแพทย์นำโบท็อกซ์มาใช้ในการรักษาโรคตาเหล่ ตาเข ขณะที่วงการเสริมความงามนำโบท็อกซ์มาช่วยลดริ้วรอยและกระชับผิวให้เต่งตึง อย่างไรก็ตาม ผลของการฉีดโบท็อกซ์จะไม่ถาวรเนื่องจากโปรตีนสามารถสลายไปได้ จึงต้องกลับมาเติมเป็นระยะ

โบท็อกซ์มีกี่ชนิด

โบท็อกซ์แบ่งออกเป็นหลายชนิด หลายเกรด แต่ละชนิดก็จะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น 

• อัลเลอร์แกน (Allergan) ผลิตในประเทศอเมริกา เป็นโบท็อกซ์ดั้งเดิมที่ผ่านการพัฒนามาเพื่อให้ผู้ใช้มีโอกาสดื้อยาน้อยมาก ข้อดีคือ กระจายตัวแคบ ทำให้ควบคุมการฉีดได้แม่นยำ ตรงจุด แต่ในทางตรงกันข้าม หากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญจะเห็นข้อผิดพลาดได้ชัด ไม่ว่าจะปัญหาคิ้วกระดก ยิ้มแข็ง หรือแก้มตอบ
  
• ดิสพอร์ต (Dysport) ผลิตในประเทศอังกฤษ สามารถกระจายตัวได้ดี จึงเหมาะสำหรับใช้กับบริเวณกว้าง เช่น ฉีดลดเหงื่อ ลดต้นแขน และลดน่องปูด เป็นต้น 

ควรเตรียมตัวอย่างไรก่อน ฉีด Botulinum Toxin

ก่อนเข้ารับบริการฉีด Botulinum Toxin ผู้เข้ารับบริการจำเป็นจะต้องเข้าพบแพทย์เสียก่อนเพ่อทำการตรวจผิวหนัง และปรึกษาเกี่ยวกับบริเวณที่ต้องการจะฉีด ดังนั้นผู้เข้ารับบริการจึงอาจต้องมีการเตรียมตัวดังต่อไปนี้

• งดรับประทานยา หรือวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น ยาแอสไพริน ยาแก้ปวดกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์  (NSAIDs) ยาวาร์ฟาริน (Warfarin) วิตามินซี น้ำมันตับปลา แปะก๊วย
  
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก
  
• งดรับประทานอาหารประเภทปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ
  
• งดรับประทานอาหารที่เผ็ดมากๆ หรือแสบร้อนจนหน้าแดง
  
• งดรับประทานอาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
  
• งดสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด ไม่ควรประคบร้อน

วิธีการดูแลตัวเองหลัง โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์