คอร์สโปรแกรม PRP Super Plasma Plus บำรุงผิวหน้าให้ดูกระจ่างใส 3 ครั้ง ด้วยเกล็ดเลือดตัวเอง และให้วิตามินทางหลอดเลือด แบบ Drip สูตร 6 Berry Muti Care เพื่อผิวดูกระจ่างใส ลดรอยดำตามร่างกาย 1 ครั้ง

รายละเอียดราคา ฉีด PRP ดริปวิตามิน

ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

• ค่าคอร์ส PRP Super Plasma Plus บำรุงผิวหน้าให้ดูกระจ่างใส 3 ครั้ง
• ค่าให้วิตามินทางหลอดเลือด แบบ Drip สูตร 6 Berry Muti Care เพื่อผิวดูกระจ่างใส ลดรอยดำตามร่างกาย 1 ครั้ง

ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ ฉีด PRP ดริปวิตามิน

• ระยะเวลารับบริการประมาณ 60-90 นาที
• ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
• การฉีด PRP จะใช้เกล็ดเลือดที่ปั่นแล้วจากตัวผู้รับบริการประมาณ 20 มิลลิลิตร เมื่อปั่นและแยกเลือดเสร็จจะได้สาร Growth Factor ซึ่งเป็นสุดยอดอาหารผิวระดับเซลล์ (Skin Cell) เพื่อใช้ในการฟื้นฟูเซลล์ผิวหน้า คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว ช่วยให้หน้าดูกระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้น

การเตรียมตัวก่อนรับบริการ

• ฉีด PRP
  • งดรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด 1 สัปดาห์ก่อนทำ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค พอนสแตน วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย โสม St. John's wort น้ำมันกระเทียม เพราะมีผลต่อยาต้านการแข็งตัวของเลือด (ควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาก่อนหยุดยา)
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2-3 วัน
  • ไม่อยู่ระหว่างรับประทานยาแก้อักเสบใดๆ และควรงดยากลุ่ม ASA หรือ NSIAD 2-3 วันก่อนรับบริการ
  • ดื่มน้ำสะอาดประมาณ 2 ลิตรก่อนรับบริการ
• ให้วิตามินทางหลอดเลือดแบบ Drip
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 วันก่อนรับบริการ
  • พักผ่อนให้เพียงพอประมาณ 6-8 ชั่วโมง เพื่อปรับสมดุลร่างกายก่อนรับวิตามิน
  • ดื่มน้ำมากๆ ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ช่วยให้วิตามินไหลเวียนไปได้อย่างรวดเร็ว

การดูแลหลังรับบริการ

• ฉีด PRP
  • ควรพักใบหน้า งดแต่งหน้าอย่างน้อย 1 วัน แต่สามารถใช้ชีวิตได้ปกติ
  • หลีกเลี่ยงการล้างหน้าภายใน 4-5 ชั่วโมงแรกหลังรับบริการ
  • หลีกเลี่ยงการนวดหน้า ขัดหน้า หรืออบไอน้ำ ซาวน่า
  • หากมีอาการปวดสามารถรับประทานยาพาราเซตามอลได้
  • หลีกเลี่ยงการทาครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของ AHA หรือสารไวท์เทนนิ่ง
  • งดทำกิจกรรมที่มีความร้อนหรือโดนแสงแดดจัดอย่างน้อย 2-3 วัน
  • งดรับประทานยาไอบูโปรเฟนหรือแอสไพริน 2-3 วัน เพราะจะทำให้เลือดออกง่าย
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการออกกำลังกายอย่างหนัก

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ

• ผลลัพธ์ของการเสริมความงามขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพบอาการผิดปกติหลังรับบริการควรปรึกษาแพทย์

ข้อห้ามสำหรับการฉีด PRP

• สตรีมีครรภ์
• มีการอักเสบ ติดเชื้อ หรือเป็นสิวบริเวณที่จะฉีด
• เป็นโรคผิวหนังบริเวณที่จะทำ เช่น ผื่นแพ้ ผื่นกุหลาบ สะเก็ดเงิน มะเร็งผิวหนัง
• ผู้ที่เกิดแผลเป็นง่าย
• ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ เชื้อเอชไอวี
• ผู้ที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคตับ มะเร็งเม็ดเลือดทุกชนิด
• เคยมีปัญหาเลือดหยุดยากหรือต้องรับประทานยาละลายลิ่มเลือด
• มีการทำเลเซอร์ภายใน 12 เดือน หรือผ่าตัดภายใน 6 เดือน
• มีการใช้ยารักษาสิวที่เป็นอนุพันธ์วิตามินเอ เช่น Isotretrinoin
• ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากมีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาหรืออาหารเสริมอยู่

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

• อาจมีอาการฟกช้ำ เกิดการอักเสบ บวม แดง หลังจากการฉีด ซึ่งสามารถหายได้เองภายในไม่กี่วัน
• อาจเกิดการติดเชื้อหรือเกิดแผลเป็นหลังทำ ซึ่งโอกาสเกิดค่อนข้างน้อย

ผู้ที่มีอาการหรือภาวะต่อไปนี้ไม่ควรรับวิตามินทางหลอดเลือด

• สตรีมีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
• ผู้ที่มีภาวะไตล้มเหลว
• ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ ไต และความดันโลหิต

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

• บางกรณีอาจเกิดการระคายเคือง การอักเสบ เลือดอุดตันบริเวณที่ฉีด เนื่องจากสารละลายที่ใช้
• หากทำโดยบุคลากรที่ไม่เชี่ยวชาญ อาจเกิดอันตรายจากการฉีดวิตามินที่ไม่เหมาะสม เช่น ให้วิตามินเร็วเกินไป ไม่ระวังเรื่องความสะอาด

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการฉีด PRP ดริปวิตามิน

พีอาร์พี (PRP หรือ Platelet-Rich Plasma) คือ ส่วนที่ได้จากการนำเลือดจำนวนเล็กน้อยมาผ่านกระบวนการให้ได้ส่วนของพลาสมากับเกล็ดเลือด ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ตามธรรมชาติ
การแพทย์ในปัจจุบันจึงมีการนำ PRP มาฉีดเพื่อช่วยรักษาและฟื้นฟูเซลล์และเนื้อเยื่อหลายชนิด รวมถึงการฉีดเพื่อฟื้นฟูผิวด้วย

การฉีดผิวด้วย PRP มีประโยชน์อย่างไร?
ในแง่ของการเสริมความงาม เกล็ดเลือดและส่วนประกอบอื่นๆ ใน PRP เช่น โกรทแฟกเตอร์ (Growth Factor) จะช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าดังต่อไปนี้

• ช่วยสร้างเซลล์ คอลลาเจน และอิลาสตินในชั้นผิว รวมถึงซ่อมแซมเซลล์ผิวเดิม ทำให้ผิวโดยรวมได้รับการฟื้นฟู
• ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอย รอยสิว หลุมสิว จุดด่างดำ รอยแผลเป็น หรือปัญหาผิวเสียจากแดด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผิวดูมีอายุ
• ทำให้สุขภาพผิวหน้าดีขึ้น ดูใสและอ่อนวัยกว่าเดิม

ขณะฉีดเจ็บหรือไม่? หลังฉีดต้องพักฟื้นนานแค่ไหน?
การฉีด PRP บนผิวหน้าจะรู้สึกเจ็บน้อยมาก เนื่องจากเข็มที่ใช้มีขนาดเล็กเป็นพิเศษ (Microneedle) ทำให้ระยะเวลาพักฟื้นค่อนข้างต่ำหรืออาจไม่ต้องพักฟื้น
อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการหลีกเลี่ยงแสงแดด และงดการบีบ คลึง หรือนวดแรงๆ หลังทำ

ปลอดภัยหรือไม่?
พลาสมา หรือ PRP ที่นำมาฉีดมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นส่วนที่ได้มาจากเลือดของตัวเอง แต่ควรมีกระบวนการทำ PRP ที่เหมาะสมและปลอดเชื้อ ดังนั้นการเลือกสถานพยาบาลและแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจึงมีความสำคัญ

หมายเหตุ

• การฉีด PRP ควรทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ และควรปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยก่อนตัดสินใจ
• สาร PRP ที่ใช้ฉีดได้มาจากเลือดของตัวเอง ดังนั้นโอกาสแพ้หรือมีปัญหาแทรกซ้อนจึงน้อย อย่างไรก็ตามควรเลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกที่สะอาดและได้มาตรฐาน เพื่อลดโอกาสเสี่ยงดังกล่าว
• ผลลัพธ์ที่ได้อาจเห็นชัดเจนหลังทำหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน ขึ้นกับความรุนแรงของปัญหาผิวและความสมบูรณ์ของเลือดในแต่ละบุคคล

การให้วิตามินทางหลอดเลือด (Intravenous Vitamin Therapy) เป็นการให้วิตามินและแร่ธาตุในรูปแบบสารน้ำเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรงทางสายน้ำเกลือ ซึ่งมีข้อดีคือช่วยได้ดูดซึมได้รวดเร็วเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีอื่น

ประโยชน์ของการฉีดวิตามินมีอะไรบ้าง?
สูตรของวิตามินที่ใช้อาจเน้นที่คุณประโยชน์แตกต่างกันไป เช่น

• เสริมระบบภูมิคุ้มกัน
• ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
• ลดความเครียดที่เกิดขึ้นในร่างกาย
• ฟื้นฟูสุขภาพ
• เสริมให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง
• บรรเทาอาการหรือช่วยเสริมการรักษาโรคบางประเภทได้

การฉีดวิตามิน VS การได้รับวิตามินจากอาหาร?
โดยทั่วไปร่างกายสามารถได้รับวิตามินและแร่ธาตุในปริมาณที่เพียงพอจากอาหารที่รับประทาน แต่ในผู้ที่มีนิสัยเลือกกินเฉพาะอาหารบางชนิด รับประทานอาหารไม่หลากหลาย ก็อาจทำให้ได้รับวิตามินและแร่ธาตุไม่ครบถ้วน
การฉีดวิตามินหรือรับวิตามินทางหลอดเลือดเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ โดยช่วยให้เลือกวิตามินและแร่ธาตุที่ต้องการได้อย่างเฉพาะเจาะจง

หมายเหตุ

• การฉีดวิตามินอาจจำเป็นในกรณีที่ขาดวิตามินหรือแร่ธาตุบางชนิดเท่านั้น ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัย

สถานที่อื่นๆ ที่ให้บริการ ฉีดเมโสแฟต ฉีดเมโสหน้าใส ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่

วิธีซื้อแพ็กเกจของ TNP Clinics ผ่าน HDmall

วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง

1. กดชำระเงินออนไลน์
2. รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
3. โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
4. ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ

เงื่อนไขการใช้คูปอง

• สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
• คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
• สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
• อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง

เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ TNP Clinics อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th