คอร์สกำจัดขนหน้า ด้วยเลเซอร์ Nd:YAG 6 ครั้ง ที่ Punnisa Clinic (ปันนิสาคลินิก)

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการกำจัดขนหน้า

เลเซอร์ Nd:YAG

เลเซอร์กำจัดขน⠀(Hair Removal Laser) เป็นวิธีการกำจัดขนโดยใช้พลังงานความร้อนจากแสงเลเซอร์ทำลายรากขนและเส้นขน จึงกำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เลเซอร์กำจัดขนได้อย่างไร?
เมื่อยิงเลเซอร์ไปยังผิวหนังชั้นที่มีรากขนอยู่ เม็ดสีในปมรากขนจะดูดพลังงานจากแสงเลเซอร์แล้วเกิดเป็นความร้อนทำลายรากขน เลเซอร์จึงกำจัดขนได้

เลเซอร์อาจมีประโยชน์สำหรับการรักษาอื่นๆ ด้วย ขึ้นกับความยาวคลื่นของแสงที่นำมาใช้ ซึ่งในการกำจัดขนจะใช้แสงที่มีความยาวคลื่นที่จะถูกเม็ดสีที่ปมรากขนดูดซับได้ แล้วเกิดเป็นพลังงานความร้อนจนรากขนและเส้นขนถูกทำลาย

เลเซอร์กำจัดขนมีหลายแบบ แต่ละแบบเหมาะกับสีผิวและลักษณะเส้นขนแตกต่างกันไป ตัวอย่างเลเซอร์กำจัดขน เช่น Nd:YAG, Diode, Alexandrite, Ruby แต่ที่เหมาะกับผิวสีค่อนข้างเข้มอย่างชาวเอเชีย ได้แก่ Nd:YAG และ Diode

เลเซอร์ Nd:YAG
เลเซอร์ Nd:YAG มีความยาวคลื่น 1,064 นาโนเมตร สามารถลงลึกถึงรากขน เหมาะกับการกำจัดขนที่มีสีเข้ม ไม่เหมาะกับการกำจัดขนที่มีลักษณะบางหรือขนสีอ่อน

IPL

การกำจัดขนด้วย IPL⠀(Intense Pulsed Light) เป็นการใช้คลื่นแสงหลายความยาวคลื่นยิงไปยังผิวหนังบริเวณที่ต้องการกำจัดขน เซลล์เม็ดสีที่รากขนจะดูดซับพลังงานแสงและเปลี่ยนเป็นความร้อน ส่งผลให้รากขนถูกทำลาย

IPL ต่างจากเลเซอร์อย่างไร?
คลื่นแสง IPL จะกระจายตัวเป็นบริเวณกว้างกว่าแสงเลเซอร์ พลังงานจึงต่ำกว่า แต่อ่อนโยนต่อผิวมากกว่า นอกจากนี้ เนื่องจาก IPL เป็นการใช้คลื่นแสงหลายความยาวคลื่น นอกจากกำจัดขนแล้วจึงยังสามารถแก้ปัญหาผิวอื่นๆ ได้ในเวลาเดียวกัน เช่น ริ้วรอยตื้นๆ รูขุมขนกว้าง หน้ามัน สิว การอักเสบและรอยแดงจากสิว เป็นต้น

ข้อดี

• ลำแสงของ IPL จะไม่ทำลายผิวหนังชั้นบนสุด ต่างจากเลเซอร์ที่มีผลกระทบต่อผิวมากกว่า
• ปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดบาดแผล
• ใช้เวลาทำแต่ละครั้งไม่นาน ผลข้างเคียงน้อย สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
• ราคาไม่สูงมาก

ข้อจำกัดของ IPL

• ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวคล้ำ เพราะเสี่ยงต่อการเกิดสีผิวที่เข้มขึ้น หรือเป็นรอยด่างขาวได้
• ไม่สามารถกำจัดขนได้ในครั้งเดียว เพราะ IPL กำจัดขนได้เฉพาะเส้นขนในระยะเติบโตเท่านั้น จึงต้องรอให้เส้นขนงอกและรับบริการหลายครั้งอย่างต่อเนื่อง

หมายเหตุ

• การรักษาจะต้องอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ และผู้รับบริการต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
• ควรแจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง หรือมีอาการแพ้ยา
• ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหากรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน