ทำ BB HIFU ทั่วหน้า 250 ช็อต และทำทรีตเมนต์ P-White 1 ครั้ง

• ระยะเวลารับบริการครั้งละประมาณ 20-60 นาที
• ควรนัดคิววันที่สะดวกเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินใบหน้า และทำหัตถการ
• แพทย์จะให้คำปรึกษาและประเมินผิวที่จะทำ HIFU ก่อนรับบริการ
• แพทย์จะแปะยาชา 30 นาทีก่อนเริ่มทำ จากนั้นจะเช็ดยาชาออกและเปลี่ยนเป็นทาเจลเย็น ก่อนเริ่มยิงทีละจุด
• เนื่องจากเป็นการยิงเข้าไปที่ชั้นกล้ามเนื้อเหนือกระดูกซึ่งลึกมาก จึงจะค่อนข้างเจ็บระหว่างทำ แม้จะไม่เจ็บเท่าเครื่องรุ่นเก่าก็ตาม แต่ทางคลินิกจะแปะยาชาช่วยบรรเทาความเจ็บ
• โดยทั่วไปจะเห็นผลประมาณ 10-20% หลังทำ เพราะชั้นผิวจะหดตัวจากความร้อนที่ลงไปใต้ผิว เห็นผลเต็มที่ประมาณ 1-2 เดือนหลังทำ และอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
• ควรเว้นระยะหลังการทำครั้งล่าสุด ทุก 6 เดือน
• ขั้นตอนการทำทรีตเมนต์ P-White ช่วยปรับสภาพผิว เพิ่มความกระจ่างใส มีดังนี้

1. ทำความสะอาดผิว
2. ลงเจลเพื่อผลักวิตามินลงสู่ผิวด้วยเครื่อง Phono
3. นวดหน้า

การเตรียมตัวก่อนรับบริการ

• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
• ห้ามรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด 1 สัปดาห์ก่อนทำเช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค พอนสเตน วิตามินอี น้ำมันตับปลา ใบแปะก๊วย โสม St. John's wort น้ำมันกระเทียม เพราะมีผลต่อยาต้านการแข็งตัวของเลือด (ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหยุดยา)
• งดทายาที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A) Retinols Retinoids Glycolic Acid หรือครีมในกลุ่ม Anti-Aging อย่างน้อย 3 วันก่อนรับบริการ
• งดแว็กซ์ผิว ขัดผิว สครับผิว นวดหน้า โกนขน ดึงขน เลเซอร์ บริเวณที่จะทำอย่างน้อย 3 วันก่อนรับบริการ
• ผู้ที่มีประวัติติดเชื้อโรคเริม ควรรับประทานยาป้องกันเชื้อไวรัส 2 วันก่อนรับบริการ
• งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดไหลเวียนมากขึ้น เช่น การออกกำลังกาย หรือซาวน่า ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนรับบริการ
• งดแต่งหน้า ทารองพื้น ทาแป้งในวันที่มารับบริการ

การดูแลหลังรับบริการ

• ผู้ที่เคยติดเชื้อโรคเริมควรรับประทานยาป้องกันเชื้อไวรัสเป็นเวลา 6 วัน หลังรับบริการ
• ผิวบริเวณที่ทำอาจมีสีชมพูระเรื่อและบวมเล็กน้อย ซึ่งจะค่อยๆ ดีขึ้นภายในระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
• งดโดนแสงแดดจัด หรือความร้อนโดยตรง เช่น การนั่งหน้าเตาร้อนๆ ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก
• งดถูหน้าแรงๆ
• งดล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น
• ควรทาครีมบำรุงผิวและครีมกันแดดที่มี SPF 30+
• หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะเข้าไปทำลายคอลลาเจนที่กำลังสร้างตัวใต้ผิวหนัง
• ควรรับประทานเส้นใยคอลลาเจนเสริม และดื่มน้ำสะอาดวันละ 1-2 ลิตร
• ควรรับประทานอาหารโปรตีนสูง 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น ไข่ขาว เนื้อไก่ไม่ติดมัน เนื้อปลา ถั่วเหลือง เป็นต้น