ผ่าตัดถุงน้ำหรือซีสต์รังไข่ (แบบส่องกล้อง)
ถุงน้ำรังไข่หรือซีสต์รังไข่ มี 3 ประเภทคือช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst), Dermoid Cyst และ Functional Cyst
รีบรักษาป้องกันความเสี่ยงมีลูกยาก ลุกลามเป็นมะเร็ง หรือต้องตัดมดลูกออก ทำให้มีลูกไม่ได้
ผ่าตัดถุงน้ำรังไข่ส่องกล้อง ไม่มีแผลภายนอก เจ็บน้อย พักฟื้นไม่นาน
รับส่วนลด 50% หรือรับค่ารีวิวสูงสุด 50,000 บาท สมัครเป็นเคสรีวิววันนี้ ขอรายละเอียดที่แอดมินเพิ่มได้เลย!
รายละเอียด
HDcare สรุปให้
เช็กก่อน เป็นถุงน้ำรังไข่รึเปล่านะ?
- ปวดท้องน้อยหรือปวดประจำเดือนมากกว่าปกติ
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ เช่น มาไม่ตรง ไม่มา หรือมามากไป
- ท้องใหญ่ขึ้น ถึงจะกินเท่าเดิม
- คลำเจอก้อนที่หน้าท้อง
- หรือบางคนอาจจะไม่มีอาการเลย
ทีม HDcare เลยอยากจะแนะนำให้คุณตรวจภายในเป็นประจำทุกปี รวมถึงอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ (TVS) ด้วย ยิ่งเจอเร็ว ยิ่งไม่รุนแรง และอาจรักษาได้โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด เช็กโปรตอนนี้ที่นี่ [คลิกเลย]
มีถุงน้ำรังไข่ ก็ยังมีลูกได้
- ถ้ามีถุงน้ำรังไข่ อาจจะทำให้มีบุตรยากหรือมีความเสี่ยงมีเกิดความผิดปกติระหว่างท้อง เช่น ตั้งครรภ์นอกมดลูก คุณจึงควรปรึกษาคุณหมอ เพื่อหาทางให้คุณมีโอกาสท้องได้อย่างปลอดภัยทั้งคุณแม่และคุณลูกให้ได้มากที่สุด
- ถ้าเป็นถุงน้ำแบบที่ไม่รุนแรงมาก คุณหมอสามารถผ่าตัดเอาถุงน้ำรังไข่ออกอย่างเดียว โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดเอามดลูกออก ทำให้คุณยังมีลูกได้
- ถ้าถุงน้ำมีขนาดใหญ่ รุนแรง โตเร็ว หรือถ้าคุณไม่ได้ต้องการมีลูกแล้ว คุณหมอ**อาจพิจารณาผ่าตัดมดลูกออกด้วย **
ถุงน้ำรังไข่ ยิ่งรีบรักษา ยิ่งมีหวังสร้างครอบครัว ทักแอดมินเพื่อทำนัดปรึกษาคุณหมอของ HDcare ได้ ไม่มีค่าใช้จ่าย
มีถุงน้ำรังไข่ ไม่ผ่าตัดได้ไหม?
- แล้วแต่ประเภท ขนาด และความรุนแรงของถุงน้ำ
- ถ้าเป็นถุงน้ำธรรมดา (Functional Cyst) ปกติยุบเองได้ ไม่ต้องรักษา แต่อาจทำให้ปวดท้อง
- ถ้าเป็นถุงน้ำเดอร์มอยด์ (Dermoid Cyst) และช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst หรือ Endometrioma) มักจะไม่ยุบเอง
- ถุงน้ำทั้ง 3 แบบ ถ้าแตกหรือบิดขั้ว อาจทำให้ปวดท้องอย่างรุนแรงและมีเลือดออกภายใน มีโอกาสติดเชื้อและเสียชีวิตได้
- ถ้าทิ้งไว้ไม่รักษา ถุงน้ำอาจกลายเป็นเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก มะเร็งปากมดลูก หรือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้
ผ่าตัดรังไข่แบบส่องกล้อง แผลเล็ก เจ็บน้อย
- ถ้าคุณต้องผ่าตัด ตอนนี้วิธีการผ่าตัดที่นิยมที่สุด คือการผ่าตัดรังไข่แบบส่องกล้อง แผลเล็กแค่ 0.5-1 ซม. ประมาณ 3-4 จุด เจ็บน้อย พักฟื้นไม่นาน
- ถ้าทิ้งไว้ไม่รีบรักษาจนเนื้องอกใหญ่กว่า 15 ซม. อาจจะต้องผ่าตัดรังไข่แบบเปิดหน้าท้อง มีแผลยาว 10-15 ซม. เพราะว่าแผลใหญ่กว่า เสียเลือดมากกว่า เจ็บมากกว่า ต้องพักฟื้นนานกว่า และมีโอกาสแผลติดเชื้อมากกว่า [ดูรายละเอียด]
รู้จักโรคนี้
ถุงน้ำรังไข่ คืออะไร?
ภาวะถุงน้ำในรังไข่ (Ovarian Cyst) คือภาวะที่มีถุงน้ำเกิดขึ้นภายในรังไข่ หรือบริเวณรอบรังไข่ เป็นหนึ่งในภาวะที่พบบ่อยมาก ประมาณ 1 ใน 10 ของผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ โดยถุงน้ำรังไข่มีอยู่หลายชนิด เช่น
1. Functional Cyst หรือถุงน้ำธรรมดาที่เกิดขึ้นตามปกติเหมือนรอบเดือน แล้วจะฝ่อไปเองโดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย โดยถุงน้ำประเภทนี้จะไม่จัดว่าเป็นโรคถุงน้ำในรังไข่
2. Dermoid Cyst เกิดจากเซลล์ที่มีความสามารถในการพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดต่างๆ มาอยู่ที่บริเวณรังไข่ตั้งแต่กำเนิด แล้วเกิดปัจจัยบางอย่างกระตุ้นให้พัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดต่างๆ เช่น ไขมัน เส้นผม กระดูกอ่อน หรือฟัน เป็นต้น
3. Endometrioma เกิดจากการที่เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่บริเวณรังไข่ แล้วเกิดการอักเสบจนกลายเป็นถุงน้ำด้านในมีของเหลวสีคล้ายช็อกโกแลต หรือที่รู้จักในชื่อ ช็อกโกแลต ซีสต์ (Chocolate Cyst)
สัญญาณที่ต้องตรวจ
อาการของโรคขึ้นกับชนิดของถุงน้ำ บางคนอาจไม่มีอาการ หรืออาจมีอาการเล็กน้อย ดังนี้
- คลำเจอก้อนที่หน้าท้อง
- ปวดหน่วงที่ท้องน้อย
- ประจำเดือนมาผิดปกติ เช่น มากะปริดกะปรอย หรือมามากผิดปกติ
- ท้องอืด แน่นท้อง
- ปัสสาวะบ่อยขึ้น
- ปวดท้องน้อยเฉียบพลัน ซึ่งอาจเกิดจากมีถุงน้ำรังไข่แตก หรือมีการบิดของถุงน้ำ หากเป็นในกรณีนี้ควรรีบพบแพทย์
อาการที่เกิดจากการก้อนถุงน้ำกดเบียดอวัยวะอื่น
- เบื่ออาหาร อิ่มเร็ว
- ท้องอืด ท้องเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน
- ท้องบวม แน่นท้อง คลำก้อนได้
- ปัสสาวะบ่อย ท้องเสียหรือท้องผูกเรื้อรัง
**อาการจากภาวะอื่นๆ ที่เกิดจากภาวะแทรกซ้อน **เช่น
- **ภาวะที่มีการบิดขั้วของรังไข่ **และตัดการไหลเวียนของเลือดไปยังรังไข่ เนื้อเยื่อตายและ/หรือมีเลือดออก ทำให้มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง
- ภาวะถุงน้ำหรือก้อนรังไข่แตก อาจทำให้มีเลือดออกภายในช่องท้อง เกิดอาการปวดอย่างรุนแรง หรือช็อค (อ่อนแรง เวียนศีรษะ มือ เท้า และตัวเย็น) ความเสี่ยงที่ถุงน้ำในรังไข่แตกจะสูงขึ้นถ้าก้อนขนาดใหญ่ขึ้น มีการกระแทกบริเวณท้องน้อย หรือออกกำลังหนัก
ตรวจโรคนี้อย่างไรได้บ้าง
- ซักประวัติการมีประจำเดือน และความผิดปกติอื่นๆ เพื่อหาปัจจัยเสี่ยง
- ในคนที่มีอาการ แพทย์จะซักรายละเอียดของอาการ เช่น ระยะเวลาที่เริ่มเป็น ความรุนแรง ความสัมพันธ์กับประจำเดือน สิ่งที่ทำให้อาการแย่ลง เช่น กิจกรรม ท่าทาง หรือยา
- ในเด็กหรือคนที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ แพทย์จะตรวจด้วยการอัลตราซาวด์ที่ท้องน้อย โดยให้กลั้นปัสสาวะถึงจะเห็นมดลูกและรังไข่ได้ชัดเจน บางคนอาจจำเป็นต้องตรวจอัลตราซาวด์ทางช่องคลอดหรือทางทวารหนักเพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ
ถ้าสงสัยว่ามีถุงน้ำในรังไข่ หรือซีสต์ในรังไข่ แพทย์จะตรวจประเมินลักษณะของก้อน
- ตรวจอัลตราซาวด์
- ตรวจ CT Scan หรือ MRI เพื่อประเมินตำแหน่ง ขนาดและลักษณะของถุงน้ำว่ามีส่วนประกอบของก้อนเนื้อหรือของเหลว/เนื้อตายที่อาจบ่งชี้ภาวะความเป็นมะเร็งของก้อน มดลูกและสิ่งผิดปกติอื่น ในอุ้งเชิงกราน
- ตรวจการตั้งครรภ์
- ตรวจเลือดหาสารบ่งชี้มะเร็งรังไข่
รักษาโรคนี้ได้วิธีไหนบ้าง
- ถ้าซีสต์หรือถุงน้ำในรังไข่มีขนาดเล็ก แพทย์จะให้เฝ้าสังเกตอาการและตรวจติดตามเป็นระยะๆ
- ถ้าอาการไม่รุนแรง แพทย์จะใช้ยาปรับประจำเดือนหรือยาปรับฮอร์โมน และติดตามอย่างใกล้ชิด
- ถ้าใช้ยาแล้วไม่ได้ผล หรือมีอาการรุนแรง หรือแพทย์ประเมินว่ารักษาด้วยยาไม่ได้ จะแนะนำให้รักษาด้วยการผ่าตัดถุงน้ำรังไข่ออก
การผ่าตัดถุงน้ำในรังไข่มี 2 วิธี คือ การผ่าตัดเปิดหน้าท้องหรือการผ่าตัดแบบดั้งเดิม และการผ่าตัดถุงน้ำในรังไข่โดยการส่องกล้องผ่านทางหน้าท้อง
สัญญาณที่ต้องผ่าตัด
- ถุงน้ำรังไข่มีขนาดใหญ่ขึ้น โตเร็ว หรือมีอาการมากในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่ยังมีประจำเดือน โดยเฉพาะถ้าระบุไม่ได้ว่าเป็น Functional Cysts หรือเนื้องอก
- ถุงน้ำรังไข่คงอยู่หรือโตขึ้นหลังวัยหมดประจำเดือน
- ถุงน้ำรังไข่ที่เกิดจากความผิดปกติอื่นที่ไม่ใช่เนื้องอก แต่มีขนาดใหญ่และ/หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา
- เป็นเนื้องอกของรังไข่ ไม่ว่าจะเป็นเนื้องอกธรรมดาหรือเนื้องอกชนิดร้าย (มะเร็ง) จำเป็นต้องผ่าตัดรักษาเอาก้อนออก
รู้จักการผ่าตัดนี้
**ผ่าตัดถุงน้ำหรือซีสต์รังไข่แบบส่องกล้องผ่านทางหน้าท้อง **หรือภาษาอังกฤษ Laparoscopic Ovarian Cystectomy เป็นการผ่าตัดที่ไม่ซับซ้อนนัก โดยจะผ่าตัดเอาถุงน้ำออกอย่างเดียวหรือตัดรังไข่ทั้งข้าง หรือทั้ง 2 ข้าง หรือจำเป็นต้องตัดมดลูกด้วยหรือไม่ ขึ้นกับอายุผู้ป่วย ชนิดและขนาดของถุงน้ำ รวมถึงความจำเป็นที่จะมีบุตรในอนาคต
ข้อดีของการผ่าตัดถุงน้ำในรังไข่ (แบบส่องกล้อง)
- แผลเล็กประมาณ 0.5-1 ซม. ประมาณ 3-4 จุด
- เจ็บปวดแผลน้อยกว่า อวัยวะในอุ้งเชิงกรานบอบช้ำน้อยกว่าแบบเปิด เพราะเครื่องมือผ่าตัดมีขนาดเล็ก
- ความเสี่ยงเกิดพังผืดหลังผ่าตัดน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด
- หลังผ่าตัด 1 วัน สามารถลุกเดินได้เลย
ข้อจำกัดของการผ่าตัดถุงน้ำในรังไข่ (แบบส่องกล้อง)
- ถุงน้ำขนาดใหญ่เกิน 15 ซม. ต้องผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง
- ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวบางโรค เช่น กระบังลมรั่ว โรคปอดหรือโรคหัวใจ หรือผู้ป่วยที่มีพังผืดในช่องท้องหรืออุ้งเชิงกรานมากเกินไป เช่น ผู้ป่วยที่เคยเป็นโรคติดเชื้อในช่องท้องหรือผู้ป่วยที่เคยรับการผ่าตัดช่องท้องมาหลายครั้ง
ขั้นตอนผ่าตัดถุงน้ำหรือซีสต์รังไข่ (แบบส่องกล้อง)
- วิสัญญีแพทย์ระงับความรู้สึกด้วยการดมยาสลบ
- แพทย์เจาะรูที่หน้าท้อง 3-4 จุด ขนาดประมาณ 0.5-1 ซม. เพื่อสอดอุปกรณ์พร้อมกล้องขนาดเล็กเข้าไปทำการผ่าตัด พร้อมใส่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อให้เกิดช่องว่างในอุ้งเชิงกราน ช่วยให้มองเห็นอวัยวะภายในได้ชัดเจนขึ้น
- เมื่อผ่าตัดถุงน้ำออกแล้ว แพทย์จะนําเครื่องมือออก พร้อมไล่ก๊าซในช่องท้องออกจนหมด แล้วเย็บปิดแผล
ผ่าตัดถุงน้ำหรือซีสต์รังไข่ (แบบส่องกล้อง) ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่?
ผ่าตัดถุงน้ำหรือซีสต์รังไข่ (แบบส่องกล้อง) ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 2 ชม.
เปรียบเทียบการผ่าตัดวิธีต่างๆ
ผ่าตัดถุงน้ำหรือซีสต์รังไข่ (แบบส่องกล้อง)
- แผลเล็ก 0.5-1 ซม. 1-4 จุด
- เจ็บน้อยกว่าแบบเปิด
- หลังผ่าตัด 1 วัน ลุกเดินได้เลย พักฟื้นที่รพ. 2 วัน และพักฟื้นต่อที่บ้านประมาณ 1 สัปดาห์ ก็กลับไปทำงาน และใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ผ่าตัดถุงน้ำหรือซีสต์รังไข่ (แบบเปิดหน้าท้อง)
- แผลที่หน้าท้องประมาณ 12-20 ซม.
- แผลมีขนาดใหญ่ โอกาสการติดเชื้อสูง
- หลังผ่าตัดต้องพักฟื้นที่ รพ. ประมาณ 3 วัน และพักฟื้นต่อที่บ้านประมาณ 1-2 สัปดาห์
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- แจ้งให้แพทย์ทราบถึงภาวะสุขภาพทั้งหมด รวมถึงยาหรืออาหารเสริมที่กินเป็นประจําเพราะอาจมีผลต่อการผ่าตัด แพทย์อาจให้หยุดยาหรืออาหารเสริมบางอย่าง
- งดอาหารและดื่มน้ำก่อนผ่าตัด อย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการสำลักน้ำย่อย หรือเศษอาหารจากกระเพาะอาหารเข้าสู่ปอดในระหว่างดมยาสลบ
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ควรพาญาติหรือเพื่อนมาในวันผ่าตัด
การดูแลหลังผ่าตัด
หลังจากผ่าตัดถุงน้ำรังไข่แบบส่องกล้อง ต้องพักฟื้นกี่วัน?
- พักฟื้นที่โรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการประมาณ 3 วัน ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละคน
- หลังผ่าตัด 1 วันลุกเดินได้เลย
- พักฟื้นต่อที่บ้านประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก็กลับไปทำงานและใช้ชีวิตได้ตามปกติ
** หลังจากผ่าตัดถุงน้ำรังไข่แบบส่องกล้องดูแลตัวเองดังนี้**
- หลังผ่าตัดสามารถกินอาหารได้ตามปกติ แนะนำอาหารรสอ่อน เลี่ยงของเผ็ดของหมักดอง
- ดื่มน้ำมากๆ และห้ามกลั้นปัสสาวะ
- ห้ามแผลโดนน้ำจนกว่าแผลจะแห้งสนิท หากแผลเปียกน้ำ จะต้องใช้ผ้าสะอาดซับให้แห้งทันที
- ควรลุกเดินบ่อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดพังผืดในช่องท้อง
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
- งดยกของหนักและออกกำลังกายหนักประมาณ 2-4 สัปดาห์
- งดมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 4-6 สัปดาห์
ถุงน้ำรังไข่ที่มีขนาดใหญ่ คือมากกว่า 5-7 เซนติเมตร แพทย์มักแนะนำการผ่าตัดรังไข่
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
หลังจากผ่าตัดถุงน้ำในรังไข่แล้ว ยังสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น การใช้ชีวิต อาหาร ระดับสมดุลฮอร์โมน รวมทั้งชนิดของถุงน้ำ
ถ้าเป็นถุงน้ำทั่วไปโดยส่วนใหญ่จะหายขาด ถ้าเป็นช็อกโกแลตซีสต์อาจกลับมาเป็นซ้ำได้
อาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นหลังผ่าตัดและควรรีบกลับมาพบแพทย์
- มีไข้สูง
- คลื่นไส้อาเจียน
- อาการปวดที่ไม่ทุเลาลงด้วยการกินยาแก้ปวด
- แผลผ่าตัดบวม แดง หรือมีเลือดออก
- มีเลือดออกทางช่องคลอด
สาขาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
พญ. ศันสนีย์ อังสถาพร (หมอแซน)
คุณหมอสูตินรีเวชผู้หญิง เชี่ยวชาญด้านอวัยวะและมะเร็งของผู้หญิง
ข้อมูลของแพทย์
- แพทยศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรังสิต
- วุฒิบัตร สาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
- วุฒิบัตร อนุสาขามะเร็งวิทยานรีเวช
ข้อมูลอื่นของแพทย์
- แพทย์เฉพาะทางสาขานรีเวชและมะเร็งนรีเวช
- สูตินรีแพทย์ผู้ชำนาญการการผ่าตัดเปิดหน้าท้องในด้านนรีเวช เช่น ก้อนเนื้องอกมดลูก, มดลูก, ท่อนำไข่, ก้อนเนื้อรังไข่, ถุงน้ำรังไข่
- ประสบการณ์สูตินรีเเพทย์มา 4 ปี, มะเร็งนรีเวช 2 ปี จากนั้น ปฏิบัติงานในรพ.รัฐขนาดใหญ่ 1ปี
สาขาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
พ.ต.ท.ดร.นพ. สุธรรม สุธาพร (หมอปอนด์)
คุณหมอสูตินรีเวช ปริญญาเอกและเกียรตินิยมอันดับ 1 ชำนาญด้านการผ่าตัดส่องกล้องสำหรับผู้ที่มีบุตรยากหรือมีปัญหาสุขภาพผู้หญิง
ข้อมูลของแพทย์
- แพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (เกียรตินิยมอันดับ 1)
- สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
- อนุสาขาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
- ปริญญาโท เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ มหาวิทยาลัยนอตติงแฮม ประเทศอังกฤษ (เกียรตินิยม)
- ปริญญาเอก สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาด้านการเจริญพันธุ์ มหาวิทยาลัยนอตติงแฮม ประเทศอังกฤษ
ข้อมูลอื่นของแพทย์
- สูติแพทย์ชำนาญการด้านการผ่าตัดส่องกล้องและส่องกล้องสำหรับภาวะมีบุตรยากและภาวะความผิดปกติต่างๆทางนรีเวช
- การคุมกำเนิด
- สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
- ประสบการณ์ผ่าตัดมากกว่า 10 ปี
- เทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ IVF/ICSI/IUI
- ภาวะมีบุตรยากชายและหญิง
- การตรวจวินิจฉัยคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมของตัวอ่อนก่อนฝังตัว(PGT)
- การดูแลหญิงวัยหมดประจำเดือน: การบำบัดด้วยฮอร์โมนวัยหมดประจำเดือน(MHT), โรคกระดูกพรุน
-เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ด้านต่อมไร้ท่อ : PCOS
สาขาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
ผศ.นพ. เกรียงศักดิ์ ศิริศักดิ์พาณิชย์ (หมอเล็ก)
หมอสูตินรีเวช เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะและผ่าตัดส่องกล้อง
ข้อมูลของแพทย์
- 2534 แพทยศาสตรบัณฑิต วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
- 2540 สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลค่ายจิระประวัติ นครสวรรค์
- 2541 สูติศาสตร์ นรีเวชกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
- 2556 Certificate of Urogynecology Department of Obstetrics and Gynecology, Chang Gung Memorial Hospital (Taiwan)
- 2557 Certificate of International Fellowship Program in the Department of Urogynecology, Kameda Medical Center (Japan)
ข้อมูลอื่นของแพทย์
- สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะและผ่าตัดส่องกล้อง
- โรคและหัตถการที่ชำนาญ สูตินรีเวชทั่วไป, โรคนรีเวชทางเดินปัสสาวะ, กระบังลมหย่อน (มดลูกหย่อน), การควบคุมปัสสาวะผิดปกติ, ปัสสาวะเล็ด, ผ่าตัดโรคกระบังลมหย่อน, ผ่านทางหน้าท้องด้วยวิธีส่องกล้อง, ผ่าตัดรักษาโรคกระบังลมหย่อนทางช่องคลอดโดยการใช้ตาข่ายช่วยยึด, ผ่าตัดโรคปัสสาวะเล็ดโดยการใช้ตาข่ายยกท่อปัสสาวะ
สาขาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา