ผ่าตัดถุงน้ำช็อกโกแลต
ช็อกโกแลตซีสต์ ถือเป็นความผิดปกติที่ต้องรักษา ลดโอกาสเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
รีบรักษาลดความเสี่ยงมีลูกยาก ลุกลามเป็นมะเร็ง หรือต้องตัดมดลูกออก ทำให้มีลูกไม่ได้
รายละเอียด
HDcare สรุปให้
เช็กก่อน เป็นถุงน้ำรังไข่รึเปล่านะ?
- ปวดท้องน้อยหรือปวดประจำเดือนมากกว่าปกติ
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ เช่น มาไม่ตรง ไม่มา หรือมามากไป
- ท้องใหญ่ขึ้น ถึงจะกินเท่าเดิม
- คลำเจอก้อนที่หน้าท้อง
- หรือบางคนอาจจะไม่มีอาการเลย
ทีม HDcare เลยอยากจะแนะนำให้คุณตรวจภายในเป็นประจำทุกปี รวมถึงอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ (TVS) ด้วย ยิ่งเจอเร็ว ยิ่งไม่รุนแรง และอาจรักษาได้โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด เช็กโปรตอนนี้ที่นี่ [คลิกเลย]
มีถุงน้ำรังไข่ ก็ยังมีลูกได้
- ถ้ามีถุงน้ำรังไข่ อาจจะทำให้มีบุตรยากหรือมีความเสี่ยงมีเกิดความผิดปกติระหว่างท้อง เช่น ตั้งครรภ์นอกมดลูก คุณจึงควรปรึกษาคุณหมอ เพื่อหาทางให้คุณมีโอกาสท้องได้อย่างปลอดภัยทั้งคุณแม่และคุณลูกให้ได้มากที่สุด
- ถ้าเป็นถุงน้ำแบบที่ไม่รุนแรงมาก คุณหมอสามารถผ่าตัดเอาถุงน้ำรังไข่ออกอย่างเดียว โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดเอามดลูกออก ทำให้คุณยังมีลูกได้
- ถ้าถุงน้ำมีขนาดใหญ่ รุนแรง โตเร็ว หรือถ้าคุณไม่ได้ต้องการมีลูกแล้ว คุณหมออาจพิจารณาผ่าตัดมดลูกออกด้วย
ถุงน้ำรังไข่ ยิ่งรีบรักษา ยิ่งมีหวังสร้างครอบครัว ทักแอดมินเพื่อทำนัดปรึกษาคุณหมอของ HDcare ได้ ไม่มีค่าใช้จ่าย
มีถุงน้ำรังไข่ ไม่ผ่าตัดได้ไหม?
- ถ้าเป็นช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst หรือ Endometrioma) มักจะไม่ยุบเอง หากแตกหรือบิดขั้ว อาจทำให้ปวดท้องอย่างรุนแรงและมีเลือดออกภายใน มีโอกาสติดเชื้อและเสียชีวิตได้
- ถ้าทิ้งไว้ไม่รักษา ถุงน้ำอาจกลายเป็นเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก มะเร็งปากมดลูก หรือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้
สัญญาณที่ต้องตรวจ
อาการของโรคขึ้นกับชนิดของถุงน้ำ บางคนอาจไม่มีอาการ หรืออาจมีอาการเล็กน้อย ดังนี้
- คลำเจอก้อนที่หน้าท้อง
- ปวดหน่วงที่ท้องน้อย
- ประจำเดือนมาผิดปกติ เช่น มากะปริดกะปรอย หรือมามากผิดปกติ
- ท้องอืด แน่นท้อง
- ปัสสาวะบ่อยขึ้น
- ปวดท้องน้อยเฉียบพลัน ซึ่งอาจเกิดจากมีถุงน้ำรังไข่แตก หรือมีการบิดของถุงน้ำ หากเป็นในกรณีนี้ควรรีบพบแพทย์
อาการที่เกิดจากการก้อนถุงน้ำกดเบียดอวัยวะอื่น
- เบื่ออาหาร อิ่มเร็ว
- ท้องอืด ท้องเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน
- ท้องบวม แน่นท้อง คลำก้อนได้
- ปัสสาวะบ่อย ท้องเสียหรือท้องผูกเรื้อรัง
อาการจากภาวะอื่นๆ ที่เกิดจากภาวะแทรกซ้อน เช่น
- ภาวะที่มีการบิดขั้วของรังไข่ และตัดการไหลเวียนของเลือดไปยังรังไข่ เนื้อเยื่อตายและ/หรือมีเลือดออก ทำให้มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง
- ภาวะถุงน้ำหรือก้อนรังไข่แตก อาจทำให้มีเลือดออกภายในช่องท้อง เกิดอาการปวดอย่างรุนแรง หรือช็อค (อ่อนแรง เวียนศีรษะ มือ เท้า และตัวเย็น) ความเสี่ยงที่ถุงน้ำในรังไข่แตกจะสูงขึ้นถ้าก้อนขนาดใหญ่ขึ้น มีการกระแทกบริเวณท้องน้อย หรือออกกำลังหนัก
ตรวจโรคนี้อย่างไรได้บ้าง
- ซักประวัติการมีประจำเดือน และความผิดปกติอื่นๆ เพื่อหาปัจจัยเสี่ยง
- ในคนที่มีอาการ แพทย์จะซักรายละเอียดของอาการ เช่น ระยะเวลาที่เริ่มเป็น ความรุนแรง ความสัมพันธ์กับประจำเดือน สิ่งที่ทำให้อาการแย่ลง เช่น กิจกรรม ท่าทาง หรือยา
- ในเด็กหรือคนที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ แพทย์จะตรวจด้วยการอัลตราซาวด์ที่ท้องน้อย โดยให้กลั้นปัสสาวะถึงจะเห็นมดลูกและรังไข่ได้ชัดเจน บางคนอาจจำเป็นต้องตรวจอัลตราซาวด์ทางช่องคลอดหรือทางทวารหนักเพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ
ถ้าสงสัยว่ามีถุงน้ำในรังไข่ หรือซีสต์ในรังไข่ แพทย์จะตรวจประเมินลักษณะของก้อน
- ตรวจอัลตราซาวด์
- ตรวจ CT Scan หรือ MRI เพื่อประเมินตำแหน่ง ขนาดและลักษณะของถุงน้ำว่ามีส่วนประกอบของก้อนเนื้อหรือของเหลว/เนื้อตายที่อาจบ่งชี้ภาวะความเป็นมะเร็งของก้อน มดลูกและสิ่งผิดปกติอื่น ในอุ้งเชิงกราน
- ตรวจการตั้งครรภ์
- ตรวจเลือดหาสารบ่งชี้มะเร็งรังไข่
รักษาโรคนี้ได้วิธีไหนบ้าง
- ถ้าซีสต์หรือถุงน้ำในรังไข่มีขนาดเล็ก แพทย์จะให้เฝ้าสังเกตอาการและตรวจติดตามเป็นระยะๆ
- ถ้าอาการไม่รุนแรง แพทย์จะใช้ยาปรับประจำเดือนหรือยาปรับฮอร์โมน และติดตามอย่างใกล้ชิด
- ถ้าใช้ยาแล้วไม่ได้ผล หรือมีอาการรุนแรง หรือแพทย์ประเมินว่ารักษาด้วยยาไม่ได้ จะแนะนำให้รักษาด้วยการผ่าตัดถุงน้ำรังไข่ออก
การผ่าตัดถุงน้ำในรังไข่มี 2 วิธี คือ การผ่าตัดเปิดหน้าท้องหรือการผ่าตัดแบบดั้งเดิม และการผ่าตัดถุงน้ำในรังไข่โดยการส่องกล้องผ่านทางหน้าท้อง
สัญญาณที่ต้องผ่าตัด
- ถุงน้ำรังไข่มีขนาดใหญ่ขึ้น โตเร็ว หรือมีอาการมากในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่ยังมีประจำเดือน โดยเฉพาะถ้าระบุไม่ได้ว่าเป็น Functional Cysts หรือเนื้องอก
- ถุงน้ำรังไข่คงอยู่หรือโตขึ้นหลังวัยหมดประจำเดือน
- ถุงน้ำรังไข่ที่เกิดจากความผิดปกติอื่นที่ไม่ใช่เนื้องอก แต่มีขนาดใหญ่และ/หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา
- เป็นเนื้องอกของรังไข่ ไม่ว่าจะเป็นเนื้องอกธรรมดาหรือเนื้องอกชนิดร้าย (มะเร็ง) จำเป็นต้องผ่าตัดรักษาเอาก้อนออก
เปรียบเทียบการผ่าตัดวิธีต่างๆ
ผ่าตัดถุงน้ำหรือซีสต์รังไข่ (แบบส่องกล้อง)
- แผลเล็ก 0.5-1 ซม. 1-4 จุด
- เจ็บน้อยกว่าแบบเปิด
- หลังผ่าตัด 1 วัน ลุกเดินได้เลย พักฟื้นที่รพ. 2 วัน และพักฟื้นต่อที่บ้านประมาณ 1 สัปดาห์ ก็กลับไปทำงาน และใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ผ่าตัดถุงน้ำหรือซีสต์รังไข่ (แบบเปิดหน้าท้อง)
- แผลที่หน้าท้องประมาณ 12-20 ซม.
- แผลมีขนาดใหญ่ โอกาสการติดเชื้อสูง
- หลังผ่าตัดต้องพักฟื้นที่ รพ. ประมาณ 3 วัน และพักฟื้นต่อที่บ้านประมาณ 1-2 สัปดาห์
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- แจ้งให้แพทย์ทราบถึงภาวะสุขภาพทั้งหมด รวมถึงยาหรืออาหารเสริมที่กินเป็นประจําเพราะอาจมีผลต่อการผ่าตัด แพทย์อาจให้หยุดยาหรืออาหารเสริมบางอย่าง
- งดอาหารและดื่มน้ำก่อนผ่าตัด อย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการสำลักน้ำย่อย หรือเศษอาหารจากกระเพาะอาหารเข้าสู่ปอดในระหว่างดมยาสลบ
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ควรพาญาติหรือเพื่อนมาในวันผ่าตัด
การดูแลหลังผ่าตัด
หลังผ่าตัดถุงน้ำที่รังไข่แบบเปิด ต้องพักฟื้นกี่วัน?
หลังผ่าตัดถุงน้ำที่รังไข่แบบเปิด แพทย์แนะนำให้นอนพักฟื้นที่ รพ. 1-3 วัน และพักฟื้นที่บ้านต่ออีกประมาณ 1-2 สัปดาห์
หลังผ่าตัดถุงน้ำที่รังไข่แบบเปิด แนะนำให้ดูแลตัวเองดังนี้
- ทำความสะอาดแผล กินยาฆ่าเชื้อ ยาแก้อักเสบ และยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง
- งดการว่ายน้ำ แช่อ่างอาบน้ำ ออกกำลังกายหนัก ยกสิ่งของหนัก และขับรถ อย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังผ่าตัด หรือจนกว่าที่แพทย์สั่ง
- งดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าแผลจะหายดี ประมาณ 6-8 สัปดาห์ หรือตามแพทย์สั่ง
- เปลี่ยนอิริยาบถช้าๆ และลุกเดินบ่อยๆ เพื่อลดโอกาสการเกิดพังผืดในช่องท้องจากแผลผ่าตัด
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
การผ่าตัดถุงน้ำที่รังไข่อาจเกิดอาการแทรกซ้อนขึ้นได้ แต่มีโอกาสค่อนข้างน้อย ดังนี้
- ความเสี่ยงทั่วไปที่พบได้จากการผ่าตัด เช่น การติดเชื้อ แพ้ยาชา แพ้ยาสลบ อาการชา บวมช้ำ เลือดออก หรือเลือดคลั่ง
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยาระงับความรู้สึก เช่น อาการคันตามตัว คันตามใบหน้า คลื่นไส้อาเจียน หรือท้องอืด โดยอาการจะเป็นมากในวันแรก หลังจากนั้นอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นเองจนหายกลับมาเป็นปกติ
- หลังผ่าตัดเสี่ยงเกิดอาการท้องผูก หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ง่าย ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และเน้นกินอาหารที่มีเส้นใยสูง
- หลังผ่าตัดอาจมีเลือดออกจางๆ ในช่วงเดือนแรก ถ้ามีเลือดออกมากเหมือนประจำเดือน หรือตกขาวที่มีกลิ่นเหม็นต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
- หากมีอาการแผลอักเสบ บวมแดง ไข้สูง มีเลือดออกจำนวนมาก หรือหนองออกจากช่องคลอด ให้รีบมาพบแพทย์ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันนัดหมาย
สาขาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
พ.ต.ท.ดร.นพ. สุธรรม สุธาพร (หมอปอนด์)
คุณหมอสูตินรีเวช ปริญญาเอกและเกียรตินิยมอันดับ 1 ชำนาญด้านการผ่าตัดส่องกล้องสำหรับผู้ที่มีบุตรยากหรือมีปัญหาสุขภาพผู้หญิง
ข้อมูลของแพทย์
- แพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (เกียรตินิยมอันดับ 1)
- สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
- อนุสาขาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
- ปริญญาโท เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ มหาวิทยาลัยนอตติงแฮม ประเทศอังกฤษ (เกียรตินิยม)
- ปริญญาเอก สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาด้านการเจริญพันธุ์ มหาวิทยาลัยนอตติงแฮม ประเทศอังกฤษ
ข้อมูลอื่นของแพทย์
- สูติแพทย์ชำนาญการด้านการผ่าตัดส่องกล้องและส่องกล้องสำหรับภาวะมีบุตรยากและภาวะความผิดปกติต่างๆทางนรีเวช
- การคุมกำเนิด
- สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
- ประสบการณ์ผ่าตัดมากกว่า 10 ปี
- เทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ IVF/ICSI/IUI
- ภาวะมีบุตรยากชายและหญิง
- การตรวจวินิจฉัยคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมของตัวอ่อนก่อนฝังตัว(PGT)
- การดูแลหญิงวัยหมดประจำเดือน: การบำบัดด้วยฮอร์โมนวัยหมดประจำเดือน(MHT), โรคกระดูกพรุน
-เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ด้านต่อมไร้ท่อ : PCOS