ผ่าตัดถุงน้ำหรือซีสต์รังไข่ (แบบส่องกล้อง)
ถุงน้ำรังไข่หรือซีสต์รังไข่ มี 3 ประเภทคือช็อกโกแลตซีสต์ Chocolate Cyst, Dermoid Cyst และ Functional Cyst
รีบรักษาป้องกันความเสี่ยงมีลูกยาก ลุกลามเป็นมะเร็ง หรือต้องตัดมดลูกออก ทำให้มีลูกไม่ได้
ผ่าตัดถุงน้ำรังไข่ส่องกล้อง ไม่มีแผลภายนอก เจ็บน้อย พักฟื้นไม่นาน
รายละเอียด
HDcare สรุปให้
อาการแบบนี้ต้องผ่าไหม? ผ่าที่ไหนดี? ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
กังวลอะไร มีคำถามแบบไหน HDcare จัดการให้ตลอดการรักษา
ทำนัดปรึกษาทีมแพทย์ของ HDcare วันนี้
เช็กก่อน เป็นถุงน้ำรังไข่รึเปล่านะ?
- ปวดท้องน้อยหรือปวดประจำเดือนมากกว่าปกติ
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ เช่น มาไม่ตรง ไม่มา หรือมามากไป
- ท้องใหญ่ขึ้น ถึงจะกินเท่าเดิม
- คลำเจอก้อนที่หน้าท้อง
- หรือบางคนอาจจะไม่มีอาการเลย
ทีม HDcare เลยอยากจะแนะนำให้คุณตรวจภายในเป็นประจำทุกปี รวมถึงอัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ (TVS) ด้วย ยิ่งเจอเร็ว ยิ่งไม่รุนแรง และอาจรักษาได้โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด เช็กโปรตอนนี้ที่นี่ > คลิกเลย
มีถุงน้ำรังไข่ ก็ยังมีลูกได้
- ถ้ามีถุงน้ำรังไข่ อาจจะทำให้มีบุตรยากหรือมีความเสี่ยงมีเกิดความผิดปกติระหว่างท้อง เช่น ตั้งครรภ์นอกมดลูก คุณจึงควรปรึกษาคุณหมอ เพื่อหาทางให้คุณมีโอกาสท้องได้อย่างปลอดภัยทั้งคุณแม่และคุณลูกให้ได้มากที่สุด
- ถ้าเป็นถุงน้ำแบบที่ไม่รุนแรงมาก คุณหมอสามารถผ่าตัดเอาถุงน้ำรังไข่ออกอย่างเดียว โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดเอามดลูกออก ทำให้คุณยังมีลูกได้
- ถ้าถุงน้ำมีขนาดใหญ่ รุนแรง โตเร็ว หรือถ้าคุณไม่ได้ต้องการมีลูกแล้ว คุณหมออาจพิจารณาผ่าตัดมดลูกออกด้วย
ถุงน้ำรังไข่ ยิ่งรีบรักษา ยิ่งมีหวังสร้างครอบครัว ทักแอดมินเพื่อทำนัดปรึกษาคุณหมอของ HDcare ได้ ไม่มีค่าใช้จ่าย
มีถุงน้ำรังไข่ ไม่ผ่าตัดได้ไหม?
- แล้วแต่ประเภท ขนาด และความรุนแรงของถุงน้ำ
- ถ้าเป็นถุงน้ำธรรมดา (Functional Cyst) ปกติยุบเองได้ ไม่ต้องรักษา แต่อาจทำให้ปวดท้อง
- ถ้าเป็นถุงน้ำเดอร์มอยด์ (Dermoid Cyst) และช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst หรือ Endometrioma) มักจะไม่ยุบเอง > ดูรายละเอียด
- ถุงน้ำทั้ง 3 แบบ ถ้าแตกหรือบิดขั้ว อาจทำให้ปวดท้องอย่างรุนแรงและมีเลือดออกภายใน มีโอกาสติดเชื้อและเสียชีวิตได้
- ถ้าทิ้งไว้ไม่รักษา ถุงน้ำอาจกลายเป็นเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก มะเร็งปากมดลูก หรือมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกได้
ผ่าตัดรังไข่แบบส่องกล้อง แผลเล็ก เจ็บน้อย
- ถ้าคุณต้องผ่าตัด ตอนนี้วิธีการผ่าตัดที่นิยมที่สุด คือการผ่าตัดรังไข่แบบส่องกล้อง แผลเล็กแค่ 0.5-1 ซม. ประมาณ 3-4 จุด เจ็บน้อย พักฟื้นไม่นาน
- ถ้าทิ้งไว้ไม่รีบรักษาจนเนื้องอกใหญ่กว่า 15 ซม. อาจจะต้องผ่าตัดรังไข่แบบเปิดหน้าท้อง มีแผลยาว 10-15 ซม. เพราะว่าแผลใหญ่กว่า เสียเลือดมากกว่า เจ็บมากกว่า ต้องพักฟื้นนานกว่า และมีโอกาสแผลติดเชื้อมากกว่า > ดูรายละเอียด
ดูรีวิวคนไข้สั้นๆ ไม่ถึง 1 นาที แล้วจะรู้ว่า...
ทำไม 5,000+ คน ถึงเลือกผ่าตัดกับ HDcare
รู้จักโรคนี้
ถุงน้ำรังไข่ คืออะไร?
ภาวะถุงน้ำในรังไข่ (Ovarian Cyst) คือภาวะที่มีถุงน้ำเกิดขึ้นภายในรังไข่ หรือบริเวณรอบรังไข่ เป็นหนึ่งในภาวะที่พบบ่อยมาก ประมาณ 1 ใน 10 ของผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ โดยถุงน้ำรังไข่มีอยู่หลายชนิด เช่น
1. Functional Cyst หรือถุงน้ำธรรมดาที่เกิดขึ้นตามปกติเหมือนรอบเดือน แล้วจะฝ่อไปเองโดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย โดยถุงน้ำประเภทนี้จะไม่จัดว่าเป็นโรคถุงน้ำในรังไข่
2. Dermoid Cyst เกิดจากเซลล์ที่มีความสามารถในการพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดต่างๆ มาอยู่ที่บริเวณรังไข่ตั้งแต่กำเนิด แล้วเกิดปัจจัยบางอย่างกระตุ้นให้พัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดต่างๆ เช่น ไขมัน เส้นผม กระดูกอ่อน หรือฟัน เป็นต้น
3. Endometrioma เกิดจากการที่เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่บริเวณรังไข่ แล้วเกิดการอักเสบจนกลายเป็นถุงน้ำด้านในมีของเหลวสีคล้ายช็อกโกแลต หรือที่รู้จักในชื่อ ช็อกโกแลต ซีสต์ (Chocolate Cyst)
สัญญาณที่ต้องตรวจ
อาการของโรคขึ้นกับชนิดของถุงน้ำ บางคนอาจไม่มีอาการ หรืออาจมีอาการเล็กน้อย ดังนี้
- คลำเจอก้อนที่หน้าท้อง
- ปวดหน่วงที่ท้องน้อย
- ประจำเดือนมาผิดปกติ เช่น มากะปริดกะปรอย หรือมามากผิดปกติ
- ท้องอืด แน่นท้อง
- ปัสสาวะบ่อยขึ้น
- ปวดท้องน้อยเฉียบพลัน ซึ่งอาจเกิดจากมีถุงน้ำรังไข่แตก หรือมีการบิดของถุงน้ำ หากเป็นในกรณีนี้ควรรีบพบแพทย์
อาการที่เกิดจากการก้อนถุงน้ำกดเบียดอวัยวะอื่น
- เบื่ออาหาร อิ่มเร็ว
- ท้องอืด ท้องเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน
- ท้องบวม แน่นท้อง คลำก้อนได้
- ปัสสาวะบ่อย ท้องเสียหรือท้องผูกเรื้อรัง
อาการจากภาวะอื่นๆ ที่เกิดจากภาวะแทรกซ้อน เช่น
- ภาวะที่มีการบิดขั้วของรังไข่ และตัดการไหลเวียนของเลือดไปยังรังไข่ เนื้อเยื่อตายและ/หรือมีเลือดออก ทำให้มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง
- ภาวะถุงน้ำหรือก้อนรังไข่แตก อาจทำให้มีเลือดออกภายในช่องท้อง เกิดอาการปวดอย่างรุนแรง หรือช็อค (อ่อนแรง เวียนศีรษะ มือ เท้า และตัวเย็น) ความเสี่ยงที่ถุงน้ำในรังไข่แตกจะสูงขึ้นถ้าก้อนขนาดใหญ่ขึ้น มีการกระแทกบริเวณท้องน้อย หรือออกกำลังหนัก
ตรวจโรคนี้อย่างไรได้บ้าง
- ซักประวัติการมีประจำเดือน และความผิดปกติอื่นๆ เพื่อหาปัจจัยเสี่ยง
- ในคนที่มีอาการ แพทย์จะซักรายละเอียดของอาการ เช่น ระยะเวลาที่เริ่มเป็น ความรุนแรง ความสัมพันธ์กับประจำเดือน สิ่งที่ทำให้อาการแย่ลง เช่น กิจกรรม ท่าทาง หรือยา
- ในเด็กหรือคนที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ แพทย์จะตรวจด้วยการอัลตราซาวด์ที่ท้องน้อย โดยให้กลั้นปัสสาวะถึงจะเห็นมดลูกและรังไข่ได้ชัดเจน บางคนอาจจำเป็นต้องตรวจอัลตราซาวด์ทางช่องคลอดหรือทางทวารหนักเพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ
ถ้าสงสัยว่ามีถุงน้ำในรังไข่ หรือซีสต์ในรังไข่ แพทย์จะตรวจประเมินลักษณะของก้อน
- ตรวจอัลตราซาวด์
- ตรวจ CT Scan หรือ MRI เพื่อประเมินตำแหน่ง ขนาดและลักษณะของถุงน้ำว่ามีส่วนประกอบของก้อนเนื้อหรือของเหลว/เนื้อตายที่อาจบ่งชี้ภาวะความเป็นมะเร็งของก้อน มดลูกและสิ่งผิดปกติอื่น ในอุ้งเชิงกราน
- ตรวจการตั้งครรภ์
- ตรวจเลือดหาสารบ่งชี้มะเร็งรังไข่
รักษาโรคนี้ได้วิธีไหนบ้าง
- ถ้าซีสต์หรือถุงน้ำในรังไข่มีขนาดเล็ก แพทย์จะให้เฝ้าสังเกตอาการและตรวจติดตามเป็นระยะๆ
- ถ้าอาการไม่รุนแรง แพทย์จะใช้ยาปรับประจำเดือนหรือยาปรับฮอร์โมน และติดตามอย่างใกล้ชิด
- ถ้าใช้ยาแล้วไม่ได้ผล หรือมีอาการรุนแรง หรือแพทย์ประเมินว่ารักษาด้วยยาไม่ได้ จะแนะนำให้รักษาด้วยการผ่าตัดถุงน้ำรังไข่ออก
การผ่าตัดถุงน้ำในรังไข่มี 2 วิธี คือ การผ่าตัดเปิดหน้าท้องหรือการผ่าตัดแบบดั้งเดิม และการผ่าตัดถุงน้ำในรังไข่โดยการส่องกล้องผ่านทางหน้าท้อง
สัญญาณที่ต้องผ่าตัด
- ถุงน้ำรังไข่มีขนาดใหญ่ขึ้น โตเร็ว หรือมีอาการมากในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่ยังมีประจำเดือน โดยเฉพาะถ้าระบุไม่ได้ว่าเป็น Functional Cysts หรือเนื้องอก
- ถุงน้ำรังไข่คงอยู่หรือโตขึ้นหลังวัยหมดประจำเดือน
- ถุงน้ำรังไข่ที่เกิดจากความผิดปกติอื่นที่ไม่ใช่เนื้องอก แต่มีขนาดใหญ่และ/หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา
- เป็นเนื้องอกของรังไข่ ไม่ว่าจะเป็นเนื้องอกธรรมดาหรือเนื้องอกชนิดร้าย (มะเร็ง) จำเป็นต้องผ่าตัดรักษาเอาก้อนออก
รู้จักการผ่าตัดนี้
ผ่าตัดถุงน้ำหรือซีสต์รังไข่แบบส่องกล้องผ่านทางหน้าท้อง หรือภาษาอังกฤษ Laparoscopic Ovarian Cystectomy เป็นการผ่าตัดที่ไม่ซับซ้อนนัก โดยจะผ่าตัดเอาถุงน้ำออกอย่างเดียวหรือตัดรังไข่ทั้งข้าง หรือทั้ง 2 ข้าง หรือจำเป็นต้องตัดมดลูกด้วยหรือไม่ ขึ้นกับอายุผู้ป่วย ชนิดและขนาดของถุงน้ำ รวมถึงความจำเป็นที่จะมีบุตรในอนาคต
ข้อดีของการผ่าตัดถุงน้ำในรังไข่ (แบบส่องกล้อง)
- แผลเล็กประมาณ 0.5-1 ซม. ประมาณ 3-4 จุด
- เจ็บปวดแผลน้อยกว่า อวัยวะในอุ้งเชิงกรานบอบช้ำน้อยกว่าแบบเปิด เพราะเครื่องมือผ่าตัดมีขนาดเล็ก
- ความเสี่ยงเกิดพังผืดหลังผ่าตัดน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด
- หลังผ่าตัด 1 วัน สามารถลุกเดินได้เลย
ข้อจำกัดของการผ่าตัดถุงน้ำในรังไข่ (แบบส่องกล้อง)
- ถุงน้ำขนาดใหญ่เกิน 15 ซม. ต้องผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง
- ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวบางโรค เช่น กระบังลมรั่ว โรคปอดหรือโรคหัวใจ หรือผู้ป่วยที่มีพังผืดในช่องท้องหรืออุ้งเชิงกรานมากเกินไป เช่น ผู้ป่วยที่เคยเป็นโรคติดเชื้อในช่องท้องหรือผู้ป่วยที่เคยรับการผ่าตัดช่องท้องมาหลายครั้ง
ขั้นตอนผ่าตัดถุงน้ำหรือซีสต์รังไข่ (แบบส่องกล้อง)
- วิสัญญีแพทย์ระงับความรู้สึกด้วยการดมยาสลบ
- แพทย์เจาะรูที่หน้าท้อง 3-4 จุด ขนาดประมาณ 0.5-1 ซม. เพื่อสอดอุปกรณ์พร้อมกล้องขนาดเล็กเข้าไปทำการผ่าตัด พร้อมใส่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อให้เกิดช่องว่างในอุ้งเชิงกราน ช่วยให้มองเห็นอวัยวะภายในได้ชัดเจนขึ้น
- เมื่อผ่าตัดถุงน้ำออกแล้ว แพทย์จะนําเครื่องมือออก พร้อมไล่ก๊าซในช่องท้องออกจนหมด แล้วเย็บปิดแผล
ผ่าตัดถุงน้ำหรือซีสต์รังไข่ (แบบส่องกล้อง) ใช้ระยะเวลาเท่าไหร่?
ผ่าตัดถุงน้ำหรือซีสต์รังไข่ (แบบส่องกล้อง) ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 2 ชม.
เปรียบเทียบการผ่าตัดวิธีต่างๆ
ผ่าตัดถุงน้ำหรือซีสต์รังไข่ (แบบส่องกล้อง)
- แผลเล็ก 0.5-1 ซม. 1-4 จุด
- เจ็บน้อยกว่าแบบเปิด
- หลังผ่าตัด 1 วัน ลุกเดินได้เลย พักฟื้นที่รพ. 2 วัน และพักฟื้นต่อที่บ้านประมาณ 1 สัปดาห์ ก็กลับไปทำงาน และใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ผ่าตัดถุงน้ำหรือซีสต์รังไข่ (แบบเปิดหน้าท้อง)
- แผลที่หน้าท้องประมาณ 12-20 ซม.
- แผลมีขนาดใหญ่ โอกาสการติดเชื้อสูง
- หลังผ่าตัดต้องพักฟื้นที่ รพ. ประมาณ 3 วัน และพักฟื้นต่อที่บ้านประมาณ 1-2 สัปดาห์
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- แจ้งให้แพทย์ทราบถึงภาวะสุขภาพทั้งหมด รวมถึงยาหรืออาหารเสริมที่กินเป็นประจําเพราะอาจมีผลต่อการผ่าตัด แพทย์อาจให้หยุดยาหรืออาหารเสริมบางอย่าง
- งดอาหารและดื่มน้ำก่อนผ่าตัด อย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการสำลักน้ำย่อย หรือเศษอาหารจากกระเพาะอาหารเข้าสู่ปอดในระหว่างดมยาสลบ
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ควรพาญาติหรือเพื่อนมาในวันผ่าตัด
การดูแลหลังผ่าตัด
หลังจากผ่าตัดถุงน้ำรังไข่แบบส่องกล้อง ต้องพักฟื้นกี่วัน?
พักฟื้นที่โรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการประมาณ 3 วัน ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละคน
หลังผ่าตัด 1 วันลุกเดินได้เลย
พักฟื้นต่อที่บ้านประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก็กลับไปทำงานและใช้ชีวิตได้ตามปกติ
หลังจากผ่าตัดถุงน้ำรังไข่แบบส่องกล้องดูแลตัวเองดังนี้
หลังผ่าตัดสามารถกินอาหารได้ตามปกติ แนะนำอาหารรสอ่อน เลี่ยงของเผ็ดของหมักดอง
ดื่มน้ำมากๆ และห้ามกลั้นปัสสาวะ
ห้ามแผลโดนน้ำจนกว่าแผลจะแห้งสนิท หากแผลเปียกน้ำ จะต้องใช้ผ้าสะอาดซับให้แห้งทันที
ควรลุกเดินบ่อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดพังผืดในช่องท้อง
งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่
งดยกของหนักและออกกำลังกายหนักประมาณ 2-4 สัปดาห์
งดมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 4-6 สัปดาห์
ถุงน้ำรังไข่ที่มีขนาดใหญ่ คือมากกว่า 5-7 เซนติเมตร แพทย์มักแนะนำการผ่าตัดรังไข่
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
หลังจากผ่าตัดถุงน้ำในรังไข่แล้ว ยังสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น การใช้ชีวิต อาหาร ระดับสมดุลฮอร์โมน รวมทั้งชนิดของถุงน้ำ
ถ้าเป็นถุงน้ำทั่วไปโดยส่วนใหญ่จะหายขาด ถ้าเป็นช็อกโกแลตซีสต์อาจกลับมาเป็นซ้ำได้
อาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นหลังผ่าตัดและควรรีบกลับมาพบแพทย์
- มีไข้สูง
- คลื่นไส้อาเจียน
- อาการปวดที่ไม่ทุเลาลงด้วยการกินยาแก้ปวด
- แผลผ่าตัดบวม แดง หรือมีเลือดออก
- มีเลือดออกทางช่องคลอด
พ.ต.ท.ดร.นพ. สุธรรม สุธาพร (ว.41974)
สูตินรีแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
ข้อมูลของแพทย์
- แพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (เกียรตินิยมอันดับ 1)
- สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
- อนุสาขาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
- ปริญญาโท เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ มหาวิทยาลัยนอตติงแฮม ประเทศอังกฤษ (เกียรตินิยม)
- ปริญญาเอก สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาด้านการเจริญพันธุ์ มหาวิทยาลัยนอตติงแฮม ประเทศอังกฤษ
ผศ.นพ. เกรียงศักดิ์ ศิริศักดิ์พาณิชย์ (ว.22054)
สูตินรีแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์เชิงกรานสตรีและศัลยกรรมซ่อมเสริม ต่อยอด ผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช
ข้อมูลของแพทย์
- แพทยศาสตรบัณฑิต วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า
- สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลค่ายจิระประวัติ นครสวรรค์
- สูติศาสตร์ นรีเวชกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
- Certificate of Urogynecology Department of Obstetrics and Gynecology, Chang Gung Memorial Hospital (Taiwan)
- Certificate of International Fellowship Program in the Department of Urogynecology, Kameda Medical Center (Japan)
นพ. ศรุฒก์ กิจอันเจริญ (ว.40283)
สูตินรีแพทย์ต่อยอดผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช
ข้อมูลของแพทย์
- สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา, King Chulalongkorn Memorial Hospital
- International fellowship: การผ่าตัดทางนรีเวชผ่านกล้องทางหน้าท้อง (Gynecologic endoscopic surgery), Pius Hospital, University of Oldenburg, Germany
พญ. จุฑาภรณ์ อุทัยแสน (ว.36413)
สูตินรีแพทย์เฉพาะทางมะเร็งวิทยานรีเวช ต่อยอดผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช
ข้อมูลของแพทย์
- แพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- วุฒิบัตรสาขาสูตินรีวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
- วุฒิบัตรสาขามะเร็งนรีเวชวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
- อนุสาขามะเร็งวิทยานรีเวช โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า
- ประกาศนียบัตรการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า
พญ. จิตตรินทร์ ศรีระอัมพุช (ว.40014)
สูตินรีแพทย์เฉพาะทางมะเร็งวิทยานรีเวช ต่อยอดผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช
ข้อมูลของแพทย์
- แพทยศาสตรบัณฑิต, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- ว.สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- อนุสาขามะเร็งวิทยานรีเวช, คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
พญ. เบญจมาศ กิจนิธี (ว.45292)
สูตินรีแพทย์ ต่อยอดผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช
ข้อมูลอื่นของแพทย์
- แพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดล
- วุฒิบัตรสาขาสูตินรีวิทยา
- ประกาศนียบัตรการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช
