ผ่าตัดมดลูก (ทางช่องคลอด)
ผ่าตัดทางช่องคลอดเปิดแผลที่ปากมดลูก มีแผลเดียว เจ็บน้อย พักฟื้นได้ไว ไม่ต้องกลัวว่าจะมีรอยแผลเป็น
ผ่าตัดได้พร้อมทำรีแพร์ ซ่อมกระเพาะปัสสาวะหรือไส้ตรง แก้ปัญหาปัสสาวะเล็ด
ไม่ต้องกินฮอร์โมนไปตลอดชีวิต เพราะไม่ได้ตัดรังไข่ออก
รายละเอียด
HDcare สรุปให้
ตรวจเจอเร็ว รักษาเร็ว ไม่ต้องตัดมดลูกทิ้ง
- ความฝันของผู้หญิงหลายๆ คน คือการเป็นแม่ อย่ารอปล่อยทิ้งไว้จนปัญหาลุกลามจนต้องตัดมดลูกออกทั้งหมด
- ถ้าเจอเนื้องอกขนาดยังไม่ใหญ่ แพทย์สามารถตัดแค่เนื้องอกได้ ทำให้คุณยังมีลูกและสร้างครอบครัวที่น่ารักอย่างที่หวังไว้ได้
- อย่าลืมไปตรวจภายในอย่างน้อยปีละครั้ง รวมถึงตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องส่วนล่าง หรืออัลตราซาวด์มดลูกและรังไข่ทางช่องคลอด (TVS)
ให้แอดมินแนะนำโปรตรวจคัดกรองเนื้องอกมดลูกให้คุณวันนี้
ผ่าตัดมดลูกและปากมดลูก ป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ดี แพทย์มักเลือกผ่าตัดแบบนี้มากกว่าวิธีอื่น
- ไม่ส่งผลกระทบกับฮอร์โมนเพศ ไม่ต้องกินฮอร์โมนทดแทน เพราะไม่ได้ตัดรังไข่ออก
- ผ่าตัดมดลูกและปากมดลูกผ่านทางช่องคลอดเปิดแผลที่ปากมดลูก มีแผลเดียว เจ็บน้อย พักฟื้นได้ไว และไม่ต้องกลัวว่าจะมีรอยแผลเป็น
- ผ่าตัดได้พร้อมกับทำรีแพร์, ซ่อมกระเพาะปัสสาวะหรือไส้ตรง, แก้ปัญหาปัสสาวะเล็ดได้
ทำนัดปรึกษาทีมแพทย์ของ HDcare วันนี้
ถ้าเป็นเนื้องอกมดลูก ไม่จำเป็นต้องตัดมดลูกและปากมดลูกออก!
- รักษาเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก ด้วยเครื่อง HIFU ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ไม่เสียเลือดขณะผ่าตัด ไม่ต้องใช้ยาสลบ ไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อรอบๆ และอวัยวะข้างเคียง [คลิกที่นี่]
- **ผ่าตัดเนื้องอกมดลูกแบบส่องกล้องทางโพรงมดลูก **ไม่มีรอยแผลผ่าตัดที่เห็นได้ [คลิกที่นี่]
- **ผ่าตัดเนื้องอกมดลูกแบบส่องกล้องทางหน้าท้อง **แผลเล็กมาก มีโอกาสเกิดแผลเป็นจากการผ่าตัดน้อย ฟื้นตัวเร็ว [คลิกที่นี่]
- **ผ่าตัดเนื้องอกมดลูกแบบเปิดหน้าท้อง **ผ่าเปิดหน้าท้องเป็นแนวยาว สำหรับเนื้องอกขนาดใหญ่ [คลิกที่นี่]
ไม่แน่ใจ ต้องผ่าไหม? ถ้าต้องผ่าต้องผ่าแบบไหน? ราคาเท่าไหร่? เบิกประกันได้ไหม?
ทีมแพทย์ HDcare พร้อมให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
- สูตินรีแพทย์เฉพาะทาง ประสบการณ์ 10+ ปี
- เลือกคุณหมอผู้หญิงได้
รู้จักโรคนี้
โรคอะไรที่ต้องผ่าตัดมดลูกและปากมดลูก?
- โรคที่เกี่ยวข้องกับมดลูก เช่น เนื้องอกมดลูก มะเร็งมดลูก มะเร็งปากมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวผิดปกติ
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ อวัยวะในอุ้งเชิงกรานหย่อนหรือยื่นย้อย
- ภาวะฝีหนองในอุ้งเชิงกราน ภาวะควบคุมอาการตกเลือดหลังคลอดบุตรไม่ได้
สัญญาณที่ต้องตรวจ
- ปวดปัสสาวะบ่อย
- มีอาการท้องผูกผิดปกติ
- คลำเจอก้อนที่บริเวณท้องน้อย
- มีภาวะมีบุตรยากหรือแท้งบุตรง่าย
- ปวดท้องเรื้อรัง หรือปวดท้องคล้ายปวดประจำเดือนตลอดเวลา
- มีเลือดคล้ายประจำเดือนออกมามาก โดยไม่มีอาการปวดท้องน้อย อาจมีอาการประจำเดือนขาดมาก่อนหน้าประมาณ 2-3 เดือน
ตรวจโรคนี้อย่างไรได้บ้าง
สามารถตรวจพบเนื้องอกมดลูกได้โดยการตรวจภายในเป็นประจำทุกปี ควบคู่กับการตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอดเพื่อหาความผิดปกติ
สัญญาณที่ต้องผ่าตัด
- ภาวะยื่นย้อยของมดลูก และ/หรือผนังช่องคลอด หรือที่เรียกว่า อวัยวะอุ้งเชิงกรานหย่อน เป็นภาวะที่เนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่พยุงมดลูกช่องคลอดเกิดความเสียหายและอ่อนแอลงจนทำให้มดลูกหย่อนลงมา ทำให้รู้สึกถ่วง หน่วง หรือตึงแน่นในช่องคลอด
- เนื้องอกที่มดลูก เกิดจากการเจริญเติบโตของเซลล์กล้ามเนื้อมดลูกที่ผิดปกติ เกิดได้ทั้งด้านนอกผนังมดลูก ในเนื้อมดลูก และในโพรงมดลูก มี 2 ชนิดคือ เนื้องอกชนิดธรรมดาและเนื้องอกชนิดที่เป็นมะเร็ง
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เป็นภาวะที่เยื่อบุโพรงมดลูกไปเจริญเติบโตนอกเหนือจากภายในโพรงมดลูก แล้วทำให้เกิดอาการผิดปกติที่อวัยวะนั้นๆ
- อาการผิดปกติที่พบบ่อยคือช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst) ทำให้อาการปวดท้องมากขณะมีประจำเดือน รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ ปวดท้องคล้ายอยากอุจจาระขณะมีประจำเดือนทุกครั้ง และคลำเจอก้อนในร่างกายบริเวณช่องท้องส่วนล่าง
- ภาวะเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูก เช่น ประจำเดือนมามากกว่าปกติ มีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ เลือดออกในวัยหมดระดู เลือดออกในวัยก่อนระดู หรือมีเลือดออกกะปริดกะปรอยก่อน หรือหลังรอบเดือน
- **คนที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูกรุนแรง **จนทำให้เกิดภาวะซีดและต้องให้เลือด แพทย์อาจพิจารณาในผ่าตัดมดลูกออก
รู้จักการผ่าตัดนี้
การผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอด คืออะไร?
การผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอด (Vaginal Hysterectomy) คือ การผ่าตัดนำมดลูกออกทางช่องคลอด โดยแพทย์เปิดแผลที่บริเวณปากมดลูก แล้วผ่าตัดนำมดลูกออกมาทางช่องคลอด ทำให้มีแผลเดียว ไม่มีแผลที่บริเวณส่วนอื่นของร่างกาย จึงเจ็บน้อยกว่า พักฟื้นได้ไวกว่า และไม่ต้องกังวลกับรอยแผลเป็น เมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง และผ่าตัดแบบส่องกล้อง
การผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอดนั้น สามารถทำร่วมกับการผ่าตัดรีแพร์ ซ่อมเสริมกระเพาะปัสสาวะและ/หรือไส้ตรง รวมถึงผ่าตัดใส่สายคล้องท่อปัสสาวะเพื่อแก้ไขภาวะปัสสาวะเล็ดขณะออกแรงได้
ขั้นตอนการผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอดเป็นอย่างไร?
ก่อนเข้ารับการผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอด ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพร่างกายอย่างละเอียดก่อน
หลังจากที่แพทย์ประเมินแล้วว่าสามารถผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอดได้ แพทย์จะนัดวันเข้ารับการผ่าตัด โดยมีขั้นตอนการผ่าตัดดังนี้
- วิสัญญีแพทย์จะให้ยาระงับความรู้สึกทางไขสันหลัง
- หลังจากนั้นแพทย์จะทำการผ่ามดลูกผ่านทางช่องคลอด โดยจะทำการเปิดแผลที่บริเวณปากมดลูก
- หลังจากที่ผ่าตัดเสร็จแล้ว แพทย์จะทำการเย็บแผลให้เรียบร้อย และให้ไปนอนสังเกตอาการที่ห้องพักฟื้นต่อประมาณ 1-2 ชั่วโมง ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดจะส่งกลับไปพักต่อที่หอผู้ป่วย
- ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะต้องใส่สายสวนปัสสาวะอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด โดยจะใส่นานแค่ไหน ขึ้นกับชนิดของการผ่าตัด และภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นระหว่างผ่าตัด
การผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอดใช้ระยะเวลาเท่าใด?
การผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอดใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
การผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอดต้องพักฟื้นนานเท่าไหร่?
การผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอดใช้ระยะเวลาพักฟื้น 3-5 วันเท่านั้น หลังจากนั้นก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ข้อจำกัดในการเข้ารับการผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอด
การผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอด ไม่สามารถทำได้ในผู้ที่มีขนาดมดลูกใหญ่เกิน 1,500 กรัม เคยผ่านการผ่าตัดหลายครั้ง หรือมีพังผืดหนาในอุ้งเชิงกราน และผู้ที่เป็นมะเร็งรังไข่ มะเร็งมดลูก หรือมะเร็งปากมดลูก
แพทย์จำเป็นต้องผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง หรือผ่าตัดแบบส่องกล้องแทน
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัด ทำให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างปลอดภัยมากขึ้น โดยแพทย์จะแนะนำให้เตรียมตัวดังนี้
- ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะตรวจประเมินความเสี่ยงก่อนการผ่าตัดให้เรียบร้อย
- ควรรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ และกินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้ดีขึ้น และลดโอกาสในการติดเชื้อหลังผ่าตัด
- งดการสูบบุหรี่อย่างน้อย 3-6 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด เพราะนิโคตินในบุหรี่จะส่งผลกระทบต่อการหายของบาดแผล
- งดการใช้ยาที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้าอย่างน้อย 7 วันก่อนการผ่าตัด เพื่อลดการเสียเลือดระหว่างผ่าตัด เช่น ยาแอสไพริน ยาวาร์ฟาริน หรือยาในกลุ่มระงับอาการปวด
- งดการใช้ยาสมุนไพร อาหารเสริม หรือวิตามินบางประเภท ที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น น้ำมันปลา โอเมก้า 3 น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส หรือโคเอนไซม์คิวเทน เป็นต้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม
- งดอาหารและดื่มน้ำก่อนผ่าตัด อย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการสำลักน้ำย่อย หรือเศษอาหารจากกระเพาะอาหารเข้าสู่ปอดในระหว่างที่ได้รับยาระงับความรู้สึก
- หลังจากผ่าตัดแล้ว จะต้องนอนพักฟื้นต่อที่โรงพยาบาล 1-3 วัน ควรเตรียมเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไปให้เรียบร้อย
การดูแลหลังผ่าตัด
หลังจากที่แพทย์อนุญาตให้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้แล้ว ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูได้เร็วขึ้น และป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย ดังนี้
- ทำความสะอาดแผลตามที่แพทย์แนะนำ
- รับประทานยาฆ่าเชื้อ ยาแก้อักเสบ และยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง
- งดการว่ายน้ำ แช่อ่างอาบน้ำ ออกกำลังกายหนัก ยกสิ่งของหนัก และขับรถ อย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังผ่าตัด หรือจนกว่าที่แพทย์สั่ง
- งดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าแผลจะหายสนิท ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์ หรือจนกว่าที่แพทย์สั่ง
- หลังผ่าตัดแล้วจะมีโอกาสเสี่ยงในการเกิดอาการท้องผูก หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ง่าย จึงควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และเน้นรับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูง
- หลังผ่าตัดแล้ว อาจจะยังมีเลือดออกจางๆ ได้ในช่วงเดือนแรก อย่างไรก็ตาม ถ้ามีเลือดออกมากเหมือนประจำเดือน หรือมีตกขาวที่มีกลิ่นเหม็น จะต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
การผ่าตัดมดลูกผ่านทางช่องคลอดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ ดังนี้
- ความเสี่ยงทั่วไปที่พบได้จากการผ่าตัด เช่น การติดเชื้อ แพ้ยาชา แพ้ยาสลบ อาการชา บวมช้ำ เลือดออก หรือเลือดคลั่ง
- ผลข้างเคียงจากการใช้ยาระงับความรู้สึก เช่น อาการคันตามตัว คันตามใบหน้า คลื่นไส้อาเจียน หรือท้องอืด โดยอาการจะเป็นมากในวันแรก หลังจากนั้นอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นเองจนหายกลับมาเป็นปกติ
- หากมีอาการแผลอักเสบ บวมแดง ไข้สูง มีเลือดออกจำนวนมาก หรือหนองออกจากช่องคลอด ให้รีบมาพบแพทย์ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันนัดหมาย
สาขาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
พญ. ศันสนีย์ อังสถาพร (หมอแซน)
คุณหมอสูตินรีเวชผู้หญิง เชี่ยวชาญด้านอวัยวะและมะเร็งของผู้หญิง
ข้อมูลของแพทย์
- แพทยศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรังสิต
- วุฒิบัตร สาขาสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
- วุฒิบัตร อนุสาขามะเร็งวิทยานรีเวช
ข้อมูลอื่นของแพทย์
- แพทย์เฉพาะทางสาขานรีเวชและมะเร็งนรีเวช
- สูตินรีแพทย์ผู้ชำนาญการการผ่าตัดเปิดหน้าท้องในด้านนรีเวช เช่น ก้อนเนื้องอกมดลูก, มดลูก, ท่อนำไข่, ก้อนเนื้อรังไข่, ถุงน้ำรังไข่
- ประสบการณ์สูตินรีเเพทย์มา 4 ปี, มะเร็งนรีเวช 2 ปี จากนั้น ปฏิบัติงานในรพ.รัฐขนาดใหญ่ 1ปี
สาขาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
พ.ต.ท.ดร.นพ. สุธรรม สุธาพร (หมอปอนด์)
คุณหมอสูตินรีเวช ปริญญาเอกและเกียรตินิยมอันดับ 1 ชำนาญด้านการผ่าตัดส่องกล้องสำหรับผู้ที่มีบุตรยากหรือมีปัญหาสุขภาพผู้หญิง
ข้อมูลของแพทย์
- แพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (เกียรตินิยมอันดับ 1)
- สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
- อนุสาขาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
- ปริญญาโท เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ มหาวิทยาลัยนอตติงแฮม ประเทศอังกฤษ (เกียรตินิยม)
- ปริญญาเอก สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาด้านการเจริญพันธุ์ มหาวิทยาลัยนอตติงแฮม ประเทศอังกฤษ
ข้อมูลอื่นของแพทย์
- สูติแพทย์ชำนาญการด้านการผ่าตัดส่องกล้องและส่องกล้องสำหรับภาวะมีบุตรยากและภาวะความผิดปกติต่างๆทางนรีเวช
- การคุมกำเนิด
- สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา
- ประสบการณ์ผ่าตัดมากกว่า 10 ปี
- เทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ IVF/ICSI/IUI
- ภาวะมีบุตรยากชายและหญิง
- การตรวจวินิจฉัยคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมของตัวอ่อนก่อนฝังตัว(PGT)
- การดูแลหญิงวัยหมดประจำเดือน: การบำบัดด้วยฮอร์โมนวัยหมดประจำเดือน(MHT), โรคกระดูกพรุน
-เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ด้านต่อมไร้ท่อ : PCOS
สาขาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา