ผ่าตัดต่อมหมวกไต (แบบส่องกล้อง)
เจ็บน้อย และเสี่ยงน้อยกาการผ่าแบบดั้งเดิม
รายละเอียด
รู้จักโรคนี้
ต่อมหมวกไตคืออะไร ทำหน้าที่อะไร?
ต่อมหมวกไต (Adrenal Gland) เป็นส่วนหนึ่งของระบบต่อมไร้ท่อ ลักษณะคล้ายสามเหลี่ยม มีขนาดประมาณ 4x3x1 เซนติเมตร อยู่เหนือไต 2 ข้าง เนื้อเยื่อต่อมหมวกไตมีลักษณะอ่อนยุ่ย
อวัยวะเล็กๆ นี้มีส่วนประกอบ 2 ชั้น ชั้นในเรียกว่าอะดรีนอลเมดุลลา (Adrenal Medulla) และเปลือกนอกเรียกว่าอะดรีนอลคอร์เทกซ์ (Adrenal Cortex) แต่ละชั้นทำหน้าที่ผลิตฮอร์โมนต่างชนิดกัน
ฮอร์โมนสำคัญหลายชนิดของร่างกายมนุษย์ผลิตจากต่อมหมวกไต เช่น
- อัลโดสเตอโรน (Aldosterone) ทำหน้าที่ควบคุมสมดุลแร่ธาตุโซเดียมและโปแทสเซียมในเลือด หรือช่วยให้ความเป็นกรด-ด่างในเลือดสมดุล
- คอร์ติซอล (Cortisol) ทำหน้าที่สำคัญหลายอย่าง ได้แก่ ควบคุมการใช้ไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรตของร่างกาย ควบคุมภาวะอักเสบ ปรับความดันโลหิตให้เป็นปกติ เพิ่มน้ำตาลในเลือด และควบคุมวงจรนานนอนหลับ เมื่อร่างกายเกิดความเครียด ต่อมหมวกไตจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมาให้พลังงานและปรับร่างกายรับมือกับสถานการณ์ความตึงเครียดได้ดีขึ้น
- อะดรีนาลีน (Adrenaline) ทำหน้าที่เตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับตอบสนองภาวะเครียดหรือสถานการณ์อันตราย เช่น ทำให้เลือดสูบฉีดแรงขึ้น หัวใจเต้นเร็วขึ้น
- ดีเอชอีเอ (DHEA, Dehydroepiandosterone) ฮอร์โมนนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นฮอร์โมนเพศหญิงในรังไข่ และถูกเปลี่ยนเป็นฮอร์โมนเพศชายในอัณฑะ ทำหน้าที่ต้านความเครียด เสริมความแข็งแรง และชะลอความเสื่อมของร่างกาย
โดยรวมแล้ว ฮอร์โมนที่ผลิตจากต่อมหมวกไตช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำหน้าที่เป็นปกติ เช่น การเผาผลาญพลังงาน ภูมิคุ้มกัน ความดันโลหิต และการตอบสนองความเครียด
สัญญาณที่ต้องผ่าตัด
กรณีใดบ้างที่ต้องผ่าตัดต่อมหมวกไต?
เหตุผลส่วนใหญ่ที่ทำให้แพทย์พิจารณาให้ผ่าตัดต่อมหมวกไตออก มักมาจากการพบก้อนหรือเนื้องอก โดยเนื้องอกที่เกิดในต่อมหมวกไตเองมักเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง (Benign) กรณีที่พบมะเร็งที่ต่อมหมวกไต ทั่วไปแล้วมักเป็นการลุกลามมาจากบริเวณอื่น
ซึ่งถ้าเป็นมะเร็ง นอกจากการผ่าตัดแล้ว คนไข้ยังอาจต้องรับการรักษาอื่นร่วมด้วย เช่น ฉายรังสีรักษา และจำเป็นต้องรับการตรวจว่ามีการแพร่กระจายของโรคไปยังอวัยวะข้างเคียงหรือกระดูกหรือไม่
สาเหตุอื่นที่อาจทำให้ต้องผ่าตัดต่อมหมวกไต ได้แก่ ร่างกายมีปัญหาผลิตฮอร์โมนมากเกินปกติ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากมีเนื้องอกที่ต่อมไร้ท่ออื่นๆกรณีนี้แพทย์อาจผ่าตัดต่อมหมวกไตออกหนึ่งข้าง แล้วให้ต่อมหมวกไตข้างที่เหลือทำงาน เพื่อให้ผลิตฮอร์โมนน้อยลง
จะรู้ได้อย่างไรว่าต้องผ่าตัดต่อมหมวกไต?
แม้จะเกิดความผิดปกติที่ต่อมหมวกไต หรือมีก้อนเกิดขึ้น คนไข้ก็อาจไม่รู้สึกถึงความผิดปกติใดๆ ส่วนมากแล้วการความผิดปกติระยะเริ่มต้นมักตรวจพบจากการตรวจสุขภาพประจำปี
แพทย์จะเป็นผู้ซักประวัติ ตรวจเอกซเรย์ช่องท้อง หรืออาจสั่งตรวจ CT scan หรือ MRI เพิ่มเพื่อให้เห็นภาพอวัยวะภายในอย่างชัดเจน แล้ววินิจฉัยว่าคนไข้ควรรับการผ่าตัดหรือไม่ และดูว่าสามารถผ่าตัดด้วยเทคนิคใดได้
รู้จักการผ่าตัดนี้
การผ่าตัดต่อมหมวกไตผ่านกล้อง (Laparoscopic Adrenalectomy)
การผ่าตัดต่อมหมวกไตแบบดั้งเดิมใช้เทคนิคผ่าตัดแบบเปิด ต้องต้องอาศัยเครื่องมือถ่างขยาย ทำให้คนไข้มีแผลกว้าง เสียเลือดมาก ระยะเวลาพักฟื้นหลังผ่าตัดนาน เหลือแผลเป็นขนาดใหญ่หลังผ่าตัด
ปัจจุบันแนวทางการผ่าตัดต่อมหมวกไตมาตรฐานเปลี่ยนมาเป็นการผ่าตัดแบบส่องกล้อง เพราะขนาดอุปกรณ์ที่เล็กและยาวทำให้เข้าถึงบริเวณที่ต้องการผ่าตัดได้ง่ายขึ้น โดยกระทบกับอวัยวะและเนื้อเยื่อข้างเคียงน้อยกว่าผ่าตัดแบบเปิด
- ก่อนเริ่มผ่าตัดจะมีการวางยาสลบเพื่อระงับความรู้สึก ใส่สายสวนปัสสาวะ แล้วจัดคนไข้ให้อยู่ในท่านอนตะแคง ให้ด้านที่จะทำการผ่าตัดอยู่ด้านบน
- การผ่าตัดผ่านกล้องจะใช้เทคนิคเจาะเปิดแผลเล็กๆ บริเวณหน้าท้องหรือหลัง จำนวน 1-4 รู แล้วสอดกล้องกำลังขยายสูงพร้อมเครื่องมือผ่าตัดขนาดเล็กเข้าไปในช่องท้อง
- ขณะผ่าตัดจะมีการให้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในช่องท้องเพื่อขยายพื้นที่ ภาพจากกล้องที่ถูกใส่เข้าในช่องท้องจะฉายมาทางจอภาพขนาดใหญ่ในห้องผ่าตัด ทำให้แพทย์เห็นบริเวณผ่าตัดชัดเจน ทำการผ่าตัดได้อย่างแม่นยำ
โดยทั่วไปแล้วการผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง
การผ่าตัดต่อมหมวกไตผ่านกล้องถือเป็นเทคนิคการผ่าตัดที่ได้ผลดี เมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิดแล้วช่วยให้เสียเลือดน้อยกว่า เจ็บแผลน้อย
ระยะเวลาพักฟื้นสั้นกว่าโดยถ้าผ่าตัดส่องกล้องแล้วมักต้องค้างคืนในโรงพยาบาล 1 คืน ขณะที่การผ่าตัดแบบเปิดอาจต้องนอน 3-5 คืน
นอกจากนี้ ผลข้างเคียงจากการผ่าตัดแบบส่องกล้องยังน้อยกว่า และหลังผ่าตัดไปแล้วมีแผลเป็นขนาดเล็กกว่าการผ่าตัดแบบเปิดอีกด้วย
ข้อจำกัดของการผ่าตัดต่อมหมวกไตผ่านกล้อง
ปัจจุบันการผ่าตัดต่อมหมวกไตผ่านกล้องจัดว่าเป็นการรักษามาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่คนไข้ทุกรายที่สามารถผ่าตัดต่อมหมวกไตแบบส่องกล้องได้
แพทย์จะพิจารณาจากโรคที่เป็น ระยะของโรค ถ้าเป็นเนื้องอกต้องดูชนิดและขนาดของเนื้องอก ร่วมกับภาวะสุขภาพของคนไข้ เช่น น้ำหนักตัว อายุ โรคอื่นๆ ที่เป็นร่วมกับโรคต่อมหมวกไต
ตัวอย่างข้อจำกัดที่ทำให้ไม่สามารถผ่าตัดต่อมหมวกไตผ่านกล้อง เช่น
- ตรวจพบว่าเนื้องอกที่ต่อมหมวกไตเป็นมะเร็ง เพราะเสี่ยงที่เซลล์มะเร็งจะแพร่กระจาย
- เนื้องอกที่ต้องผ่าตัดออกนั้นมีขนาดใหญ่หรือประมาณ 6 เซนติเมตรขึ้นไป
- อวัยวะข้างเคียงต่อมหมวกไตมีพังผืดจากการผ่าตัดในอดีต
เมื่อผ่าตัดต่อมหมวกไตออกแล้วจะส่งผลอย่างไรต่อร่างกาย?
ต่อมหมวกไตเป็นส่วนหนึ่งของระบบต่อมไร้ท่อ มีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนสำคัญแก่ร่างกาย การผ่าตัดต่อมหมวกไตออกจึงส่งผลให้ไม่มีการผลิตฮอร์โมนเหล่านั้นอีกต่อไป เช่น ฮอร์โมนเพศ ฮอร์โมนความเครียด
ถ้าต้องผ่าตัดต่อมหมวกไตออกเพียงข้างเดียว ต่อมหมวกไตอีกข้างที่เหลือจะยังสามารถผลิตฮอร์โมนได้อยู่ แต่กรณีที่จำเป็นต้องผ่าตัดต่อมหมวกไตออกทั้งสองข้าง คนไข้จำเป็นต้องรับฮอร์โมนทดแทนไปตลอดชีวิต
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการผ่าตัดต่อมหมวกไตผ่านกล้อง
การผ่าตัดต่อมหมวกไตผ่านกล้องถือว่าค่อนข้างปลอดภัย แต่ยังมีความเสี่ยงบ้างตามปกติของการผ่าตัดทั่วไป เช่น
- ภาวะแพ้ยาสลบ
- การผ่าตัดไปกระทบกระเทือนอวัยวะอื่นข้างเคียงต่อมหมวกไต
- เลือดอุดตัน
- ปอดอักเสบจากการติดเชื้อ
- ความดันเลือดเปลี่ยนแปลง
- ฮอร์โมนลดลงหลังจากผ่าตัด
นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดความซับซ้อนระหว่างผ่าตัด ที่ทำให้ต้องเปลี่ยนมาผ่าตัดแบบเปิดแทนได้ แต่มีโอกาสเพียงประมาณ 5%
เมื่อผ่าตัดต่อมหมวกไตออกแล้วจะส่งผลอย่างไรต่อร่างกาย?
ต่อมหมวกไตเป็นส่วนหนึ่งของระบบต่อมไร้ท่อ มีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนสำคัญแก่ร่างกาย การผ่าตัดต่อมหมวกไตออกจึงส่งผลให้ไม่มีการผลิตฮอร์โมนเหล่านั้นอีกต่อไป เช่น ฮอร์โมนเพศ ฮอร์โมนความเครียด
ถ้าต้องผ่าตัดต่อมหมวกไตออกเพียงข้างเดียว ต่อมหมวกไตอีกข้างที่เหลือจะยังสามารถผลิตฮอร์โมนได้อยู่ แต่กรณีที่จำเป็นต้องผ่าตัดต่อมหมวกไตออกทั้งสองข้าง คนไข้จำเป็นต้องรับฮอร์โมนทดแทนไปตลอดชีวิต