ผ่าตัดเนื้องอกเต้านม (แบบส่องกล้อง) พร้อมตัดต่อมน้ำเหลือง
ผ่าตัดส่องกล้อง แผลเล็ก ฟื้นตัวไว
ทำพร้อมกับเสริมสร้างเต้านม และตัดต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ได้
รายละเอียด
HDcare สรุปให้
เนื้องอกเต้านมเจอได้บ่อยในผู้หญิง และไม่ใช่มะเร็งเต้านมเสมอไป
- เนื้องอกเต้านม ตอนสัมผัสจะกลิ้งไปมาได้ อาจเป็นเนื้อหรือของแข็ง อาจมีขนาดเท่าเดิม หดเล็กจนหายไปเอง หรือมีขนาดโตขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้ แต่จะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงช้าๆ มักโตขึ้นช่วงใกล้รอบเดือนและจะเล็กลงหลักจากรอบเดือนมาแล้ว
- มะเร็งเต้านมจะโตขึ้นเรื่อยๆ ในเวลาอันสั้น!!
ให้แอดมินแนะนำโปรตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมให้คุณวันนี้
เนื้องอกเต้านมแบบไหนต้องผ่าตัดทันที?
- เนื้องอกมีขนาดโตขึ้นเรื่อยๆ
- เจ็บตรงก้อนเนื้อจนส่งผลกระทบต่อการชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะช่วงมีประจำเดือน
- อายุไม่เกิน 30 ก้อนเนื้อมีขนาด 2 ซม. อายุมากกว่า 30 ปี ก้อนเนื้อมีขนาดเกิน 3 ซม.
- ถ้าตรวจเจอเนื้องอกเต้านม สามารถผ่าตัดได้ทันทีตั้งแต่ที่ขนาดเล็ก
อย่ารอจนเนื้องอกโต จนต้องตัดเต้านมทั้งเต้า!
รีบปรึกษาแพทย์ของ HDcare โดยไม่มีค่าใช้จ่ายวันนี้
เปรียบเทียบการผ่าตัดเนื้องอกเต้านมแต่ละแบบ
- ผ่าตัดเนื้องอกเต้านมแบบ Wide Excision เอาเนื้องอกออกมาทั้งก้อน แล้วเลาะเนื้อเยื่อที่อยู่รอบๆ ออกด้วย ถ้าเนื้องอกมีขนาดเล็กถึงปานกลาง ใช้การฉีดยาชาได้ แต่ถ้ามีขนาดใหญ่แนะนำให้ดมยาสลบ [ดูรายละเอียด]
- ผ่าตัดเนื้องอกเต้านมผ่านเข็ม ด้วยเครื่องเจาะดูดชิ้นเนื้อระบบสุญญากาศ (VAE) ใช้เข็มสอดเข้าไปตัดก้อนเนื้อออกเป็นชิ้นเล็กๆ และดูดนำออกมาด้วยระบบสุญญากาศ ส่วนมากนิยมระงับความรู้สึกด้วยการฉีดยาชาเฉพาะที่ [ดูรายละเอียด]
- ผ่าตัดเนื้องอกเต้านม (แบบส่องกล้อง) เปิดแผลใต้รักแร้หรือฐานหัวนม แล้วใช้อุปกรณ์สอดเข้าไปตัดและเลาะเนื้อเยื่อรอบๆ ออกมา [ดูรายละเอียด]
รู้จักโรคนี้
ก้อนเนื้อที่เต้านมเป็นสิ่งที่สามารถพบเจอได้ในผู้หญิงทุกคน เมื่อตรวจพบเจอแล้ว แพทย์มักจะแนะนำให้ผ่าตัดเอาก้อนเนื้อออก เนื่องจากก้อนเนื้อจะไม่สามารถหายไปเองได้ และถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็จะยิ่งทำให้ก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติตามมา หรืออาจทำให้ต้องเปิดแผลใหญ่ขึ้นจนทำให้แผลจากการผ่าตัดดูไม่สวยงาม
เนื้องอกเต้านมมีกี่ชนิด?
ผู้หญิงหลายคนมักจะกังวลว่าเมื่อคลำพบเจอก้อนเนื้อที่เต้านมจะต้องเป็นเซลล์มะเร็งแน่นอน นั่นเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะส่วนใหญ่แล้วก้อนเนื้อที่เต้านมจะเป็นเนื้องอกชนิดธรรมดา และสามารถรักษาให้หายได้ด้วยวิธีการผ่าตัด โดยจะแบ่งเป็น 4 ชนิดหลักๆ ดังนี้
ไฟโบรซิสติค (Fibrocystic Disease)
เป็นเนื้องอกเต้านมชนิดธรรมดาที่พบได้บ่อยที่สุด จะมีลักษณะเป็นก้อนโต และจะทำให้รู้สึกเจ็บเต้านมในช่วงก่อนที่จะมีประจำเดือน และอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นหลังประจำเดือนหมด
ไฟโปรอดีโนมา (Fibroadenoma)
เป็นก้อนเนื้อแข็งๆ ที่มีขนาดประมาณ 1-5 เซนติเมตร ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บเหมือนชนิดแรก แต่อาจทำให้รู้สึกคัดเต้านมได้บ้าง และถ้าคลำในช่วงก่อนมีรอบเดือนจะรู้สึกว่าก้อนเนื้อสามารถกลิ้งไปมาได้
เซลล์ไขมันในเต้านมถูกทำลาย (Fat Necrosis)
เกิดจากเต้านมได้รับการกระแทกรุนแรงจนทำให้มีเลือดออกในเต้านม ส่งผลให้ผิวหนังด้านบนมีลักษณะช้ำเลือดช้ำหนอง เมื่อระยะเวลาผ่านไปจะหายได้เอง แต่ก็สามารถผ่าตัดออกได้
ซีสต์ (Cysts)
เนื้องอกเต้านมชนิดที่เป็นถุงน้ำ สามารถรักษาได้โดยการเจาะเอาของเหลวออก หากของเหลวไม่มีสี หรือออกเป็นสีเขียวก็ไม่จำเป็นต้องรักษาเพิ่มเติม แต่ถ้าของเหลวมีเลือดปน แพทย์จะส่งตรวจต่อว่าเป็นมะเร็งหรือไม่
จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็น “เนื้องอกเต้านมชนิดธรรมดา” หรือ “มะเร็งเต้านม”
หากคุณคลำพบเจอก้อนเนื้อที่เต้านม แนะนำให้ไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยแพทย์จะตรวจวินิจฉัยด้วยการซักประวัติ คลำเต้านม ร่วมกับตรวจอัลตราซาวด์และแมมโมแกรมเพื่อดูลักษณะของก้อนเนื้อ และอาจเจาะชิ้นเนื้อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการให้ชัดเจน เพื่อที่จะได้วางแผนรักษาอย่างเหมาะสม
การผ่าตัดเนื้องอกเต้านมแบบส่องกล้องใช้ระยะเวลาเท่าใด?
โดยทั่วไป การผ่าตัดเนื้องอกเต้านมแบบส่องกล้องจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ถ้ามีการผ่าตัดเสริมสร้างเต้านมร่วมด้วยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 4-6 ชั่วโมง
การผ่าตัดเนื้องอกเต้านมแบบส่องกล้องต้องพักฟื้นนานเท่าไหร่?
หลังจากผ่าตัดเนื้องอกเต้านมแบบส่องกล้อง แพทย์จะให้นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลประมาณ 1-5 คืน ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรค และหลังจากนั้นจะให้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน ซึ่งจะต้องดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และจะต้องมาตรวจติดตามอาการ และเข้ารับการรักษาอื่นๆ เช่น ฉายรังสี หรือทำเคมีบำบัด ตามที่แพทย์นัดหมาย
สัญญาณที่ต้องตรวจ
- คลำเจอก้อนเนื้อที่เต้านมหรือรักแร้
- ขนาดหรือรูปร่างเต้านมเปลี่ยนไปจากเดิม
- มีรอยบุ๋มที่เต้านม คล้ายลักยิ้มหรือผิวเปลือกส้ม
- มีน้ำหรือของเหลวไหลออกจากหัวนม
- มีแผลบริเวณหัวนมแล้วรักษาไม่หาย
- เจ็บหรือปวดเต้านมโดยไม่เกี่ยวกับประจำเดือน
ตรวจโรคนี้อย่างไรได้บ้าง
- ตรวจเต้านมด้วยตัวเอง (ควรทำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ในช่วงหลังมีประจำเดือนวันที่ 7-10) [ดูวิดีโอแนะนำที่นี่]
- ตรวจเต้านมโดยแพทย์
- รตรวจอัลตราซาวด์เต้านม (Ultrasound)
- ตรวจแมมโมแกรม (Mammogram)
- ตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) หรือที่เรียกว่า “Breast MRI” มักใช้ตรวจคัดกรองกรณีที่ผลตรวจอัลตราซาวด์และแมมโมแกรมไม่ชัดเจน
- ตรวจชิ้นเนื้อ (Biopsy) เพื่อวินิจฉัยมะเร็งเต้านม
อายุเท่าไหร่ควรเริ่มตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม?
- ผู้หญิงอายุ 20 ปีขึ้นไป ควรตรวจเต้านมด้วยตัวเองอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และตรวจโดยแพทย์ผู้ชำนาญการทุก 3 ปี
- ผู้หญิงอายุ 40-69 ปี ควรตรวจเต้านมด้วยตัวเองอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ตรวจโดยแพทย์ผู้ชำนาญการทุก 1 ปี และตรวจแมมโมแกรมทุก 1-2 ปี
- ผู้หญิงอายุ 70 ปีขึ้นไป ความถี่ในการเข้ารับการตรวจขึ้นกับการประเมินของแพทย์
สัญญาณที่ต้องผ่าตัด
- ก้อนเนื้อมีขนาดโตขึ้นเรื่อยๆ จากการถูกกระตุ้นด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น ระดับฮอร์โมนในร่างกาย ผลข้างเคียงจากการใช้ยาฮอร์โมนเสริม การตั้งครรภ์ หรือการให้นมบุตร
- เจ็บตรงก้อนเนื้อ จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในช่วงที่มีประจำเดือน
- ก้อนเนื้อมีขนาดใหญ่เกิน 2 ซม. ขึ้นไปในคนที่อายุไม่เกิน 30 ปี หรือมีขนาดใหญ่เกิน 3 ซม. ขึ้นไป ในคนที่อายุมากกว่า 30 ปี
รีบปรึกษาแพทย์ของ HDcare โดยไม่มีค่าใช้จ่ายวันนี้
สาวๆ สามารถเข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกที่เต้านมได้ทันที โดยที่ไม่ต้องรอให้มีสัญญาณในการผ่าตัด ถ้ารู้สึกกังวล ไม่อยากเก็บก้อนเนื้อไว้ หรือไม่อยากตรวจติดตามผลอยู่เรื่อยๆ
โดยปกติแล้ว แพทย์จะแนะนำให้ผ่าตัดเนื้องอกเต้านมออกตั้งแต่ตอนที่ก้อนยังมีขนาดเล็ก เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดแผลจากการผ่าตัดขนาดใหญ่
รู้จักการผ่าตัดนี้
ผ่าตัดเนื้องอกเต้านมแบบส่องกล้อง ชื่อภาษาอังกฤษ Endoscopic Breast Surgery คือ การเปิดแผลขนาดเล็กใต้รักแร้ หรือฐานหัวนม แล้วใช้อุปกรณ์ผ่าตัดที่มีกล้องติดอยู่ที่ส่วนปลาย สอดเข้าไปผ่าตัดเอาเนื้องอกเต้านมออก
การผ่าตัดเนื้องอกเต้านมแบบส่องกล้อง ทำให้แพทย์สามารถเลาะเนื้อเต้านมและเก็บรายละเอียดได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดระยะเวลาการผ่าตัด และเสริมสร้างเต้านมใหม่ได้ทันที
ผ่าตัดเสริมสร้างเต้านมด้วยซิลิโคนคืออะไร?
การผ่าตัดเสริมสร้างเต้านมด้วยซิลิโคน เป็นวิธีเสริมสร้างเต้านมใหม่ที่ทำได้ทันทีหลังผ่าตัดเนื้องอกเต้านม โดยจะใช้ถุงเต้านมเทียมบรรจุซิลิโคนเหลวเสริมเข้าไปทดแทนเนื้อที่สูญเสียไป นิยมทำอยู่ 2 รูปทรง ได้แก่ รูปทรงกลม และรูปทรงหยดน้ำ
ถุงเต้านมเทียมเป็นวัสดุทางการแพทย์ที่ไม่ทำให้เกิดปฏิกิริยากับร่างกาย และไม่มีผลต่อการเกิดเป็นมะเร็งซ้ำ
ผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้คืออะไร?
ต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้มักเป็นจุดแรกที่มะเร็งเต้านมจะแพร่กระจายมา การผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กับการผ่าตัดเต้านม เพื่อที่แพทย์จะได้ดูว่ามีมะเร็งเต้านมแพร่กระจายหรือไม่ และยังนำต่อมน้ำเหลืองที่มีการแพร่กระจายของโรคออกไปจากร่างกายด้วย
การผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองจะแบ่งเป็น 2 วิธีหลัก ดังนี้
- ผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออกทั้งหมด (Axillary Lymph Node Dissection : ALND) เป็นวิธีผ่าตัดมาตรฐาน โดยจะผ่าตัดเลาะต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออกทั้งหมดไปพร้อมๆ กับการผ่าตัดเต้านม ปกติจะมีต่อมน้ำเหลืองที่รักแร่ประมาณ 10-50 ต่อม เหมาะกับคนที่มะเร็งเต้านมมีขนาดใหญ่กว่า 2 ซม. ขึ้นไป
- ผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองเซนติเนล (Sentinel Lymph Node Biopsy : SLNB) เป็นวิธีผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองต่อมแรกที่รับน้ำเหลืองจากมะเร็งไป มีชื่อเรียกว่า “ต่อมน้ำเหลืองเซนติเนล” แล้วส่งตรวจดูว่ามีการกระจายของโรคมะเร็งหรือไม่ ถ้าหากไม่มีการแพร่กระจายก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเอาเต้าน้ำเหลืองออกทั้งหมด เหมาะกับคนที่มะเร็งเต้านมมีขนาดก้อนน้อยกว่า 2 ซม. มีโอกาสที่มะเร็งจะแพร่กระจายได้น้อย
ผ่าตัดเนื้องอกเต้านมแบบส่องกล้องใช้ระยะเวลาเท่าใด?
การผ่าตัดเนื้องอกเต้านมแบบส่องกล้องจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1-2 ชม. แต่ถ้ามีการผ่าตัดเสริมสร้างเต้านมด้วยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 4-6 ชม.
เปรียบเทียบการผ่าตัดวิธีต่างๆ
ผ่าตัดเนื้องอกเต้านมผ่านเข็ม ด้วยเครื่องเจาะดูดชิ้นเนื้อระบบสุญญากาศ (VAE) [ดูรายละเอียด]
- ใช้เข็มสอดเข้าไปตัดก้อนเนื้อออกเป็นชิ้นเล็กๆ และดูดนำออกมาด้วยระบบสุญญากาศ ส่วนมากนิยมระงับความรู้สึกด้วยการฉีดยาชาเฉพาะที่
- ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 50-60 นาที ขึ้นกับขนาดของก้อนเนื้อ
- ใช้อัลตราซาวด์เพื่อให้เห็นตำแหน่งของเนื้องอก มีความแม่นยำสูง
- แผลเล็ก 3-5 มม. ฟื้นตัวเร็ว เจ็บแผลหลังผ่าตัดน้อย กลับไปทำงานได้ภายใน 3 วัน
ผ่าตัดเนื้องอกเต้านม (Wide Excision) [ดูรายละเอียด]
- ผ่าตัดเอาเนื้องอกออกมาทั้งก้อน และเลาะเนื้อเยื่อปกติที่อยู่รอบๆ ออกเป็นวงกว้าง
- เนื้องอกขนาดเล็กถึงปานกลาง อาจใช้การฉีดยาชา แต่เนื้องอกขนาดใหญ่แนะนำให้ดมยาสลบ
- ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 50-60 นาที ขึ้นกับขนาดของก้อนเนื้อ
- พักฟื้นที่ รพ. ประมาณ 2 วัน ถ้าไม่มีอาการผิดปกติสามารถกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้ และกลับมาทำกิจวัตรได้ตามปกติภายใน 3 สัปดาห์
ผ่าตัดเนื้องอกเต้านม (แบบส่องกล้อง) [ดูรายละเอียด]
- เปิดแผลใต้รักแร้หรือฐานหัวนม แล้วใช้อุปกรณ์สอดเข้าไปตัดและเลาะเนื้อเยื่อรอบๆ ออกมา
- ผ่าตัดส่องกล้อง แพทย์เห็นภาพชัด เก็บรายละเอียดได้ดี
- เป็นการผ่าตัดแบบซ่อนรอยแผลเป็น แผลเล็ก เจ็บน้อย
- ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1-2 ชม.
- พักฟื้นที่ รพ. ประมาณ 2 วัน ถ้าไม่มีอาการผิดปกติสามารถกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
ก่อนผ่าตัดเนื้องอกเต้านม ต้องเข้ารับการตรวจเต้านมด้วยอัลตราซาวด์ แมมโมแกรม และการเจาะชิ้นเนื้อเต้านม เพื่อดูว่าเป็นก้อนเนื้อประเภทใด หากประเมินแล้วว่าเป็นเนื้องอกเต้านมชนิดธรรมดาก็จะนัดวันเข้ารับการผ่าตัดต่อไป
ก่อนผ่าตัดเนื้องอกเต้านม แนะนำให้เตรียมตัวดังนี้
- ตรวจชนิดของก้อนที่เต้านมให้เรียบร้อย
- แจ้งให้แพทย์ทราบถึงภาวะสุขภาพทั้งหมด รวมถึงยาหรืออาหารเสริมที่กินเป็นประจําเพราะอาจมีผลต่อการผ่าตัด แพทย์อาจให้หยุดยาหรืออาหารเสริมบางอย่าง
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- กรณีที่ผ่าตัดภายใต้การดมยาสลบ จะต้องงดอาหารและดื่มน้ำก่อนผ่าตัด อย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการสำลักน้ำย่อย หรือเศษอาหารจากกระเพาะอาหารเข้าสู่ปอดในระหว่างดมยาสลบ
- ในวันผ่าตัด แนะนำให้สวมใส่เสื้อกระดุมหน้าที่ไม่รัดแน่นจนเกินไป เพื่อสวมใส่และถอดได้ง่าย
การดูแลหลังผ่าตัด
หลังผ่าตัดเนื้องอกเต้านมต้องพักฟื้นกี่วัน?
โดยปกติแล้ว ผู้เข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกเต้านมจะสามารถกลับมาทำกิจวัตรประจำวันตามปกติได้ภายใน 2-3 สัปดาห์หลังจากผ่าตัด
- พักฟื้นที่ รพ. ประมาณ 2 วัน เพื่อสังเกตอาการ หากไม่มีอาการผิดปกติ ก็สามารถกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้
- แพทย์จะนัดตรวจติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการฟื้นตัวของแผลผ่าตัด และโอกาสที่จะกลับมามีก้อนเนื้อที่เต้านม
หลังผ่าตัดเนื้องอกเต้านม แนะนำให้ดูแลตัวเองดังนี้
- ทำความสะอาดแผลตามที่แพทย์แนะนำ
- สามารถอาบน้ำได้ หากวัสดุที่ปิดแผลเป็นแบบกันน้ำ
- กินยาฆ่าเชื้อ ยาแก้อักเสบ และยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่ง
- งดการว่ายน้ำ และแช่อ่างอาบน้ำ อย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด หรือจนกว่าที่แพทย์สั่ง
- ควรหมั่นนวดแขน และบริหารข้อไหล่ตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดข้อไหล่ติด
- งดออกกำลังกาย และยกสิ่งของหนัก อย่างน้อย 3 สัปดาห์
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
การผ่าตัดเนื้องอกเต้านมอาจเกิดอาการแทรกซ้อนขึ้นได้ แต่มีโอกาสค่อนข้างน้อย ดังนี้
- ความเสี่ยงทั่วไปที่พบได้จากการผ่าตัด เช่น การติดเชื้อ แพ้ยาชา แพ้ยาสลบ อาการชา บวมช้ำ เลือดออก หรือเลือดคลั่ง
- อาจเกิดรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด โดยเฉพาะในผู้ที่มีประวัติแผลเป็นคีลอยด์
- ข้อไหล่ติด ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เต็มที่ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น มีเนื้อเยื่อพังผืดที่เกิดจากการผ่าตัดมารัดบริเวณรักแร้ มีการดึงรั้งของกล้ามเนื้อบริเวณต้นแขนและหัวไหล่ หรือเกิดจากผู้เข้ารับการผ่าตัดไม่พยายามใช้แขนข้างที่ได้รับการผ่าตัดเป็นเวลานาน
- เต้านมเสียรูป หรือมีขนาดไม่เท่ากัน สามารถแก้ไขได้ด้วยการเข้ารับการทำศัลยกรรมเต้านมหลังจากที่หายดีแล้ว
สาขาศัลยศาสตร์
นพ. วรเทพ กิจทวี (หมอเชน)
HDcare
ข้อมูลของแพทย์
- 2548 แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- 2553 วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญ สาขาศัลยศาสตร์ทั่วไป แพทยสภา
- 2556 ประกาศนียบัตร อนุสาขาศัลยศาสตร์เต้านมและต่อมไร้ท่อ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
- Certificate of Visiting Fellowship in Minimal Invasive and Endoscopic Breast Surgery, Kameda Medical Center (Japan)
- Masterclass in Endoscopic and Robotic Breast Surgery (Taiwan)
ข้อมูลอื่นของแพทย์
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์เต้านมและต่อมไร้ท่อ