5.0
จัดฟันแบบโลหะ ฟันบนและล่าง สำหรับผู้ที่มีปัญหาการสบฟันมาก มีการถอนฟันร่วมด้วย (Package M) ฟรี ! รีเทนเนอร์ 2 ชิ้น ฟันบนและล่าง
แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
✨ ยิ้มสวยในทุกช่วงเวลา! คุณเคยรู้สึกไม่มั่นใจในรอยยิ้มของตัวเองหรือไม่? ฟันที่ไม่เรียงตัวสวยงามอาจทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจและไม่กล้าแสดงออกในสังคม การจัดฟันจึงเป็นทางเลือกที่มีประโยชน์ในการปรับโครงสร้างฟันให้เรียงตัวสวยงามและช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณ!
🏥 แพ็กเกจจัดฟันแบบโลหะ ที่ Kitcha Dental Clinic มาพร้อมกับการบริการที่ครบครัน รวมถึงการถอนฟันร่วมด้วยและรีเทนเนอร์ 2 ชิ้น ฟันบนและล่างฟรี! ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยและทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
💡 ทำไมต้องจัดฟัน?
- แก้ไขปัญหาฟันซ้อน เก ห่าง สบคร่อม สบลึก
- ปรับปรุงการสบฟันที่อาจส่งผลต่อสุขภาพช่องปากและการเคี้ยวอาหาร
- เพิ่มความมั่นใจในรอยยิ้มของคุณ
การดูแลหลังรับบริการ:
- หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็งหรือเหนียว
- ควรพบทันตแพทย์ตามนัดหมายเพื่อประเมินความก้าวหน้า
อย่าปล่อยให้ความไม่มั่นใจในรอยยิ้มของคุณกวนใจอีกต่อไป! จองบริการ กับเราได้ที่ HDmall.co.th และเริ่มต้นเส้นทางสู่รอยยิ้มที่คุณอยากมี วันพรุ่งนี้อาจจะสายเกินไปสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่คุณต้องการ! 📅
ยิ้มสวย เริ่มต้นที่นี่!
รายละเอียด
รายละเอียดราคา จัดฟันแบบโลหะ
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- จัดฟันแบบโลหะ ฟันบนและล่าง สำหรับผู้ที่มีปัญหาการสบฟันมาก มีการถอนฟันร่วมด้วย (Package M)
- ค่าติดเครื่องมือจัดฟัน
- ค่าปลอดเชื้อเครื่องมือ
- ค่ารีเทนเนอร์แบบลวด 2 ชิ้น ฟันบนและล่าง (แบบ Wraparound Retainer หรือ Hawley Retainer) สีพื้น มูลค่า 6,000 บาท หลังจัดฟันเสร็จ
- ค่าถอดเครื่องมือจัดฟัน (กรณีจัดเสร็จครบคอร์ส) มูลค่า 3,000 บาท
- ค่าแบร็คเก็ตหลุด จำนวน 5 ตัวแรก
สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่าปรึกษาทันตแพทย์เพื่อวางแผนการรักษา 200 บาท
หมายเหตุ
- หากปรึกษาทันตแพทย์แล้วตัดสินใจยังไม่ทำ เสียค่าปรึกษา 200 บาท
- รายการต่อไปนี้ไม่รวมอยู่ในราคาแพ็กเกจ หากทันตแพทย์พิจารณาว่าต้องทำ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
- ค่าเอ็กซ์เรย์ 2 ฟิล์ม 1,300 บาท
- ค่าพิมพ์ปากเพื่อสร้างแบบหล่อ 1,000 บาท
- ค่าบันทึกภาพถ่ายใบหน้าและช่องปาก 500 บาท
- ค่าเคลียร์ช่องปาก ขึ้นอยู่กับทันตแพทย์ประเมิน
- ค่าเครื่องมือพิเศษ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทันตแพทย์
- หากวันที่ไปประเมินมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม HD จะออกค่าประเมินให้เฉพาะครั้งแรก โดยไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือจากการประเมิน (เช่น ตรวจโควิด หรือค่ายา เป็นต้น)
วิธีการจ่ายเงิน
- โดยทั่วไป ก่อนเข้าสู่กระบวนการจัดฟันจะต้องพบทันตแพทย์ประมาณ 3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพและปัญหาฟันของแต่ละคน ดังนี้
- ครั้งที่ 1 นัดปรึกษาทันตแพทย์ เพื่อให้ทันตแพทย์ประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้น และประเมินแผนการจัดฟัน จะทราบราคาคอร์สจัดฟันรวมถึงค่าเคลียร์ช่องปาก (ถ้ามี) ในขั้นตอนนี้
- ครั้งที่ 2 พิมพ์ปากและเอกซเรย์เพื่อเก็บรายละเอียดฟันก่อนจัดฟัน (รวมทั้งราคาผ่าหรือถอนฟันคุด หากทันตแพทย์ประเมินว่าต้องการรักษา)
- ครั้งที่ 3 เคลียร์ช่องปาก เช่น ผ่าฟันคุด ขูดหินปูน ฯลฯ
- การพบทันตแพทย์ครั้งที่ 4 จึงจะเริ่มติดอุปกรณ์จัดฟันในช่องปาก และเริ่มกระบวนการจัดฟัน
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการครั้งละประมาณ 15-30 นาที
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนรับบริการ
- ระยะเวลาในการรักษาและโอกาสสำเร็จในการเคลื่อนฟัน จะแตกต่างกันไปในผู้รับบริการแต่ละราย จึงจำเป็นต้องพิจารณาเลือกแผนการรักษาที่เหมาะสมร่วมกับทันตแพทย์
- ควรเข้าพบทันตแพทย์ตามการนัดหมาย เพื่อติดตามความคืบหน้าของการรักษา
- หากไม่ได้มาตามนัดหมายหลายครั้ง อาจส่งผลให้การเคลื่อนฟันไม่เป็นไปตามแผนการรักษา ส่งผลให้เกิดความล่าช้า และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนของเครื่องมือ และอุปกรณ์นอกเหนือจากที่วางแผนไว้
- หากมีการเริ่มขั้นตอนการรักษาแล้ว ทางคลินิกและ HDmall.co.th ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินค่ารักษาตามแพ็กเกจ
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- กรณีที่ผ่านการตรวจประเมินจากทันตแพทย์แล้ว ควรเคลียร์ช่องปากโดยตรวจฟันผุ อุดฟันให้ครบทุกซี่ รักษารากฟันหากมีฟันผุ ขูดหินปูน และผ่าฟันคุดให้เรียบร้อย
- หากมีโรคประจำตัว หรือ มีการแพ้ยา ควรแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบก่อนรับบริการ
การดูแลหลังรับบริการ
- หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็ง กรอบ หรือเหนียวมากๆ เพราะอาจเกิดปัญหาตามมา เช่น ยางรัดฟันหลุด เหล็กดัดฟันโค้งงอ หรือมีเศษอาหารไปติดกับเครื่องมือจัดฟันได้
- หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลม เครื่องดื่มที่เป็นกรดสูง เพราะอาจทำให้อุปกรณ์จัดฟันเสียหายได้
- ดูแลความสะอาดตัวแบร็กเกต และลวดจัดฟันให้ทั่วถึง
- ควรใช้ไหมขัดฟันและใช้น้ำยาบ้วนปาก เพื่อขจัดคราบตามซอกฟันหรือซอกเครื่องมือที่การแปรงฟันเข้าไม่ถึง
- ควรพบทันตแพทย์ตามนัดหมายเพื่อตรวจติดตามผลการจัดโครงสร้างฟัน หากเกิดความผิดปกติจะได้แก้ไขได้ทันที
ก่อนตัดสินใจ
- ต้องให้แพทย์ประเมินก่อนว่าเหมาะสำหรับการจัดฟันแบบใด เนื่องจากการจัดฟันแต่ละแบบไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน
- บางกรณีอาจต้องมีการถอนฟันแท้ กรอฟัน หรือผ่าตัดกระดูกขากรรไกรร่วมด้วย
- ระหว่างจัดฟันแบบโลหะ จะมีข้อจำกัดด้านการรับประทานอาหาร เช่น ห้ามกัดของแข็ง เคี้ยวหมากฝรั่ง เพราะอาจทำให้เครื่องมือจัดฟันเสียหาย
- ช่วงแรกของการจัดฟันอาจรู้สึกตึง ปวด เจ็บ เป็นปกติ จากนั้นอาการดังกล่าวจะค่อยๆ หายไปเอง
ข้อมูลทั่วไป
การจัดฟัน คือ การใช้เครื่องมือค่อยๆ เปลี่ยนโครงสร้างฟันอย่างช้าๆ ใช้ในการแก้ไขความผิดปกติของฟันที่มีการเรียงตัวผิดปกติ ไม่สมดุล ให้เรียงตัวอย่างเหมาะสมและสามารถสบฟันได้พอดี
ควรเริ่มจัดฟันเมื่ออายุเท่าไร?
โดยทั่วไปสามารถเข้าพบทันตแพทย์เพื่อปรึกษาเรื่องการจัดฟันได้ตั้งแต่ฟันน้ำนมหลุดออกหมดแล้ว หรืออายุราว 11-12 ปี ทันตแพทย์จะตรวจสอบดูสภาพช่องปากและปัญหาฟันของแต่ละคนว่าสามารถจัดฟันได้หรือยัง ซึ่งบางกรณีอาจต้องรักษาด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น ผ่าตัดขากรรไกร ตัดเหงือก ถอนฟันแท้
มีคำแนะนำว่าควรจัดฟันตั้งแต่อายุยังไม่มาก เนื่องจากระหว่างฟันเคลื่อนที่ กระดูกที่รองรับฟันและที่อยู่รอบๆ รากฟันจะมีการทำลายตัวและสร้างขึ้นใหม่ ในเด็กหรือคนอายุน้อยๆ กระบวนการเสริมสร้างกระดูกจะรวดเร็วและดีกว่าในผู้ใหญ่
ประเภทของการจัดฟัน
การจัดฟันแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่
- การจัดฟันแบบติดแน่น สามารถแบ่งประเภทย่อยลงไปได้อีกตามเครื่องมือที่ใช้ เช่น จัดฟันแบบโลหะหรือเหล็กจัดฟัน จัดฟันแบบเซรามิก จัดฟันแบบไม่ใช้ยางหรือที่เรียกกันว่า จัดฟันดามอน ตามชื่อยี่ห้อเครื่องมือ
- การจัดฟันแบบถอดได้ จะเป็นการใช้เครื่องมือจัดฟันแบบใส ซึ่งมีให้เปลี่ยนใส่จำนวนหลายชุด เพื่อค่อยๆ ปรับการเรียงตัวของฟัน อุปกรณ์จัดฟันใสมีหลายยี่ห้อ เช่น Invisalign, Clear Aligner, Senyum
แพ็กเกจนี้ใช้การจัดฟันแบบโลหะ หรือจัดฟันลวด
เป็นการจัดฟันแบบมาตรฐานที่พบเห็นได้ทั่วไป วัสดุที่ใช้คือแบร็กเกตโลหะ ลวดสำหรับงานทันตกรรม และมีการใช้ยางซึ่งมีหลากสีสันให้เลือก รัดแบร็กเกตกับลวดให้ยึดติดกับซี่ฟัน
ประมาณ 4-6 สัปดาห์ ยางจะเสื่อม ดังนั้นผู้รับการจัดฟันจึงต้องพบทันตแพทย์เพื่อเปลี่ยนยาง และทันตแพทย์จะทำการดึงลวดให้ตึงขึ้นเพื่อให้ฟันเคลื่อนไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม
จัดฟันลวด ใช้เวลานานเท่าไหร่?
ขึ้นอยู่กับปัญหาฟันของแต่ละคน โดยทั่วไปแล้วใช้เวลาประมาณ 1-3 ปี
ข้อดีของการจัดฟันลวด
- ใช้แก้ปัญหาฟันได้เกือบทุกรูปแบบ เช่น ฟันซ้อน เก ห่าง สบคร่อม สบลึก
- สามารถเปลี่ยนสียางยึดเครื่องมือจัดฟันได้ทุกเดือน
ข้อเสียของการจัดฟันลวด
- เห็นชัดว่าจัดฟันอยู่
- อาจมีปัญหาตะขออุปกรณ์เกี่ยวกับเนื้อเยื่อในช่องปากได้
- การดูแลรักษาความสะอาดของเครื่องมือจัดฟันแบบนี้ ยากกว่าการรักษาความสะอาดเครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ Kitcha Dental Clinic ผ่าน HDmall
นัดคิวเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมิน แล้วทักมาจ่ายเงินที่ HDmall.co.th เพื่อรับส่วนลด
- จองแพ็กเกจกับ HDmall จากนั้นเจ้าหน้าที่จะส่งคูปองให้ทางอีเมล
- เข้ารับการประเมินที่คลินิกตามวันที่นัดหมาย
- เมื่อทราบราคาประเมินแล้ว ทักไลน์ @hdcoth มาชำระเงินและรับส่วนลดกับ HDmall โดยพิมพ์ HDexpress หรือกดปุ่ม “ชำระเงินหลังประเมิน” ขณะอยู่ที่คลินิก
- เมื่อชำระเงินแล้ว เจ้าหน้าที่จะส่งคูปองให้ลูกค้าเพื่อรับบริการ
*ระยะเวลาผ่อนชำระขึ้นอยู่กับราคาแพ็กเกจ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 1-3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30 วัน)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ ทางคลินิกจะสรุปค่าใช้จ่ายให้ทราบหลังแพทย์ตรวจประเมิน
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Kitcha Dental Clinic อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ
รู้โปรฯ ใหม่ก่อนใคร! แค่ทิ้งเมลไว้ เดี๋ยวเราเตือนคุณเอง
รีวิวของแพ็กเกจ
5.0
แพ็กเกจอื่นใน จัดฟันแบบโลหะ (Metal Braces)
คอร์สจัดฟันลวด ฟันบนและล่าง (สำหรับเคสที่แพทย์ประเมินว่าต้องถอนฟัน)
แพ็กเกจอื่นใน Kitcha Dental Clinic
ทำรากฟันเทียมพร้อมครอบฟัน ยี่ห้อ Dentium สำหรับฟัน 1 ซี่
