ทำฟันเด็ก การรับมือที่ยากแต่จำเป็นสำหรับลูกน้อย

คุณพ่อคุณแม่หลายคนคงจะเคยเจอเสียงร้องไห้ต่อต้านของลูก เมื่อพูดถึงคำว่า “หมอฟัน” ขึ้นมา

หรือบางคนอาจมีประสบการณ์ในวัยเด็กที่ไม่ชอบไปหาทันตแพทย์ กว่าคุณพ่อคุณแม่จะพาเข้าไปถึงห้องตรวจได้ก็เหนื่อยแทบแย่

แม้การทำฟันเด็กจะเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก แต่การดูแลสุขภาพช่องปากของลูกน้อยตั้งแต่ก่อนที่ฟันซี่แรกจะขึ้นถือเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะสุขภาพฟันที่ดี จะทำให้ลูกของคุณบดเคี้ยวอาหารได้ดีทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนรวมทั้งห่างไกลจากโรคฟันผุ ซึ่งสามารถพบในเด็กตั้งแต่อายุ 1 ปีขึ้นไป

สร้างทัศนคติที่ดี ตรงต่อเวลา เพื่อฟันที่แข็งแรง   

ปัญหาสุขภาพฟันที่พบในเด็กส่วนใหญ่คือ ปัญหาฟันผุ พบได้ในเด็กตั้งแต่อายุ 9 เดือนเป็นต้นไป และจะผุมากขึ้นอย่างรวดเร็วในเด็กวัย 1-3 ปี ดังนั้นเด็กทุกคนจึงควรได้รับการตรวจสุขภาพช่องปากทุก 3 ถึง 6 เดือน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุ 

อีกทั้งการพาเด็กมาพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอยังช่วยลดอาการกลัวการทำฟัน และการกลัวทันตแพทย์ได้ด้วย เด็กจะคุ้นเคยกับบรรยากาศห้องทำฟันและมีสู่ทัศนคติที่ดีต่อการดูแลฟัน 

นอกจากคำแนะนำจากทันตแพทย์แล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็มีส่วนสำคัญในการช่วยดูแลสุขภาพฟันของลูกด้วย เพราะปัจจัยลักที่ทำให้เด็กมีฟันผุเกิดจากพฤติกรรมการรับประทานและดารดูแลสุขภาพช่องปากและฟันไม่เหมาะสม หากสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านั้นได้ ก็จะช่วยให้เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรง โดยควรปฏิบัติตัวดังนี้

• แปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร หรืออย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและก่อนนอน
  
• ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อย 1 ครั้ง
  
• หลีกเลี่ยงการับประทานของหวานและขนมขบเคี้ยวระหว่างวัน เพราะโดยส่วนใหญ่เด็กจะไม่มีโอกาสแปรงฟันในตอนกลางวัน ทำให้เศษขนมสะสมอยู่บนตัวฟันและตามซอกฟันจนเกิดฟันผุได้
  
• หากให้เด็กดื่มนมก่อนนอน ควรให้เด็กแปรงฟันหลังดื่มนมทุกครั้ง เพราะแบคทีเรียสามารถนำน้ำตาลจากนมไปทำปฏิกิริยาจนเกิดกรดกัดกร่อนฟัน ทำให้ฟันผุได้
  
• อย่ารอให้ฟันน้ำนมที่ผุหลุดออกไปเอง แต่ควรพบทันตแพทย์เพื่ออุดฟันในกรณีที่ยังอุดได้ เพราะการผุอาจรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลต่อรากรากฟัน หรือโพรงประสาทฟันได้
• พบทันตแพทย์เด็กอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยทุก 6 เดือนเพื่อตรวจสุขภาพฟันและเคลือบฟลูออไรด์ หากพบฟันผุ จะได้รีบรักษาอย่างทันท่วงทีก่อนที่จะปัญหาจะลุกลาม 

หากลยุทธ์รับมือ เมื่อลูกของคุณไม่ยอมทำฟัน

สิ่งที่ยากที่สุดในการทำฟันเด็กก็คือความร่วมมือของเด็ก หากเด็กโวยวาย ดิ้น ไม่ให้ความร่วมมือ ทันตแพทย์จะทำงานยากขึ้นและเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากเครื่องมือทันตกรรมบางชนิดได้ ดังนั้นทันตแพทย์และคุณพ่อคุณแม่อาจต้องต้องเตรียมหาวิธีรับมือควบคุมพฤติกรรมเพื่อให้การทำฟันผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เช่น การเบี่ยงเบนความสนใจด้วยนาฬิกาทราย เวลาที่ต้องอมฟลูออไรท์ไว้ในปากนาน 5 นาที ทันตแพทย์ก็จะหยิบนาฬิกาทรายมาให้เด็กถือและบอกว่า เมื่อทรายหมดแล้วให้บอกคุณหมอด้วย 

การชมเชย ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ดี เช่น ขณะทำฟันเด็ก การชมว่าเด็กเก่งเมื่อฟันไม่ผุเลย หรือชมหากเด็กยอมนอนนิ่งทำให้การทำฟันเสร็จรวดเร็วขึ้น เด็กก็จะรู้สึกว่า การทำฟันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดและยังสร้างทัศนคติในการดูแลฟันที่ดียิ่งขึ้นด้วย แต่สิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาดคือ การขู่ เช่น ถ้าไม่ยอมแปรงฟันจะให้หมอจับถอนฟันให้หมดเลย วิธีนี้จะยิ่งทำให้เด็กกลัวทันตแพทย์มากกว่าเดิม

ระหว่างการทำฟัน ทันตแพทย์ควรพูดคุยเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับเด็ก เช่น บอกทุกครั้งว่าจะทำอะไรกับฟันเด็ก จะใส่เครื่องมือตอนไหนอย่างไรเพื่อไม่ให้เด็กตกใจ หรือหวาดเกลัวเครื่องมือทำฟัน ส่วนผู้ปกครองอาจมีบทบาทช่วยพูดแทนทันตแพทย์ในกรณีที่เด็กต้องฉีดยา ต้องทำฟันบางอย่างที่จะรู้สึกเสียว และเจ็บฟัน เพราะการมีผู้ปกครองอยู่ใกล้ๆ จะสร้างความมั่นใจให้เด็กว่า เขาไม่ได้ถูกทอดทิ้ง

ดีลทำฟันเด็ก รักษารากฟันด้วยส่วนลดพิเศษที่ HDmall

HDmall มีแพ็กเกจทำฟันเด็กที่ดีลกับคลินิกทำฟันที่มีสาขากว่า 30 แห่งทั่วประเทศอย่าง LDC Dental ที่จะให้บริการการทำฟันแก่ลูกน้อยของคุณพร้อมส่วนลดพิเศษถึง 15% ไม่ว่าจะเป็นการอุดฟันน้ำนมด้วยวัสดุสีเหมือนฟัน การเคลือบหลุมร่องฟัน เคลือบฟลูออไรด์ฟัน การรักษารากฟันน้ำนม การถอนฟันน้ำนม หากสนใจแพ็กเกจทำฟันเด็กสามารถสั่งจองผ่าน HDmall ได้เลย ผ่อนชำระบริการ 0% นานถึง 10 เดือน