รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
🌟 ตรวจสุขภาพอย่างมืออาชีพ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า! คุณรู้หรือไม่ว่าเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายของเราต้องการการดูแลที่มากขึ้น? การตรวจสารอาหารและวิตามินเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น อาการขาดวิตามินที่อาจทำให้สุขภาพย่ำแย่ลงได้!
🏥 โปรแกรมตรวจสารอาหารและวิตามิน (Premium) สำหรับผู้ที่อายุ 20 ปีขึ้นไป ที่ RSU Healthcare จะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับสุขภาพของคุณในระยะเวลาเพียง 1 ชั่วโมง พร้อมผลการตรวจที่แม่นยำภายใน 2 ชั่วโมง!
💡 ทำไมต้องตรวจสารอาหารและวิตามิน?
- ช่วยให้คุณรู้ว่าร่างกายต้องการวิตามินชนิดใดบ้าง
- ป้องกันปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการขาดสารอาหาร เช่น ความเครียดหรือโรคที่เกี่ยวกับอนุมูลอิสระ
🧪 บริการรวม:
- ตรวจระดับวิตามินต่างๆ เช่น วิตามิน D, B12, C และอื่นๆ
- การประเมินสุขภาพร่างกายโดยรวมผ่านการตรวจ In-Body
💬 อย่าปล่อยให้ปัญหาสุขภาพรบกวนคุณ! จองบริการ กับเราได้ง่ายๆ ผ่าน HDmall.co.th เพื่อให้คุณมีชีวิตที่มีคุณภาพและสุขภาพดีขึ้นในทุกๆ วัน 📅
เริ่มต้นการดูแลสุขภาพของคุณที่นี่!
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าโปรแกรมตรวจสารอาหารและวิตามิน (Premium) สำหรับผู้ที่อายุ 20 ปีขึ้นไป มีรายการตรวจดังนี้
- Magnesium
- Vitamin D (total)
- Vitamin B12
- Ferritin
- Zinc
- Folate (B9)
- Chromium
- Selenium
- Copper
- Calcium (tol)
- Vitamin C
- Co-Q10
- Alpha-Carotene
- Beta-Carotene
- Gamma-Tocopherol
- Alpha-Tocopherol
- Vitamin A
- Lycopene
- Lutein and Zeaxanthine
- Beta-Cryptoxanthine
- CRP
- In-Body
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณของผู้รับบริการ
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงก่อนการตรวจเลือด
- ทราบผลในวันที่ตรวจได้เลย โดยรอผลประมาณ 2 ชั่วโมง แจ้งผลโดยแพทย์
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรอดนอน
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และคาเฟอีนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนตรวจ
ก่อนตัดสินใจ
- การตรวจวิตามินไม่ใช่การวินิจฉัยโรค เป็นเพียงทางเลือกเสริมเพื่อให้ดูแลตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- ผู้ที่รับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมเป็นประจำ
- ผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยา (Pharmacological) เช่น การได้รับเคมีบำบัด การได้รับยาต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรือผู้ที่ผ่านการผ่าตัด
- ผู้ที่มีความเครียดสูง อยู่ในสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ระบบดูดซึมไม่ดี มีปัญหาลำไส้
- ผู้ที่เป็นโรคที่มีสาเหตุมาจากอนุมูลอิสระ (Oxidative stress-related disease) เช่น อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน หลอดเลือดสมองตีบ
ข้อมูลทั่วไป
วิตามิน (Vitamin) เป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการเพื่อให้การทำงานของระบบต่างๆ และการเจริญเติบโตเป็นไปอย่างปกติ โดยเราจะได้รับวิตามินจากอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน
อย่างไรก็ตาม อาหารที่เลือกรับประทานอาจมีวิตามินในปริมาณที่น้อยหรือไม่ครบถ้วน หลายคนจึงเลือกรับประทานวิตามินเสริมเพิ่มเติมจากมื้ออาหารหลัก
รับประทานวิตามินเสริมเวลาไหนดี?
โดยปกติควรรับประทานวิตามินเสริมหลังมื้ออาหาร เพราะร่างกายจะสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีที่สุด และหากเป็นไปได้ควรเลือกมื้ออาหารที่เป็นมื้อใหญ่สุดของวัน
ใครที่เสี่ยงต่อการขาดวิตามิน?
กลุ่มที่เสี่ยงต่อการขาดวิตามิน ได้แก่
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ที่ได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ
- ผู้ที่งดรับประทานเนื้อสัตว์
- ผู้ที่แพ้อาหารบางประเภท เช่น นมวัว
- ผู้ที่ผ่าตัดกระเพาะหรือลำไส้
- ผู้รับประทานยาที่ส่งผลต่อการดูดซึมวิตามินบางอย่าง
- ผู้ที่ดื่มสุรา สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจำนวนมากเป็นประจำ ซึ่งจะทำให้ร่างกายสูญเสียวิตามินอย่างรวดเร็ว
การตรวจระดับวิตามิน เป็นการตรวจที่ทำให้รู้สภาวะขาดหรือเกินของวิตามินในร่างกาย เพื่อให้เลือกรับประทานเสริมได้อย่างเหมาะสม
การตรวจระดับวิตามิน สำคัญอย่างไร?
การตรวจวัดระดับวิตามินในร่างกาย นอกจากจะทำให้ทราบว่าควรได้รับวิตามินชนิดใดเพิ่มเติมแล้ว ยังเป็นการป้องกันการเลือกรับประทานวิตามินบางชนิดมากเกินไป จนอาจก่อให้เกิดผลเสียด้วย
ประเภทของวิตามิน
วิตามินแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
- วิตามินที่ละลายในน้ำ ได้แก่ วิตามินบี 1 บี 2 บี 3 บี 5 บี 6 บี 7 บี 9 บี 12 และวิตามินซี กลุ่มนี้จะอยู่ในร่างกายประมาณ 2-4 ชั่วโมง ส่วนที่เหลือจากการใช้งานจะถูกขับออกทางปัสสาวะ โอกาสที่จะสะสมในร่างกายจึงมีน้อย ไม่ค่อยก่อให้เกิดผลข้างเคียง
- วิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามินเอ ดี อี และเค วิตามินชนิดนี้จะละลายในไขมัน หรือน้ำมันเพื่อดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ไม่สามารถขับออกทางปัสสาวะได้ หากได้รับมากเกินไปจะถูกสะสมไว้ในร่างกาย ซึ่งหากมีการสะสมมากเกินไปอาจมีผลเสียกับร่างกายได้
หมายเหตุ
- หากมียา วิตามิน หรือสมุนไพร ที่รับประทานเป็นประจำ อาจนำไปด้วยในวันตรวจ เพื่อปรึกษาแพทย์
ที่อื่นที่รับ ตรวจวิตามินในเลือด ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ RSU Healthcare ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 1-3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 60 วัน)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ RSU Healthcare อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ

รู้โปรฯ ใหม่ก่อนใคร! แค่ทิ้งเมลไว้ เดี๋ยวเราเตือนคุณเอง
รีวิวของแพ็กเกจ
การตรวจใช้เวลานานเท่าไหร่?
มีความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงจากการตรวจหรือไม่?
หากมีการใช้ยาหรือวิตามินประจำ ควรทำอย่างไร?
โปรแกรมตรวจสารอาหารและวิตามินคืออะไร?
แพ็กเกจอื่นใน ตรวจวิตามิน (Vitamin Test)
ตรวจวิตามิน 10 รายการที่ร่างกายต้องการ
ตรวจวิตามินและสารแอนติออกซิแดนท์ 10 รายการ เพื่อการเสริมวิตามินตามความต้องการของร่างกาย ด้วยการตรวจเลือด
ตรวจระดับอนุมูลอิสระและสารต้านอนุมูลอิสระ (Oxidative Stress) และระดับวิตามินดี วิตามินอี
แพ็กเกจอื่นใน RSU Healthcare
