RF ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบตึงขึ้น
รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
🌟 กำจัดความเจ็บปวดด้วยคลื่นเทคโนโลยี! คุณเคยรู้สึกปวดเรื้อรังที่กล้ามเนื้อหรือข้อต่อที่ทำให้คุณไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้หรือไม่? ปัญหานี้อาจทำให้คุณเสียโอกาสในการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ 🏃♂️ การรักษาด้วย Radio Frequency Therapy หรือ Shock Wave Therapy ที่ Raksa Physio เป็นทางเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม!
🏥 การรักษาที่มีประสิทธิภาพ โดยใช้เทคโนโลยีคลื่นกระแทกและคลื่นวิทยุ เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดเรื้อรังและกระตุ้นการฟื้นฟูของร่างกาย คุณจะได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ พร้อมกับการบริการที่มีคุณภาพ
💡 ทำไมต้องเลือกการรักษานี้?
- สามารถรักษาอาการปวดเรื้อรังในกล้ามเนื้อและข้อต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดไขมันส่วนเกินในร่างกาย
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีกิจกรรมทางกายภาพสูง เช่น นักกีฬา หรือผู้ที่ทำงานที่ต้องใช้แรงงานหนัก
⚠️ อย่าปล่อยให้ความเจ็บปวดรบกวนคุณ! จองคอร์สการรักษา ที่ Raksa Physio วันนี้และเริ่มต้นการฟื้นฟูสุขภาพที่คุณคู่ควร! 🚀 คุณสามารถแชทกับเราหรือเลือกจองผ่าน HDmall.co.th ได้เลย
มาร่วมสร้างชีวิตที่มีคุณภาพและไร้ความเจ็บปวดไปด้วยกัน!
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าทำ Radio Frequency Therapy 60 นาที หรือ Shock Wave Therapy 1,000 ช็อต 15 ครั้ง
หมายเหตุ
- เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
- หากทำ Shock Wave Therapy เกิน 1,000 ช็อต จะมีค่าบริการเพิ่มช็อตละ 0.75 บาท
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 60 นาที
- ควรนัดหมายเพื่อจองคิวล่วงหน้าก่อนรับบริการ
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ไม่ควรบีบสิว สครับผิว หรือปล่อยให้ผิวโดนแสงแดดจัดก่อนรับบริการ
- ถอดเครื่องประดับที่เป็นโลหะทุกชนิดก่อนเริ่มทำ ป้องกันการช็อต
- รับประทานอาหารให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ
- ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร หรืออย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
- หากมีโรคประจำตัวควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ
การดูแลหลังรับบริการ
- ดื่มน้ำเปล่าเฉลี่ย 3-4 ลิตรในวันแรกหลังรับบริการ เพื่อให้ของเสียที่คั่งค้างถูกกำจัดออกเร็วที่สุด และดื่มน้ำเปล่าวันละ 2 ลิตรในวันถัดไป
- กรณีรับบริการ RF เพื่อลดไขมันส่วนเกิน ควรควบคุมอาหารโดยเฉพาะอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล และไขมัน เพื่อป้องกันไขมันส่วนเกินสะสมใหม่
- ควรออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย
- อาจแนะนำให้รับบริการทรีตเมนต์อื่นร่วมด้วยเพื่อเสริมให้เห็นผลลัพธ์เร็วขึ้น
ก่อนตัดสินใจ
- ผลลัพธ์ของการเสริมความงามขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพบอาการผิดปกติหลังรับบริการควรปรึกษาแพทย์
Radio Frequency Therapy
- ห้ามผู้รับบริการและผู้ให้บริการสัมผัสตัวกัน รวมถึงไม่ควรขยับตัวบ่อย เพราะอาจทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้
- ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะทำ เพราะคลื่นจากโทรศัพท์จะรบกวนคลื่นวิทยุทำให้เครื่องมือเสียหายได้
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นฝ้า เพราะความร้อนอาจทำให้ผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้น
ข้อห้ามสำหรับการทำ RF
- ผู้ที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน หรืออยู่ในช่วง 3 วันก่อนหรือหลังการมีประจำเดือน
- ผู้ที่สูญเสียความรู้สึก หรือการรับความรู้สึกบกพร่องหรือช้า
- ผู้ที่เป็นโรคไต ผู้ที่มีโรคที่เกิดจากระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเลือด
- ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ และผู้ที่เพิ่งคลอดบุตรมาไม่เกิน 6 เดือน
- ผู้ที่มีประวัติเป็นลมชัก
- ผู้ที่บริเวณที่ต้องการทำมีการอักเสบ แผลถลอก เคยได้รับการผ่าตัดมาไม่ถึง 6 เดือน หรือแผลผ่าตัดยังไม่หายสนิท
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ผิวอาจเป็นสีชมพูหรือแดงหลังรับบริการ จากเกิดการขยายตัวของหลอดเลือด แต่มักจะหายไปได้เองภายในเวลาประมาณ 1-2 วัน
Shock Wave Therapy
ข้อห้ามสำหรับการรักษาด้วยคลื่นกระแทก
- สตรีมีครรภ์
- อายุต่ำกว่า 18 ปี
- เป็นโรคมะเร็งหรือมีเนื้องอก
- มีภาวะเลือดแข็งตัวช้า
- มีโลหะฝังอยู่ในร่างกาย
- ผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ
- มีบาดแผลหรือติดเชื้อบริเวณที่จะทำ
- มีความผิดปกติของระบบประสาทส่วนปลาย
สิ่งที่ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
- โรคประจำตัว
- ยาและอาหารเสริมที่รับประทาน
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- อาการปวดชั่วคราว
- ผิวหนังแดง หรือรอยช้ำบริเวณที่ทำ
ข้อมูลทั่วไป
Radio Frequency Therapy
RF (Radio Frequency) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นวิทยุมาช่วยยกกระชับผิว ก่อนหน้านี้ได้มีการใช้เทคโนโลยี RF แก้ปัญหาผิวพรรณเป็นส่วนใหญ่ เช่น การกำจัด ไฝ ขี้แมลงวัน หูด ติ่งเนื้อ กระเนื้อ เนื้องอก ผิวหนัง เป็นต้น จนได้นำมาใช้ในแวดวงความงามและพัฒนาให้ RF มีประสิทธิภาพมากขึ้น
คลื่น RF ทำงานอย่างไร?
เครื่องมือ RF หรือ Radio Frequency ทำงานโดยการนวด พร้อมกับปล่อยพลังงานในรูปของกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ เกิดเป็นคลื่นวิทยุที่สามารถทะลุผ่านผิวชั้นบนเพื่อไปเพิ่มอุณหภูมิของผิวหนังในชั้นที่ลึกลงไป ทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือดที่ดีกว่าเดิม ช่วยสลายไขมัน และกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนขึ้น
ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในแต่ละชั้นผิวหนัง
การส่งผ่านคลื่นวิทยุลงไปในผิวหนัง จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ผิวหนังแต่ละชั้นดังนี้
- ผิวชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) ขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดออกไป ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- ผิวชั้นหนังแท้ (Dermis) มีการไหลเวียนของเลือดที่มากกว่าเดิม กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินให้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผิวกระชับและริ้วรอยลดลง
- ผิวชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ช่วยสลายไขมันและเซลลูไลต์ แล้วกำจัดออกทางกระแสเลือด ทำให้ผิวเนียนกระชับ
หมายเหตุ
- ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนรับบริการ
- บริเวณที่ทำต้องทาเจลช่วยหล่อลื่นอยู่ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ผิวไหม้ได้
Shock Wave Therapy
"Shockwave Therapy" เป็นการใช้เทคโนโลยีคลื่นกระแทกมาใช้ในการบำบัดรักษาอาการโรคที่เกี่ยวกับกระดูกและกล้ามเนื้อที่มีอาการปวดเรื้อรัง
ทำงานอย่างไร?
พลังงานคลื่นกระแทกจะถูกส่งไปยังบริเวณที่มีอาการปวด กระตุ้นให้ร่างกายเกิดการบาดเจ็บขึ้นใหม่ เพื่อตัดวงจรการปวดหรืออักเสบเรื้อรัง และกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมเนื้อเยื่อใหม่ รวมถึงกระตุ้นการหลั่งสารลดปวดทำให้อาการบปวดบริเวณนั้นดีขึ้น
ประเภทของคลื่นกระแทก
คลื่น Shockwave ที่ใช้ในทางกายภาพบำบัด มี 2 ประเภท คือ
- Radial Shockwave Therapy (RSWT) คลื่นกระแทกจะกระจายเป็นบริเวณกว้าง ผ่านลงไปได้ถึงเนื้อเยื่อระดับตื้น มักใช้กับอาการปวดกล้ามเนื้อหรือพังผืด
- Extracoporeal Shockwave Therapy (ESWT) คลื่นกระแทกพลังงานสูง ลงได้ถึงเนื้อเยื่อระดับลึก และตรงจุด เหมาะสำหรับอาการปวดเรื้อรังในกระดูกและกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกระดูกและกล้ามเนื้อมัดลึก
รักษาด้วยคลื่นกระแทกได้บ่อยแค่ไหน?
โดยทั่วไปมักอยู่ที่ 2-5 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ และควรเว้นระยะห่างในแต่ละครั้งประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายซ่อมแซม ฟื้นฟูการอักเสบเรื้อรัง
เจ็บหรือไม่?
ขณะรับบริการจะปรับความแรงให้รู้สึกปวดในระดับที่ผู้รับบริการทนได้ จึงอาจทำให้รู้สึกเจ็บหรือไม่สบายตัวในบริเวณที่ทำ ระดับความเจ็บจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และตำแหน่งที่รักษา
คลื่นกระแทกใช้รักษาโรคอะไรได้บ้าง?
- ปวดข้อศอกและเอ็นข้อศอกอักเสบ
- พังผืดฝ่าเท้าอักเสบ
- ปวดฝ่าเท้าเรื้อรัง (โรครองช้ำ)
- อาการปวดหรือบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
- อาการปวดเรื้อรังในกล้ามเนื้อคอ บ่า หลัง
- ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)
หมายเหตุ
- ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนรับบริการ
- ต้องรับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู และควรทำอย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ดี
- การรักษาด้วยคลื่นกระแทก ควรใช้เป็นการรักษาร่วมกับการออกกำลังกายตามคำแนะนำของแพทย์
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ Raksa Physio ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 1-3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 60 วัน)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Raksa Physio อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th