296,501 บาท*

รายละเอียด
รายละเอียด
รายละเอียดราคา แปลงเพศจากชายเป็นหญิงโดยใช้ลำไส้
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าแปลงเพศจากชายเป็นหญิง โดยใช้ลำไส้ (ขั้นต้น) นอนพักที่โรงพยาบาล 5 คืน
- ค่าแพทย์
- ค่าบริการโรงพยาบาล
หมายเหตุ
- สามารถปรึกษาแพทย์ก่อนทำได้ ไม่เสียค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาล ไม่ว่าจะตัดสินใจทำหรือไม่ทำ
- อาจมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์
- ราคานี้สงวนสิทธิ์เฉพาะคนไทยเท่านั้น
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ แปลงเพศจากชายเป็นหญิงโดยใช้ลำไส้
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ผู้ที่ต้องการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง จะต้องเข้าพบจิตแพทย์อย่างน้อย 2 ท่าน เพื่อขอใบรับรองในการแปลงเพศ
- เข้าพบศัลยแพทย์ที่จะทำการผ่าตัดแปลงเพศ เพื่อตรวจสุขภาพร่างกายอย่างละเอียด
- งดรับประทานฮอร์โมน 1-2 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- งดรับประทานยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับการผ่าตัดหรือตามที่แพทย์สั่ง
- งดรับประทานวิตามิน หรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการบวมช้ำของแผล เช่น วิตามินเอ อี หรือน้ำมันตับปลา อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับการผ่าตัดหรือตามที่แพทย์สั่ง
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพื่อลดโอกาสเกิดเลือดไปเลี้ยงแผลไม่ดี
- ควรเตรียมอาหารสำรอง และที่พักอาศัยใกล้กับโรงพยาบาลที่เข้ารับการผ่าตัด อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อทำแผลและขยายช่องคลอด
การดูแลหลังรับบริการ
- ควรลดอาหารที่กระตุ้นการขับถ่าย เช่น อาหารกากใยสูง หรือนม
- ทำความสะอาดช่องคลอดตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น ใช้น้ำยาป้องกันและฆ่าเชื้อโรค หรือน้ำเกลือล้างแผล ทำความสะอาดช่องคลอด วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น
- ในช่วงแรกหลังการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง ควรนอนในท่าที่ขาทั้งสองข้างแยกออกจากกัน โดยอาจใช้ผ้าห่ม หรือหมอนกั้นกลางไว้ขณะที่หลับ และสามารถลุกเดินได้หลังจากผ่าตัดไปแล้ว 5 วัน หรือแพทย์อนุญาต
- หมั่นใส่วัสดุขยายช่องคลอดเทียมตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อป้องกันไม่ให้ช่องคลอดตีบตัน
- เข้าพบแพทย์ตามนัดหมาย แต่ถ้าหากเกิดอาการผิดปกติใดๆ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
- รับประทานฮอร์โมนตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อคงสภาพความเป็นหญิง ส่วนใหญ่มักเริ่มรับประทานหลังการผ่าตัด ประมาณ 1 เดือน
ก่อนตัดสินใจ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
- การผ่าตัดโดยใช้ลำไส้ใหญ่ทำเป็นผนังเยื่อบุช่องคลอด เป็นส่วนหนึ่งของการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง
- ผู้ที่ต้องการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง จะต้องเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ ทำความเข้าใจ และวางแผนการผ่าตัดอย่างละเอียด
- ควรสอบถามแพทย์เกี่ยวกับการงดรับประทานยา วิตามิน อาหารเสริม หรือเครื่องดื่มที่อาจส่งผลกระทบต่อการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง
- หากมีโรคประจำตัว จะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบ เพื่อความปลอดภัยในการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง
ข้อห้ามสำหรับการแปลงเพศด้วยลำไส้ใหญ่
- ผู้ที่เป็นโรคในกลุ่มลำไส้ เช่น ลำไส้อักเสบ หรือมีกระเปาะที่ลำไส้
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
คุณสมบัติของผู้ที่สามารถผ่าตัดแปลงเพศ ได้แก่
- ผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
- ในกรณีที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี จะต้องมีจดหมายรับรองจากผู้ปกครองเพื่อยินยอมการผ่าตัด
- ต้องใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงติดต่อกันเป็นระยะเวลา 1 ปีขึ้นไป และมีความรู้สึกเป็นหญิงมานานแล้ว
- ได้รับฮอร์โมนเพศหญิงมาก่อน อย่างน้อย 1 ปี
- ผ่านการประเมินสภาพจิตใจ และมีใบรับรองจากจิตแพทย์ อย่างน้อย 2 ท่าน
- มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
- ความเสี่ยงทั่วไปจากการผ่าตัด เช่น มีเลือดออก บวม ติดเชื้อ แพ้ยาชา หรือแพ้ยาสลบ
- การผ่าตัดต่อลำไส้ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างการอักเสบภายในช่องท้อง การรั่วของรอยต่อลำไส้ หรือการติดเชื้อในช่องท้องได้
- ปวดแผล สามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดที่แพทย์สั่งให้
- ความรู้สึกทางเพศลดลง
- ช่องคลอดตีบ หรือท่อปัสสาวะตีบ
- ช่องคลอดทะลุเข้าลำไส้
- เนื้อตาย
- เกิดแผลเป็นที่หน้าท้อง ในกรณีที่ใช้เทคนิคการผ่าตัดแบบเปิดแผลหน้าท้อง
- อาจต้องเข้ารับการผ่าตัดตกแต่งแคมหลังแปลงเพศเพิ่มในภายหลัง เนื่องจากไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการแปลงเพศจากชายเป็นหญิงโดยใช้ลำไส้
การผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง เป็นการผ่าตัดเพื่อตกแต่งอวัยวะเพศชายภายนอกให้มีรูปร่างเหมือนอวัยวะเพศหญิงมากที่สุด
การผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง มี 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่
- สร้างช่องคลอดเทียม เริ่มจากตัดต่อท่อปัสสาวะที่ยาวให้สั้นลง และอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง สามารถนั่งปัสสาวะได้ จากนั้นจึงทำช่องคลอดเทียม โดยความลึกของช่องคลอดจะขึ้นอยู่กับความยาวของอวัยวะเพศเดิม
- ตกแต่งรูปร่างแคมใน และแคมนอกให้เหมือนอวัยวะเพศหญิงมากที่สุด
- ตกแต่งประสาทรับความรู้สึก โดยเก็บเส้นเลือด และเส้นประสาทรับรู้ไว้ แล้วสร้างเป็นปุ่มคลิตอริส (Clitoris) ซึ่งเป็นจุดสัมผัสรับรู้ทางเพศ
แพ็กเกจนี้ใช้ลำไส้ใหญ่ทำเป็นผนังเยื่อบุช่องคลอด (Colon Graft)
ในขั้นตอนการสร้างช่องคลอดเทียมขึ้นมาใหม่นั้น แพทย์จะต้องสร้างผนังเยื่อบุช่องคลอดเพื่อไม่ให้ช่องคลอดตีบแคบ แบ่งเป็น 2 วิธีหลักๆ คือ การบุเนื้อเยื่อชนิดที่ไม่มีเยื่อเมือกธรรมชาติ และการบุเนื้อเยื่อชนิดที่มีเยื่อเมือกธรรมชาติ
การผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง โดยใช้ลำไส้ใหญ่ทำเป็นผนังเยื่อบุช่องคลอด (Colon Graft) เป็นหนึ่งในเทคนิคการตกแต่งภายในช่องคลอดด้วยเนื้อเยื่อชนิดที่มีเยื่อเมือกธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นหญิงอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะลำไส้ใหญ่สามารถผลิตน้ำหล่อลื่นตามธรรมชาติได้
นอกจากนี้การใช้ลำไส้ใหญ่ทำเป็นผนังเยื่อบุช่องคลอด ยังสามารถทำในผู้ที่เคยเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศมาแล้ว แต่มีปัญหาช่องคลอดตีบตันจนทำให้ไม่สามารถร่วมเพศได้อีกด้วย
ข้อดีของการใช้ลำไส้ใหญ่ทำเป็นผนังเยื่อบุช่องคลอด
- ไม่ต้องใช้เจลหล่อลื่นช่วยในการมีเพศสัมพันธ์ เพราะเนื้อเยื่อสามารถผลิตเมือกได้เองตามธรรมชาติ
- เหมาะสำหรับผู้ที่อวัยวะเพศเดิมมีขนาดเล็ก ทำให้มีเนื้อเยื่อไม่เพียงพอต่อการตกแต่งภายในช่องคลอด
- การใช้เยื่อเมือกธรรมชาติอย่างลำไส้ใหญ่ จะช่วยให้การตกแต่งภายในช่องคลอดมีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- สามารถนำมาใช้แก้ไขปัญหาการตีบตันช่องคลอด ในผู้ที่เคยเข้ารับการผ่าตัดทำผนังช่องคลอดด้วยเนื้อเยื่อชนิดที่ไม่มีเยื่อธรรมชาติได้
ข้อจำกัด
- มีความเสี่ยงมากกว่าการทำผนังเยื่อบุช่องคลอดด้วยเนื้อเยื่อชนิดไม่มีเยื่อเมือกธรรมชาติ เพราะต้องผ่าตัดต่อลำไส้ภายในช่องท้อง
หมายเหตุ
- หลังเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง โดยใช้ลำไส้ใหญ่ทำเป็นผนังเยื่อบุช่องคลอด จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย
- การผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง จำเป็นต้องทำกับศัลยแพทย์ที่ชำนาญการและมีประสบการณ์ เพื่อความปลอดภัย ควรเลือกทำกับสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้
สถานพยาบาลอื่นที่มีบริการ ผ่าตัดแปลงเพศ ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ โรงพยาบาลบางปะกอก รังสิต 2 ผ่าน HDmall
นัดคิวเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมิน แล้วกลับมาจ่ายเงินที่ HDmall.co.th รับส่วนลดทันที
- กด 'จองเลย' แล้วกรอกข้อมูลให้ครบ
- นัดคิวเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมินก่อนรับบริการ (อาจมีค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของโรงพยาบาล)
- นำยอดค่าใช้จ่ายที่คุณหมอสรุปให้ มาแจ้งกับแอดมิน HDmall โดยเข้าไลน์ @hdcoth แล้วพิมพ์ 'hdexpress' เพื่อดำเนินการชำระเงินพร้อมรับส่วนลด สามารถเลือกวิธีโอน จ่ายบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต โดยจ่ายบัตรเครดิตได้เมื่อมียอดชำระ 300 บาทขึ้นไป ผ่อนได้เมื่อมียอดชำระตั้งแต่ 3,000 บาท
- รอรับคูปองทางอีเมล (จะออกภายใน 15 นาทีหลังแอดมินตรวจสอบการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว) คูปองมีอายุ 60 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่โรงพยาบาลเพื่อรับบริการ
*ระยะเวลาผ่อนชำระขึ้นอยู่กับราคาแพ็กเกจ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ ทางโรงพยาบาลจะสรุปค่าใช้จ่ายให้ทราบหลังแพทย์ตรวจประเมิน
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ โรงพยาบาลบางปะกอก รังสิต 2 อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ
-
วันจันทร์-อาทิตย์ (ทุกวัน) 09.00-19.00 น.
-
โรงพยาบาลบางปะกอก รังสิต 2 อยู่ที่รังสิต-นครนายก ซอย 51 ศูนย์ความงามอยู่ที่ชั้น 2
-
จอดรถในพื้นที่จอดรถของโรงพยาบาล
-
จ่ายบัตรเครดิตได้ ไม่มีขั้นต่ำ ไม่มีค่าธรรมเนียม