ผ่าตัดปอดโดยการส่องกล้อง
การผ่าตัดปอดสามารถรักษาโรคปอดและทรวงอกได้หลายโรค เช่น มะเร็งปอด เนื้องอกในปอด
ถ้ามีโรคปอดควรรีบรักษา ถ้าปล่อยทิ้งไว้อาจรักษาได้แต่ไม่หายขาด ปอดเสียหายถาวร ทำให้เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก
ผ่าตัดปอดด้วยการส่องกล้อง เจ็บน้อยกว่า ผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่า ฟื้นตัวเร็วกว่า
ไม่แน่ใจต้องเริ่มจากตรงไหน? ให้แอดมิน HDcare เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคุณ ถามได้ทุกเรื่อง หาข้อมูลให้ ประสานงานกับคุณหมอและ รพ. ให้ อยู่ดูแลคุณ จนคุณผ่านการผ่าตัดครั้งสำคัญครั้งนี้ไปด้วยกัน
รายละเอียด
HDcare สรุปให้
อาการแบบนี้ต้องผ่าไหม? ผ่าที่ไหนดี? ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
กังวลอะไร มีคำถามแบบไหน HDcare จัดการให้ตลอดการรักษา
ทำนัดปรึกษาทีมแพทย์ของ HDcare วันนี้
การผ่าตัดปอดด้วยการส่องกล้อง สามารถรักษาได้หลายโรค เช่น
- มะเร็งปอดระยะแรก (ระยะที่ 1 และ 2)
- เนื้องอกในช่องอก เช่น ก้อนเนื้อในปอด เนื้องอกต่อมไทมัส
- ภาวะลมรั่วในช่องเยื่อหุ้มปอด โรคปอดทะลุ หรือโรคปอดรั่ว
- ภาวะติดเชื้อในช่องเยื่อหุ้มปอด เช่น หนองในช่องเยื่อหุ้มปอด
ถ้ามีโรคปอดควรรีบรักษา ถ้าปล่อยทิ้งไว้อาจกลายเป็นมะเร็งปอดระยะลุกลามหรือโรคปอดระยะรุนแรง ทำให้ปอดเสียหายถาวร เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก รักษาให้หายขาดไม่ได้ และอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
อาการที่คุณเป็น รักษาด้วยการผ่าตัดปอดได้มั้ย?
ถ้าคุณมีอาการไอเรื้อรัง หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย เจ็บหน้าอก แต่ไม่แน่ใจเป็นโรคปอดไหม ให้แอดมินหาโปรตรวจปอดใกล้บ้านคุณให้ได้ ทักแอดมินทางไลน์ วันนี้
ดูรีวิวคนไข้สั้นๆ ไม่ถึง 1 นาที แล้วจะรู้ว่า...
ทำไม 5,000+ คน ถึงเลือกผ่าตัดกับ HDcare
สัญญาณที่ต้องตรวจ
คนที่มีความผิดปกติเกี่ยวข้องกับปอด หรือเป็นโรคที่เกี่ยวกับปอดและช่องอก สามารถสังเกตอาการได้ ดังนี้
- ไอเรื้อรังหรือไอเป็นเลือด
- หายใจถี่ หายใจลำบากขึ้น และมีเสียงหวีดดังระหว่างหายใจ
- อ่อนเพลียง่าย เหนื่อยง่าย
- เจ็บหน้าอกบ่อย
คนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปอดอยู่แล้ว ควรมารับการตรวจสุขภาพหรือตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปอดทุกปี โดยไม่จำเป็นต้องมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นก่อน เช่น
- มีประวัติสูบบุหรี่จัด
- รับควันบุหรี่มือสองบ่อย
- มีคนในครอบครัวเป็นโรคมะเร็งหลายคน
ตรวจโรคนี้อย่างไรได้บ้าง
- ซักประวัติกับแพทย์ เพื่อวินิจฉัยโรคที่เกี่ยวกับปอดและทรวงอก
- ตรวจเสมหะด้วยกล้องจุลทรรศน์ ซึ่งสามารถตรวจพบเซลล์ที่ผิดปกติซึ่งอาจก่อโรคมะเร็งที่ปอดได้
- ตรวจเอกซเรย์ปอด แพทย์นิยมใช้การทำ CT Scan หรือการทำ MRI (Magnetic Resonance Imaging) เนื่องจากช่วยให้เห็นภาพเนื้อเยื่อในปอดได้อย่างแม่นยำ
- การตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจวิเคราะห์ (Biopsy) สามารถทำได้หลายวิธี เช่น
- การใช้เข็มเจาะช่องอกเพื่อดูดตัวอย่างของเหลวจากปอด (Fine-Needle Aspiration)
- การสอดท่อผ่านจมูกหรือปอดเพื่อดูดของเหลว หรือตัดชิ้นเนื้อจากปอด (Bronchoscopy)
- การใช้เข็มเจาะที่ช่องอกในตำแหน่งระหว่างปอดกับผนังช่องอกเพื่อเก็บของเหลว (Thoracentesis)
- การผ่าตัดที่ส่วนบนของกระดูกอกเพื่อนำตัวอย่างเนื้อเยื่อ และต่อมน้ำเหลืองส่งตรวจเพิ่มเติม (Mediastinoscopy)
รู้จักการผ่าตัดนี้
การผ่าตัดปอดด้วยการส่องกล้องแผลเล็ก (Video-Assisted Thoracic Surgery: VATS) คือ การผ่าตัดรักษาโรคเกี่ยวกับปอด ด้วยการใช้กล้องผ่าตัดขนาดเล็กที่มีชื่อว่า Thoracoscope ในการผ่าตัดเปิดแผลบริเวณกระดูกซี่โครง และสามารถส่งภาพภายในทรวงอกขึ้นบนจอภาพภายในห้องผ่าตัดได้ ช่วยให้เกิดข้อได้เปรียบในการผ่าตัดมากกว่าเทคนิคผ่าตัดแบบเก่า
การผ่าตัดปอดด้วยการส่องกล้องแผลเล็ก แบ่งรูปแบบการผ่าตัดตามตำแหน่งของปอดที่แพทย์ต้องตัดออกได้อีก 4 รูปแบบ ได้แก่
- การผ่าตัดรูปลิ่ม หรือตัดกลีบปอดออกเฉพาะส่วนที่มีรอยโรค (Wedge Resection หรือ Segmentectomy)
- การผ่าตัดกลีบปอดออกทั้งกลีบ (Lobectomy)
- การผ่าตัดปอดออกทั้งชิ้น (Pneumonectomy)
- การผ่าตัดขั้วอด (Sleeve Resection)
ข้อดีของการผ่าตัดปอดด้วยการส่องกล้องแผลเล็ก
- แผลมีขนาด 3-4 ซม. เทียบกับการผ่าตัดแบบเปิดที่มีแผลใหญ่ถึง 8-25 ซม.
- ไม่มีการถ่างช่องซี่โครงระหว่างผ่าตัด
- ช่วยให้เจ็บแผลน้อยกว่า
- ระยะเวลานอน รพ. และการฟื้นตัวหลังผ่าตัดรวดเร็วขึ้น
- ลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
- รักษาโรคเกี่ยวกับปอดและทรวงอกได้หลายโรค และใช้รักษาคนไข้โรคเกี่ยวกับปอดได้ถึง 90%
- มีความแม่นยำและปลอดภัยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด
เปรียบเทียบการผ่าตัดวิธีต่างๆ
ผ่าตัดแบบเปิด (Open thoracotomy)
- แผลใหญ่ประมาณ 8-25 ซม.
- ต้องใช้เครื่องถ่างช่องซี่โครง
- มีโอกาสเสียเลือดได้มาก
- ทำให้เจ็บปวดแผลได้มากกว่า
- มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่ายกว่า
ผ่าตัดแบบส่องกล้องแผลเล็ก (Video-Assisted Thoracic Surgery: VATS)
- แผลเล็กประมาณ 3-4 ซม. ประมาณ 2-3 แผล
- ไม่ต้องใช้เครื่องถ่างช่องซี่โครง
- ลดโอกาสเสียเลือดได้มากกว่า
- มีโอกาสเจ็บแผลได้น้อย ระยะเวลาฟื้นตัวจึงเร็วขึ้น
- โอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนต่ำ
ผ่าตัดแบบส่องกล้องแผลเล็กแบบแผลเดียว (Uniportal Video-Assisted Thoracic Surgery: Uniportal VATS)
- แผลเล็กประมาณ 3-4 ซม. เพียงแค่ 1 แผล
- ไม่ต้องใช้เครื่องถ่างช่องซี่โครง
- ลดโอกาสเสียเลือดได้มากกว่า
- เจ็บแผลน้อยกว่าการผ่าตัดแบบ VATS เพราะมีแค่แผลเดียว
- แพทย์ผู้ผ่าตัดจะต้องมีความเชี่ยวชาญจากการผ่าตัดแบบ VATS มาก่อน
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- แจ้งให้แพทย์ทราบถึงภาวะสุขภาพทั้งหมด รวมถึงยาหรืออาหารเสริมที่กินเป็นประจําเพราะอาจมีผลต่อการผ่าตัด แพทย์อาจให้หยุดยาหรืออาหารเสริมบางอย่าง
- งดอาหารและดื่มน้ำก่อนผ่าตัด อย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการสำลักน้ำย่อย หรือเศษอาหารจากกระเพาะอาหารเข้าสู่ปอดในระหว่างดมยาสลบ
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
การดูแลหลังผ่าตัด
- พักฟื้นที่ รพ. ประมาณ 2-3 วัน ขึ้นอยู่กับการประเมินจากแพทย์ ในระหว่างนี้แพทย์ยังให้ใส่หน้ากากออกซิเจน เพื่อเสริมการหายใจให้สะดวกขึ้น
- แพทย์จะถอดสายระบายของเหลวให้ในวันที่ออกจากโรงพยาบาล
- หมั่นหายใจด้วยเครื่องสไปโรมิเตอร์ เพื่อให้สามารถหายใจได้ลึกขึ้น ช่วยป้องกันโอกาสแผลติดเชื้อได้
- กินอาหารที่มีประโยชน์ตามคำแนะนำของแพทย์
- กินยาตามที่แพทย์สั่งจ่ายให้อย่างครบด้วนและอย่างเคร่งครัด
- อย่าให้แผลโดนน้ำจนกว่าแพทย์จะอนุญาต หลังจากนั้นสามารถอาบน้ำได้ตามปกติ แต่ต้องซับแผลให้แห้งเสมอ งดทาโลชั่น ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกายจนกว่าแผลจะสมานตัวดี
- งดมีเพศสัมพันธ์จนกว่าแผลจะหายดี
- งดยกของหนัก งดทำกิจกรรมที่ต้องมีการดึง ผลัก ดัน งดออกกำลังกายหนักๆ และงดขับรถเอง 4-6 สัปดาห์
- สามารถเดินออกกำลังกายเบาๆ วันละ 1-2 ครั้งได้
- เดินทางกลับมาตรวจแผลกับแพทย์ตามนัดหมาย และแพทย์อาจแนะนำให้ตรวจดูการเปลี่ยนแปลงของปอดอีกครั้ง เช่น การทำ CT Scan การทำ MRI การทำ PET Scan
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกอาจมีอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นได้บ้าง แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นอย่างช้าๆ เช่น เจ็บแผล รู้สึกชาที่หน้าอก ไอบ่อย มีเสมหะ เหนื่อยง่ายขึ้น
- ความเสี่ยงทั่วไปที่พบได้จากการผ่าตัด เช่น การติดเชื้อ แพ้ยาสลบ อาการชา บวมช้ำ เลือดออกที่แผล หรือแผลมีเลือดคลั่ง
- อาการที่ควรกลับไปพบแพทย์โดยทันที ได้แก่ มีไข้สูง เจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง หายใจลำบาก
- ภาวะลมรั่วหลังผ่าตัด
- ภาวะปอดแฟบ
- ภาวะปอดติดเชื้อ
นพ. ศิระ เลาหทัย (ว.41622)
ศัลยแพทย์ทรวงอก
ข้อมูลของแพทย์
- แพทยศาสตรบัณฑิต โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
- ศัลยศาสตร์ทรวงอก โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
- Thoracic Cardiovascular Surgery, Seoul National University Bundang Hospital (Korea)
- Thoracic Surgery, Mount Sinai Hospital (USA)
- Thoracic Surgery, National Cancer Center East (Japan)
- Thoracic Surgery, National Taiwan University (Taiwan)
นพ. ภูวดล ฐิติวราภรณ์ (ว.41443)
ศัลยแพทย์ทรวงอก
ข้อมูลของแพทย์
- 2554: แพทยศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2), จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- 2561: วุฒิบัตร สาขาศัลยศาสตร์ทรวงอก, ประเทศไทย
- 2566: แขนงที่ฝึกฝนเป็นพิเศษ Robotic Training, Da Vinci Xi surgical system
นพ. บุลวัชร์ หอมวิเศษ
ศัลยแพทย์ทรวงอก
ข้อมูลอื่นของแพทย์
-คณะแพทยศาสตร์, รพ.ศิริราช ม.มหิดล
-ศัลยศาสตร์, รพ.ธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ
-ศัลยกรรมทั่วไป, รพ.ศิริราช
-ศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก, คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราช
-Clinical fellow Cardiothoracic transplantation, Papworth Hospital, Cambridge UK
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ