ผ่าตัดไส้ติ่ง (แบบส่องกล้องแผลเดียว)
แผลเล็ก แทบไม่ทิ้งแผลเป็นให้เห็น
รายละเอียด
HDcare สรุปให้
ถ้ามีสิ่งอุดตัน เช่น อุจจาระแข็ง พยาธิ เนื้องอก ไส้ติ่งจะอักเสบปวดบวม เลือดไม่ไปเลี้ยง พอขาดเลือดนานๆ ไส้ติ่งจะตาย ถ้าไม่รักษาจะเกิดภาวะไส้ติ่งแตก ทำให้สิ่งอุดตันรั่วไหลไปอวัยวะอื่นๆ ทำให้ติดเชื้อ และอันตรายถึงชีวิต
เมื่อขาดเลือดนานๆ ไส้ติ่งจะเริ่มตายลง ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจเกิดไส้ติ่งแตก ซึ่งจะทำให้สิ่งอุดตันภายในไส้ติ่งรั่วไหลออกไปสู่อวัยวะอื่นๆ ในช่องท้อง ทำให้เกิดการติดเชื้อได้
อาการของไส้ติ่งอักเสบ
- ปวดท้องด้านล่างขวา
เมื่อขาดเลือดนานๆ ไส้ติ่งจะเริ่มตายลง ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจเกิดไส้ติ่งแตก ซึ่งจะทำให้สิ่งอุดตันภายในไส้ติ่งรั่วไหลออกไปสู่อวัยวะอื่นๆ ในช่องท้อง ทำให้เกิดการติดเชื้อได้
ตรวจไส้ติ่ง ทำอย่างไร?
นอกจากซักประวัติ ถามอาการแล้ว แพทย์อาจสั่งตรวจเพิ่มเติมประกอบการวินิจฉัยภาวะไส้ติ่งอักเสบ ดังนี้
ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ เพื่อดูว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ ติดเชื้อชนิดใด
ตรวจอัลตราซาวนด์ช่องท้อง เพื่อดูการทำงานของอวัยวะภายใน และตรวจการไหลเวียนเลือด
ทำ CT scan เพื่อตรวจดูในช่องท้องอย่างละเอียด โดยจะเห็นทั้งกระดูก กล้ามเนื้อ และอวัยวะภายใน
ทำ MRI ใช้ในบางกรณีเท่านั้น เช่น ในผู้ที่กำลังตั้งครรภ์แพทย์อาจให้ทำ MRI แทน CT scan เพื่อหลีกเลี่ยงรังสีวิทยุ
ภาวะไส้ติ่งอักเสบถึงไส้ติ่งแตกอาจเกิดขึ้นได้ภายใน 48-72 ชั่วโมง เป็นภาวะที่อันตรายมาก คนไข้มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ ดังนั้นเมื่อีอาการสงสัยว่าเป็นไส้ติ่งจึงควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาโดยเร็ว
ไส้ติ่งอักเสบ อาการเป็นอย่างไร?
เริ่มจากปวดท้องบิดเป็นพักๆ บริเวณรอบสะดือ คล้ายอาการท้องเสีย แต่ถ่ายไม่ออก แล้วย้ายมาปวดที่ท้องน้อยด้านขวา
อาการปวดมักเริ่มจากปวดน้อยๆ ก่อนแล้วค่อยๆ มากขึ้น เมื่อกดตรงที่ปวดแล้วจะยิ่งเจ็บ
บางกรณี ถ้าปลายไส้ติ่งชี้ไปด้านหลัง คนไข้อาจมีอาการปวดเสียงที่หลัง เอว หรือปวดซี่โครง
คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ท้องอืด มีไข้ ท้องผูก หรือท้องเสีย
หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์ ไม่ควรกินยาแก้ปวด เพราะยาจะส่งผลให้คนไข้ไม่รู้สึกถึงอาการที่แท้จริง อาจทำให้แพทย์วินิจฉัยอาการยากขึ้น หรือวินิจฉัยโรคได้ไม่แม่นยำ
1. ผ่าตัดไส้ติ่งแบบเปิด
เป็นการผ่าตัดรักษาแบบดั้งเดิม วิธีนี้แพทย์จะให้ยาระงับความรู้สึกแก่คนไข้ ก่อนจะกรีดเปิดแผลที่หน้าท้องขนาดประมาณ 12-20 เซนติเมตร จากนั้นผ่าตัดเอาไส้ติ่งออกมา เย็บปิดแผลที่ลำไส้ แล้วค่อยเย็บปิดแผลที่ผิวหนังหน้าท้อง
หลังผ่าตัดไส้ติ่งแบบเปิด แพทย์มักแนะนำให้คนไข้พักฟื้นประมาณ 1 สัปดาห์
2. ผ่าตัดไส้ติ่งแบบส่องกล้อง
การผ่าตัดส่องกล้องเป็นเทคนิคการผ่าตัดแบบใหม่ ซึ่งจะช่วยให้มีแผลผ่าตัดขนาดเล็กลง เสียเลือดน้อยลง ลดการเกิดพังผืดในช่องท้อง และคนไข้ใช้เวลาพักฟื้นสั้นกว่า เมื่อเทียบกับการผ่าตัดไส้ติ่งแบบเปิด การผ่าตัดไส้ติ่งแบบส่องกล้องสามารถทำได้แม้ในคนไข้ที่มีภาวะไส้ติ่งแตก
ความแตกต่างระหว่างผ่าตัดไส้ติ่งแบบเปิดกับแบบส่องกล้อง
แบบส่องกล้อง แพทย์จะใช้วิธีเจาะรูที่ผิวหนังคนไข้เป็นรูขนาด 1-2 เซนติเมตร ประมาณ 3 รู แล้วสอดกล้องกับอุปกรณ์ผ่าตัดเข้าไปทางรูนี้ กล้องจะฉายภาพภายในช่องท้องออกมาจากจะภาพขนาดใหญ่ในห้องผ่าตัด ช่วยให้แพทย์ทำการผ่าตัดได้อย่างแม่นยำ โอกาสกระทบกระเทือนถึงอวัยวะภายในอื่นๆ เกิดขึ้นได้น้อย
หลังผ่าตัดไส้ติ่งแบบส่องกล้อง แพทย์มักแนะนำให้คนไข้พักฟื้นในโรงพยาบาลประมาณ 1-2 วัน หรือบางกรณีอาจกลับบ้านได้เลยภายในวันผ่าตัด
สิ่งที่เหมือนกันของการผ่าตัดไส้ติ่งแบบเปิดกับแบบส่องกล้อง
หลังผ่าเอาชิ้นไส้ติ่งออกไปแล้ว แพทย์จะส่งตรวจชิ้นไส้ติ่งในห้องปฏิบัติการเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีโรคหรือเนื้อร้ายใดๆ
กรณีที่ไส้ติ่งแตกแล้ว แพทย์จะล้างช่องท้องคนไข้ด้วยน้ำเกลือ (Saline) ก่อนเย็บปิดแผลที่ผิวหนัง และอาจมีการใส่ท่อเล็กๆ เข้าที่ช่องท้องเพื่อระบายหนองหรือของเหลวใดๆ ออก โดยอาจคาท่อนี้ไว้หลังจากผ่าตัด 2-3 วันแล้วค่อยนำออก
ผ่าตัดไส้ติ่งผ่านกล้องแผลเดียว ทางเลือกการรักษาแบบไม่ทิ้งแผลเป็น
ปัจจุบันมีทางเลือกสำหรับการผ่าตัดไส้ติ่งเพิ่มขึ้นอีก คือ การผ่าตัดไส้ติ่งผ่านกล้องแผลเดียว ซึ่งลดจำนวนแผลลงเหลือเพียง 1 แผล และยังอาจซ่อนไว้ที่อวัยวะอื่น เช่น สะดือ ได้ด้วย ทำให้เมื่อเย็บปิด ดูแลรักษาแผลให้หายดีเรียบร้อยแล้ว ก็แทบสังเกตไม่เห็นแผลผ่าตัดเลย
การผ่าตัดไส้ติ่งผ่านกล้องแบบแผลเดียว สามารถทำได้เฉพาะเมื่อภาวะไส้ติ่งอักเสบนั้นไม่ซับซ้อน และจำเป็นต้องทำการผ่าตัดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการผ่าตัดส่องกล้องแบบแผลเดียวเท่านั้น ในสถานพยาบาลที่มีห้องผ่าตัดและอุปกรณ์เฉพาะสำหรับการผ่าตัดเทคนิคนี้เท่านั้นด้วย
ความแตกต่างระหว่างการผ่าตัดส่องกล้องทั่วไปกับการผ่าตัดผ่านกล้องแบบแผลเดียว เช่น ภาพที่ฉายออกมาจากในช่องท้อง การผ่าตัดส่องกล้องทั่วไปจะให้ภาพเหมือนจริง แต่การผ่าตัดผ่านกล้องแบบแผลเดียวจะให้ภาพกลับซ้ายเป็นขวา ดังนั้นจึงต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้ชำนาญ ทั้งด้านการมองภาพ และการจับอุปกรณ์ที่ต้องใช้เทคนิคเฉพาะ
ข้อดีของการผ่าตัดผ่านกล้องแผลเดียวเมื่อเทียบกับการผ่าตัดส่องกล้องทั่วไป คือ ลดความเสี่ยงแผลติดเชื้อ และความเจ็บปวดน้อยกว่า แต่เนื่องจากเป็นเทคนิคที่ซับซ้อน จึงใช้เวลาผ่าตัดยาวนานกว่า และค่าใช้จ่ายมักสูงกว่าด้วย
รู้จักโรคนี้
ไส้ติ่ง อยู่ตรงไหนของร่างกาย?
ไส้ติ่ง คือ กระเปาะผอมๆ ที่ติดอยู่กับลำไส้ใหญ่ ซึ่งอยู่ในช่องท้องส่วนล่างทางด้านขวา ไส้ติ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันเมื่อคนเรายังเป็นเด็ก แต่จะหยุดทำหน้าที่นี้ไปเมื่อเราโตขึ้น
ไส้ติ่งอักเสบ ไส้ติ่งแตก สาเหตุคืออะไร?
ไส้ติ่งอาจเกิดการอักเสบได้จากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย หรือบางครั้งอาจเกิดจากมีสิ่งแปลกปลอมอุดตัน เช่น อุจจาระแข็ง พยาธิ เนื้องอก ไส้ติ่งอักเสบจะมีอาการปวดบวม เลือดไม่ไปเลี้ยง
เมื่อขาดเลือดนานๆ ไส้ติ่งจะเริ่มตายลง ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีอาจเกิดไส้ติ่งแตก ซึ่งจะทำให้สิ่งอุดตันภายในไส้ติ่งรั่วไหลออกไปสู่อวัยวะอื่นๆ ในช่องท้อง ทำให้เกิดการติดเชื้อได้
ตรวจโรคนี้อย่างไรได้บ้าง
ตรวจไส้ติ่ง ทำอย่างไร?
นอกจากซักประวัติ ถามอาการแล้ว แพทย์อาจสั่งตรวจเพิ่มเติมประกอบการวินิจฉัยภาวะไส้ติ่งอักเสบ ดังนี้
- ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ เพื่อดูว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ ติดเชื้อชนิดใด
- ตรวจอัลตราซาวนด์ช่องท้อง เพื่อดูการทำงานของอวัยวะภายใน และตรวจการไหลเวียนเลือด
- ทำ CT scan เพื่อตรวจดูในช่องท้องอย่างละเอียด โดยจะเห็นทั้งกระดูก กล้ามเนื้อ และอวัยวะภายใน
- ทำ MRI ใช้ในบางกรณีเท่านั้น เช่น ในผู้ที่กำลังตั้งครรภ์แพทย์อาจให้ทำ MRI แทน CT scan เพื่อหลีกเลี่ยงรังสีวิทยุ
รักษาโรคนี้ได้วิธีไหนบ้าง
แนวทางการรักษาไส้ติ่ง
ไส้ติ่งที่เกิดการอักเสบไปแล้วมีวิธีรักษาเพียงวิธีเดียวเท่านั้นคือผ่าตัดนำไส้ติ่งออกจากร่างกาย โดยเทคนิคการผ่าตัดหลักๆ แล้วมี 2 แนวทาง ได้แก่
1. ผ่าตัดไส้ติ่งแบบเปิด
เป็นการผ่าตัดรักษาแบบดั้งเดิม วิธีนี้แพทย์จะให้ยาระงับความรู้สึกแก่คนไข้ ก่อนจะกรีดเปิดแผลที่หน้าท้องขนาดประมาณ 12-20 เซนติเมตร จากนั้นผ่าตัดเอาไส้ติ่งออกมา เย็บปิดแผลที่ลำไส้ แล้วค่อยเย็บปิดแผลที่ผิวหนังหน้าท้อง
หลังผ่าตัดไส้ติ่งแบบเปิด แพทย์มักแนะนำให้คนไข้พักฟื้นประมาณ 1 สัปดาห์
2. ผ่าตัดไส้ติ่งแบบส่องกล้อง
การผ่าตัดส่องกล้องเป็นเทคนิคการผ่าตัดแบบใหม่ ซึ่งจะช่วยให้มีแผลผ่าตัดขนาดเล็กลง เสียเลือดน้อยลง ลดการเกิดพังผืดในช่องท้อง และคนไข้ใช้เวลาพักฟื้นสั้นกว่า เมื่อเทียบกับการผ่าตัดไส้ติ่งแบบเปิด การผ่าตัดไส้ติ่งแบบส่องกล้องสามารถทำได้แม้ในคนไข้ที่มีภาวะไส้ติ่งแตก
ความแตกต่างระหว่างผ่าตัดไส้ติ่งแบบเปิดกับแบบส่องกล้อง
แบบส่องกล้อง แพทย์จะใช้วิธีเจาะรูที่ผิวหนังคนไข้เป็นรูขนาด 1-2 เซนติเมตร ประมาณ 3 รู แล้วสอดกล้องกับอุปกรณ์ผ่าตัดเข้าไปทางรูนี้ กล้องจะฉายภาพภายในช่องท้องออกมาจากจะภาพขนาดใหญ่ในห้องผ่าตัด ช่วยให้แพทย์ทำการผ่าตัดได้อย่างแม่นยำ โอกาสกระทบกระเทือนถึงอวัยวะภายในอื่นๆ เกิดขึ้นได้น้อย
หลังผ่าตัดไส้ติ่งแบบส่องกล้อง แพทย์มักแนะนำให้คนไข้พักฟื้นในโรงพยาบาลประมาณ 1-2 วัน หรือบางกรณีอาจกลับบ้านได้เลยภายในวันผ่าตัด
สิ่งที่เหมือนกันของการผ่าตัดไส้ติ่งแบบเปิดกับแบบส่องกล้อง
หลังผ่าเอาชิ้นไส้ติ่งออกไปแล้ว แพทย์จะส่งตรวจชิ้นไส้ติ่งในห้องปฏิบัติการเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีโรคหรือเนื้อร้ายใดๆ
กรณีที่ไส้ติ่งแตกแล้ว แพทย์จะล้างช่องท้องคนไข้ด้วยน้ำเกลือ (Saline) ก่อนเย็บปิดแผลที่ผิวหนัง และอาจมีการใส่ท่อเล็กๆ เข้าที่ช่องท้องเพื่อระบายหนองหรือของเหลวใดๆ ออก โดยอาจคาท่อนี้ไว้หลังจากผ่าตัด 2-3 วันแล้วค่อยนำออก
สัญญาณที่ต้องผ่าตัด
ภาวะไส้ติ่งอักเสบถึงไส้ติ่งแตกอาจเกิดขึ้นได้ภายใน 48-72 ชั่วโมง เป็นภาวะที่อันตรายมาก คนไข้มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ ดังนั้นเมื่อีอาการสงสัยว่าเป็นไส้ติ่งจึงควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาโดยเร็ว
ไส้ติ่งอักเสบ อาการเป็นอย่างไร?
- เริ่มจากปวดท้องบิดเป็นพักๆ บริเวณรอบสะดือ คล้ายอาการท้องเสีย แต่ถ่ายไม่ออก แล้วย้ายมาปวดที่ท้องน้อยด้านขวา
- อาการปวดมักเริ่มจากปวดน้อยๆ ก่อนแล้วค่อยๆ มากขึ้น เมื่อกดตรงที่ปวดแล้วจะยิ่งเจ็บ
- บางกรณี ถ้าปลายไส้ติ่งชี้ไปด้านหลัง คนไข้อาจมีอาการปวดเสียงที่หลัง เอว หรือปวดซี่โครง
- คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ท้องอืด มีไข้ ท้องผูก หรือท้องเสีย
หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์ ไม่ควรกินยาแก้ปวด เพราะยาจะส่งผลให้คนไข้ไม่รู้สึกถึงอาการที่แท้จริง อาจทำให้แพทย์วินิจฉัยอาการยากขึ้น หรือวินิจฉัยโรคได้ไม่แม่นยำ
รู้จักการผ่าตัดนี้
ผ่าตัดไส้ติ่งผ่านกล้องแผลเดียว ทางเลือกการรักษาแบบไม่ทิ้งแผลเป็น
ปัจจุบันมีทางเลือกสำหรับการผ่าตัดไส้ติ่งเพิ่มขึ้นอีก คือ การผ่าตัดไส้ติ่งผ่านกล้องแผลเดียว ซึ่งลดจำนวนแผลลงเหลือเพียง 1 แผล และยังอาจซ่อนไว้ที่อวัยวะอื่น เช่น สะดือ ได้ด้วย ทำให้เมื่อเย็บปิด ดูแลรักษาแผลให้หายดีเรียบร้อยแล้ว ก็แทบสังเกตไม่เห็นแผลผ่าตัดเลย
การผ่าตัดไส้ติ่งผ่านกล้องแผลเดียว
- เริ่มจากการให้ยาระงับความรู้สึกเหมือนการผ่าตัดทั่วไป จากนั้นแพทย์จะกรีดเปิดแผลที่ผิวหนังเพียงแผลเดียว ขนาดแผลประมาณ 2 เซนติเมตร แล้วใส่อุปกรณ์หน้าตาคล้ายท่อ ประกอบด้วยช่องหลายขนาด (ดังภาพด้านล่าง) เพื่อเป็นช่องทางใส่เครื่องมือผ่าตัดต่างๆ รวมถึงกล้องเข้าไปทางอุปกรณ์นี้
- ระหว่างการผ่าตัดจะมีการให้แก๊สคาร์บอกไดออกไซด์ในบริเวณช่องท้อง เพื่อเพิ่มพื้นที่ผ่าตัดและให้มองเห็นอวัยวะภายในได้ชัดเจน กล้องที่รับภาพจากในช่องท้องจะแสดงภาพออกมาทางจอขนาดใหญ่ในห้องผ่าตัด ช่วยให้แพทย์ควบคุมอุปกรณ์ผ่าตัดอื่นๆ เพื่อผ่าตัด เย็บ ห้ามเลือด และเอาชิ้นไส้ติ่งออกจากช่องท้องอย่างแม่นยำ ปลอดภัย
ข้อจำกัดของการผ่าตัดไส้ติ่งผ่านกล้องแผลเดียว
การผ่าตัดไส้ติ่งผ่านกล้องแบบแผลเดียว สามารถทำได้เฉพาะเมื่อภาวะไส้ติ่งอักเสบนั้นไม่ซับซ้อน และจำเป็นต้องทำการผ่าตัดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการผ่าตัดส่องกล้องแบบแผลเดียวเท่านั้น ในสถานพยาบาลที่มีห้องผ่าตัดและอุปกรณ์เฉพาะสำหรับการผ่าตัดเทคนิคนี้เท่านั้นด้วย
ความแตกต่างระหว่างการผ่าตัดส่องกล้องทั่วไปกับการผ่าตัดผ่านกล้องแบบแผลเดียว เช่น ภาพที่ฉายออกมาจากในช่องท้อง การผ่าตัดส่องกล้องทั่วไปจะให้ภาพเหมือนจริง แต่การผ่าตัดผ่านกล้องแบบแผลเดียวจะให้ภาพกลับซ้ายเป็นขวา ดังนั้นจึงต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้ชำนาญ ทั้งด้านการมองภาพ และการจับอุปกรณ์ที่ต้องใช้เทคนิคเฉพาะ
ข้อดีของการผ่าตัดผ่านกล้องแผลเดียวเมื่อเทียบกับการผ่าตัดส่องกล้องทั่วไป คือ ลดความเสี่ยงแผลติดเชื้อ และความเจ็บปวดน้อยกว่า แต่เนื่องจากเป็นเทคนิคที่ซับซ้อน จึงใช้เวลาผ่าตัดยาวนานกว่า และค่าใช้จ่ายมักสูงกว่าด้วย
เปรียบเทียบการผ่าตัดวิธีต่างๆ
แนวทางการรักษาไส้ติ่ง
ไส้ติ่งที่เกิดการอักเสบไปแล้วมีวิธีรักษาเพียงวิธีเดียวเท่านั้นคือผ่าตัดนำไส้ติ่งออกจากร่างกาย โดยเทคนิคการผ่าตัดหลักๆ แล้วมี 2 แนวทาง ได้แก่
ผ่าตัดไส้ติ่งแบบเปิด
เป็นการผ่าตัดรักษาแบบดั้งเดิม วิธีนี้แพทย์จะให้ยาระงับความรู้สึกแก่คนไข้ ก่อนจะกรีดเปิดแผลที่หน้าท้องขนาดประมาณ 12-20 เซนติเมตร จากนั้นผ่าตัดเอาไส้ติ่งออกมา เย็บปิดแผลที่ลำไส้ แล้วค่อยเย็บปิดแผลที่ผิวหนังหน้าท้อง
หลังผ่าตัดไส้ติ่งแบบเปิด แพทย์มักแนะนำให้คนไข้พักฟื้นประมาณ 1 สัปดาห์
ผ่าตัดไส้ติ่งแบบส่องกล้อง
การผ่าตัดส่องกล้องเป็นเทคนิคการผ่าตัดแบบใหม่ ซึ่งจะช่วยให้มีแผลผ่าตัดขนาดเล็กลง เสียเลือดน้อยลง ลดการเกิดพังผืดในช่องท้อง และคนไข้ใช้เวลาพักฟื้นสั้นกว่า เมื่อเทียบกับการผ่าตัดไส้ติ่งแบบเปิด การผ่าตัดไส้ติ่งแบบส่องกล้องสามารถทำได้แม้ในคนไข้ที่มีภาวะไส้ติ่งแตก
ความแตกต่างระหว่างผ่าตัดไส้ติ่งแบบเปิดกับแบบส่องกล้อง คือ แบบส่องกล้อง แพทย์จะใช้วิธีเจาะรูที่ผิวหนังคนไข้เป็นรูขนาด 1-2 เซนติเมตร ประมาณ 3 รู แล้วสอดกล้องกับอุปกรณ์ผ่าตัดเข้าไปทางรูนี้ กล้องจะฉายภาพภายในช่องท้องออกมาจากจะภาพขนาดใหญ่ในห้องผ่าตัด ช่วยให้แพทย์ทำการผ่าตัดได้อย่างแม่นยำ โอกาสกระทบกระเทือนถึงอวัยวะภายในอื่นๆ เกิดขึ้นได้น้อย
หลังผ่าตัดไส้ติ่งแบบส่องกล้อง แพทย์มักแนะนำให้คนไข้พักฟื้นในโรงพยาบาลประมาณ 1-2 วัน หรือบางกรณีอาจกลับบ้านได้เลยภายในวันผ่าตัด
สิ่งที่เหมือนกันของการผ่าตัดไส้ติ่งแบบเปิดกับแบบส่องกล้อง คือ หลังผ่าเอาชิ้นไส้ติ่งออกไปแล้ว แพทย์จะส่งตรวจชิ้นไส้ติ่งในห้องปฏิบัติการเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีโรคหรือเนื้อร้ายใดๆ
กรณีที่ไส้ติ่งแตกแล้ว แพทย์จะล้างช่องท้องคนไข้ด้วยน้ำเกลือ (Saline) ก่อนเย็บปิดแผลที่ผิวหนัง และอาจมีการใส่ท่อเล็กๆ เข้าที่ช่องท้องเพื่อระบายหนองหรือของเหลวใดๆ ออก โดยอาจคาท่อนี้ไว้หลังจากผ่าตัด 2-3 วันแล้วค่อยนำออก
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ผ่าตัดไส้ติ่งแล้ว มีผลกระทบต่อร่างกายหรือไม่?
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าไส้ติ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายเมื่อเรายังอยู่ในวัยเด็กเท่านั้น และจะหยุดทำหน้าที่ดังกล่าวเมื่อเราโตขึ้น ดังนั้นการผ่าตัดไส้ติ่งออกไปจึงไม่ส่งผลกระทบใดๆ คนไข้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนการรับประทานอาหารหรือการดำเนินชีวิต
หลังผ่าตัด พักผ่อนให้ร่างกายฟื้นตัว รับประทานยาครบรวมถึงปฏิบัติตัวตามแพทย์แนะนำจนหายดี คนไข้จะสามารถกลับมาประกอบกิจวัตรต่างๆ ได้ตามปกติ
ไส้ติ่งอักเสบ เป็นภาวะฉุกเฉิน เมื่อมีอาการน่าสงสัยควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาโดยเร็ว ยิ่งไปตั้งแต่เนิ่นๆ อาการยังไม่รุนแรงจะยิ่งมีทางเลือกในการรักษามากขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ถึงทางเลือกในการผ่าตัด
หากสถานพยาบาลที่คุณเข้าไปรับการตรวจเป็นที่แรกมีทางเลือกในการผ่าตัดไม่มากนัก อาจปรึกษาแพทย์เพื่อให้ส่งตัวไปยังสถานพยาบาลอื่นๆ ที่มีความพร้อมมากกว่า โดยอย่าลืมสอบถามถึงเอกสาร ใบรับรองผลการตรวจที่จำเป็น รวมถึงค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดให้ครบถ้วน