ผ่าตัดเต้านมออกเพียงบางส่วนแบบส่องกล้อง +ผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออกทั้งหมดแบบเปิด
ผ่าตัดส่องกล้องเหมาะกับมะเร็งระยะ 0-3
ผ่าตัดส่องกล้อง แผลเล็ก ฟื้นตัวไว
รีบรักษาก่อนมะเร็งลุกลามจนต้องตัดเต้านมทั้งเต้า
การตัดต่อมน้ำเหลืองจะบอกความรุนแรงของมะเร็งว่ามีการแพร่กระจายหรือไม่ และเป็นการตัดต่อมน้ำเหลืองที่มีการกระจายของมะเร็งออกไปด้วย
รายละเอียด
HDcare สรุปให้
มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบเป็นอันดับ 1 ของผู้หญิงไทย
- การตรวจเจอความเสี่ยงของมะเร็งเต้านมแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้การรักษาทำได้ง่ายขึ้น
- เนื้องอกเต้านม ตอนสัมผัสจะกลิ้งไปมาได้ อาจเป็นเนื้อหรือของแข็ง อาจมีขนาดเท่าเดิม หดเล็กจนหายไปเอง หรือมีขนาดโตขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้ แต่จะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงช้าๆ มักโตขึ้นช่วงใกล้รอบเดือนและจะเล็กลงหลักจากรอบเดือนมาแล้ว
- แต่มะเร็งเต้านมจะโตขึ้นเรื่อยๆ ในเวลาอันสั้น!!
ไม่แน่ใจว่าที่เป็นอยู่คือมะเร็งเต้านม หรือเนื้องอกเต้านม
ให้แอดมินแนะนำโปรตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมใกล้บ้านที่นี่
ผ่าตัดเนื้องอกเต้านมออกบางส่วน เป็นการตัดเอาก้อนมะเร็งและเนื้อเยื่อเต้านมที่อยู่รอบๆ ก้อนเนื้อ และที่อยู่ด้านบนของกล้ามเนื้อหน้าอกออก
- ถ้าก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่หรือลุกลามมาก จะต้องตัดเต้านมออกทั้งเต้า
- ไม่ต้องกังวล เพราะหลังตัดเต้านมยังสามารถเสริมด้วยสิริโคนได้
อย่ารอจนมะเร็งเต้านมลุกลามจนต้องตัดเต้านม!
รีบปรึกษาแพทย์ของ HDcare โดยไม่มีค่าใช้จ่ายวันนี้
ต่อมน้ำเหลืองเซนทิเนล (Sentinel Lymph Node) คือ ต่อมน้ำเหลืองแรกที่รับน้ำเหลืองจากเนื้อเยื่อหรืออวัยวะที่เกี่ยวข้อง เซลล์มะเร็งจะแพร่กระจายมามากที่สุด
- ถ้ามะเร็งกระจายมายังต่อมน้ำเหลืองเซนติเนลก็จะผ่าตัดเลาะต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออกทั้งหมด ถ้ามะเร็งไม่แพร่กระจาย ก็จะหยุดเลาะต่อมน้ำเหลืองออกทันที
- เหมาะกับคนที่มะเร็งเต้านมมีขนาดก้อนเล็กกว่า 2 ซม. มักจะมีโอกาสที่โรคมะเร็งจะแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองได้น้อย
ผ่าตัดส่องกล้อง เหมาะกับมะเร็งเต้านมระยะ 0-3
- แผลเล็กประมาณ
- ผ่าตัดรักษามะเร็งและเสริมเต้านมได้ในครั้งเดียว
รีบปรึกษาแพทย์ของ HDcare โดยไม่มีค่าใช้จ่ายวันนี้
สัญญาณที่ต้องตรวจ
- คลำเจอก้อนเนื้อที่เต้านมหรือรักแร้
- ขนาดหรือรูปร่างเต้านมเปลี่ยนไปจากเดิม
- มีรอยบุ๋มที่เต้านม คล้ายลักยิ้มหรือผิวเปลือกส้ม
- มีน้ำหรือของเหลวไหลออกจากหัวนม
- มีแผลบริเวณหัวนมแล้วรักษาไม่หาย
- เจ็บหรือปวดเต้านมโดยไม่เกี่ยวกับประจำเดือน
ตรวจโรคนี้อย่างไรได้บ้าง
- ตรวจเต้านมด้วยตัวเอง (ควรทำอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ในช่วงหลังมีประจำเดือนวันที่ 7-10) [ดูวิดีโอแนะนำที่นี่]
- ตรวจเต้านมโดยแพทย์
- รตรวจอัลตราซาวด์เต้านม (Ultrasound)
- ตรวจแมมโมแกรม (Mammogram)
- ตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) หรือที่เรียกว่า “Breast MRI” มักใช้ตรวจคัดกรองกรณีที่ผลตรวจอัลตราซาวด์และแมมโมแกรมไม่ชัดเจน
- ตรวจชิ้นเนื้อ (Biopsy) เพื่อวินิจฉัยมะเร็งเต้านม
อายุเท่าไหร่ควรเริ่มตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม?
- ผู้หญิงอายุ 20 ปีขึ้นไป ควรตรวจเต้านมด้วยตัวเองอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และตรวจโดยแพทย์ผู้ชำนาญการทุก 3 ปี
- ผู้หญิงอายุ 40-69 ปี ควรตรวจเต้านมด้วยตัวเองอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ตรวจโดยแพทย์ผู้ชำนาญการทุก 1 ปี และตรวจแมมโมแกรมทุก 1-2 ปี
- ผู้หญิงอายุ 70 ปีขึ้นไป ความถี่ในการเข้ารับการตรวจขึ้นกับการประเมินของแพทย์
สัญญาณที่ต้องผ่าตัด
- ผู้หญิงที่เข้าวัย 40 ปีจะได้รับคำแนะนำให้ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยการตรวจแมมโมแกรม (Mammogram) ร่วมกับตรวจอัลตราซาวด์ (Breast Ultrasound) อย่างสม่ำเสมอทุกปี
- ถ้าตรวจเจอก้อนเนื้อหรือความผิดปกติ แพทย์จะแนะนำให้ตรวจพิสูจน์ประเภทของก้อนเนื้อด้วยการใช้เข็มเจาะนำชิ้นเนื้อไปส่งตรวจวินิจฉัยว่าเป็นก้อนมะเร็งหรือไม่
รีบปรึกษาแพทย์ของ HDcare โดยไม่มีค่าใช้จ่ายวันนี้
รู้จักการผ่าตัดนี้
ผ่าตัดเนื้องอกเต้านมแบบส่องกล้องคืออะไร?
การผ่าตัดเนื้องอกเต้านมแบบส่องกล้อง (Endoscopic Breast Surgery) คือ การเปิดแผลขนาดเล็กบริเวณใต้รักแร้ หรือฐานหัวนม แล้วใช้อุปกรณ์ผ่าตัดที่มีกล้องเอนโดสโคปขนาดเล็กติดอยู่ที่ส่วนปลาย สอดเข้าไปผ่าตัดเอาเนื้องอกเต้านมออก
กล้องเอนโดสโคปจะส่งภาพมาที่จอมอนิเตอร์ ทำให้แพทย์สามารถเลาะเนื้อเต้านมและเก็บรายละเอียดได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดระยะเวลาการผ่าตัดลง อีกทั้งยังสามารถทำการเสริมสร้างเต้านมใหม่ให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดได้ทันที
ผ่าตัดเสริมสร้างเต้านมด้วยซิลิโคนคืออะไร?
การผ่าตัดเสริมสร้างเต้านมด้วยซิลิโคน เป็นหนึ่งในวิธีเสริมสร้างเต้านมใหม่ที่ทำได้ทันทีหลังผ่าตัดเนื้องอกเต้านม โดยจะใช้ถุงเต้านมเทียมที่ด้านในบรรจุซิลิโคนเหลว เข้าไปทดแทนเนื้อเยื่อที่สูญเสียไป นิยมอยู่ 2 รูปทรงหลักๆ ได้แก่ รูปทรงกลม และรูปทรงหยดน้ำ
ถุงเต้านมเทียมนั้น จัดเป็นวัสดุเกรดทางการแพทย์ที่มีความปลอดภัยสูง ไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยากับร่างกาย และไม่มีผลต่อการเกิดเป็นมะเร็งซ้ำ
การผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้คืออะไร?
ต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้มักจะเป็นบริเวณแรกที่มะเร็งเต้านมจะแพร่กระจายมา การผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กับการผ่าตัดเต้านม เพื่อที่แพทย์จะได้ดูว่ามีมะเร็งเต้านมแพร่กระจายหรือไม่ และยังสามารถนำต่อมน้ำเหลืองที่มีการแพร่กระจายของโรคออกไปจากร่างกายด้วย
การผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองจะแบ่งเป็น 2 วิธีหลักๆ ดังนี้
1. ผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออกทั้งหมด (Axillary Lymph Node Dissection : ALND)
เป็นวิธีผ่าตัดมาตรฐาน โดยจะผ่าตัดเลาะต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออกทั้งหมดไปพร้อมๆ กับการผ่าตัดเต้านม ซึ่งโดยทั่วแล้วจะมีต่อมน้ำเหลืองที่รักแร่ประมาณ 10-50 ต่อม เหมาะกับคนที่มะเร็งเต้านมมีขนาดใหญ่กว่า 2 เซนติเมตรขึ้นไป
2. ผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองเซนติเนล (Sentinel Lymph Node Biopsy : SLNB)
เป็นวิธีผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองแบบใหม่ โดยจะผ่าตัดเอาต่อมน้ำเหลืองต่อมแรกที่รับน้ำเหลืองจากมะเร็งไป มีชื่อเรียกว่า “ต่อมน้ำเหลืองเซนติเนล” แล้วนำไปส่งตรวจดูว่ามีการกระจายของโรคมะเร็งมาหรือไม่ ถ้าหากไม่มี ก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเอาเต้าน้ำเหลืองออกทั้งหมด
การผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองเซนติเนลเหมาะกับคนที่มะเร็งเต้านมมีขนาดก้อนน้อยกว่า 2 เซนติเมตร มักจะมีโอกาสที่โรคมะเร็งจะแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองได้น้อย
เปรียบเทียบการผ่าตัดวิธีต่างๆ
การผ่าตัดเนื้องอกเต้านมแบบส่องกล้องมีกี่วิธี?
การผ่าตัดเนื้องอกเต้านมแบบส่องกล้องจะทำควบคู่กันระหว่างผ่าตัดเต้านม ผ่าตัดต่อมน้ำเหลือง และเสริมสร้างเต้านมใหม่ด้วยซิลิโคน โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าต้องรักษาด้วยวิธีใด ซึ่งจะแบ่งเป็น 5 วิธีหลักๆ ดังนี้
1. การผ่าตัดเนื้องอกเต้านมแบบส่องกล้อง
เป็นการผ่าตัดเนื้องอกเต้านมชนิดธรรมดาเท่านั้น โดยแพทย์จะทำการเปิดแผลที่บริเวณใต้รักแร้ หรือฐานหัวนม แล้วใช้อุปกรณ์สำหรับผ่าตัดเนื้องอกเต้านมโดยเฉพาะ สอดเข้าไปทำการตัดเนื้องอกเต้านมและเลาะเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ ออกมา
2. การผ่าตัดเนื้องอกเต้านมออกเพียงบางส่วนแบบส่องกล้อง ร่วมกับผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองเซนติเนลแบบเปิด
เป็นวิธีรักษามะเร็งเต้านม โดยแพทย์จะผ่าตัดเอาก้อนเนื้อและเนื้อเยื่อเต้านมบางส่วนที่อยู่บริเวณรอบๆ และที่อยู่ด้านบนของกล้ามเนื้อหน้าอกออกด้วยวิธีการผ่าตัดแบบส่องกล้อง หลังจากนั้นจะฉีดสารนำร่องเพื่อหาทางเดินของน้ำเหลืองว่ามะเร็งเคลื่อนที่ไปตามทางเดินน้ำเหลืองใดบ้าง แล้วทำการผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองเซนติเนลออกมาตรวจแบบเร่งด่วน
ผลตรวจต่อมน้ำเหลืองเซนติเนลจะทราบผลภายใน 30-40 นาที และยังอยู่ในระหว่างการผ่าตัด ถ้าหากตรวจพบว่ามีการแพร่กระจายก็จะทำการผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออกทั้งหมด แต่ถ้าไม่พบการแพร่กระจาย ก็จะทำการหยุดเลาะต่อมน้ำเหลืองออกทันที
3. การผ่าตัดเนื้องอกเต้านมออกเพียงบางส่วนแบบส่องกล้อง ร่วมกับผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออกทั้งหมดแบบเปิด
เป็นการผ่าตัดเนื้องอกเต้านมออกเพียงบางส่วนแบบส่องกล้อง ร่วมกับผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออกทั้งหมด ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะทำหลังจากตรวจต่อมน้ำเหลืองเซนติเนลแล้วพบว่า มีเซลล์มะเร็งแพร่กระจายมายังต่อมน้ำเหลืองแล้ว
4. การผ่าตัดเนื้องอกเต้านมออกทั้งเต้าแบบส่องกล้อง ร่วมกับเสริมสร้างเต้านมด้วยซิลิโคน และผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองเซนติเนลแบบเปิด
เป็นการผ่าตัดเนื้องอกเต้านมออกทั้งเต้าแบบส่องกล้อง ทั้งก้อนเนื้อ และเนื้อเต้านม หลังจากนั้นจะเสริมสร้างเต้านมด้วยซิลิโคนต่อทันที และผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองเซนติเนลแบบเปิด เพื่อตรวจดูว่ามีการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งไปยังต่อมน้ำเหลืองหรือไม่
5. การผ่าตัดเต้านมออกทั้งเต้าแบบส่องกล้อง ร่วมกับเสริมสร้างเต้านมด้วยซิลิโคน และผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออกทั้งหมดแบบเปิด
เป็นการผ่าตัดเนื้องอกเต้านมออกทั้งเต้าแบบส่องกล้อง ร่วมกับเสริมสร้างเต้ามนมด้วยซิลิโคนในคราวเดียว หลังจากนั้นจะทำการผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออกทั้งหมดแบบเปิด ซึ่งมักจะทำหลังจากตรวจต่อมน้ำเหลืองเซนติเนลแล้วพบว่า มีเซลล์มะเร็งแพร่กระจายมายังต่อมน้ำเหลืองแล้ว มีข้อดีตรงที่สามารถกำจัดการแพร่กระจายของมะเร็งได้ ทำให้ทราบระยะที่แท้จริงของโรค และควบคุมโรคได้ดี
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการทำหัตถการเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำหัตถการ ทำให้การทำหัตถการเป็นไปอย่างปลอดภัยมากขึ้น โดยแพทย์จะแนะนำให้เตรียมตัวดังนี้
- แจ้งให้แพทย์ หรือพยาบาลทราบเกี่ยวกับภาวะสุขภาพต่างๆ รวมถึงอาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาอย่างละเอียด
- ควรรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้ดีขึ้น
- งดการใช้ยาที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้าอย่างน้อย 7 วันก่อนการผ่าตัด เพื่อลดการเสียเลือดระหว่างผ่าตัด เช่น ยาแอสไพริน ยาวาร์ฟาริน หรือยาในกลุ่มระงับอาการปวด
- งดการใช้ยาสมุนไพร อาหารเสริม หรือวิตามินบางประเภท ที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น น้ำมันปลา โอเมก้า 3 น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส หรือโคเอนไซม์คิวเทน เป็นต้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม
- เตรียมเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นติดตัวไปด้วย เนื่องจากจะต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลประมาณ 1-5 คืน
การดูแลหลังผ่าตัด
หลังจากที่แพทย์อนุญาตให้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้แล้ว ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูได้เร็วขึ้น และป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย ดังนี้
- ระมัดระวังไม่ให้มีวัตถุ หรือเครื่องประดับมารัดแขนข้างที่ผ่าตัด
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนและแสงแดดจัด
- หลีกเลี่ยงการยกของหนัก การออกแรงทำกิจกรรมซ้ำๆ และการสะพายของ หรือแบกของบนไหล่ในข้างที่ผ่าตัด
- ระมัดระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุหรือติดเชื้อบริเวณแขนและมือข้างที่ผ่าตัด
- หลีกเลี่ยงการวัดความดันโลหิต ฉีดยา เจาะเลือด หรือให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำในข้างที่ทำการผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออก
- ทำความสะอาดแผลผ่าตัดตามที่แพทย์แนะนำ และหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำจนกว่าแพทย์จะอนุญาต ถ้าหากมีอาการเจ็บปวด หรือบวมแดง จะต้องไปพบแพทย์ทันที
- สามารถนวดแขนตัวเองเพื่อลดอาการแขนบวมได้ โดยให้ยกแขนข้างที่ผ่าตัดขึ้น แล้วค่อยๆ นวดไล่จากปลายมือลงไปที่ต้นแขนอย่างเบามือ ประมาณ 20 ครั้งต่อรอบ 3-4 รอบต่อวัน ซึ่งจะต้องนวดตั้งแต่แขนเริ่มบวมในระยะแรกๆ อย่าปล่อยทิ้งไว้จนมีลักษณะแข็ง
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
การผ่าตัดเนื้องอกเต้านมแบบส่องกล้องอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงดังนี้
- ความเสี่ยงทั่วไปที่พบได้จากการทำหัตถการ เช่น การติดเชื้อ แพ้ยาชา อาการชา บวมช้ำ เลือดออก หรือเลือดคลั่ง
- เกิดการสะสมของน้ำเหลือง หรือเลือดบริเวณใต้ผิวหนัง
- แผลหายช้าจากการที่ขอบแผลมีเลือดมาหล่อเลี้ยงได้น้อย และทำให้ผิวหนังเปลี่ยนสี
- หัวไหล่ติด ยกแขนได้ไม่สุด เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ชั่วคราว สามารถรักษาได้ด้วยการทำกายภาพบำบัด
- แผลไม่หายเป็นปกติ โดยจะทำให้เกิดแผลเป็น แดง และเจ็บ
- แขนบวมข้างที่ทำการผ่าตัด เป็นผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปจากการผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออก
- เซลล์มะเร็งกลับมาก่อตัวอีกครั้ง ถ้าหากตรวจพบ จะต้องรักษาด้วยการทำเคมีบำบัด ฉายแสงรังสี หรือทำการผ่าตัดเพิ่มเติม
- มีอาการปวดเรื้อรังบริเวณที่ผ่าตัด สามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานยาแก้ปวด
- มีความรู้สึกกังวลและซึมเศร้า จึงควรเข้ารับการปรึกษาทางจิตเวชทั้งก่อนและหลังผ่าตัด
สาขาศัลยศาสตร์
นพ. วรเทพ กิจทวี (หมอเชน)
HDcare
ข้อมูลของแพทย์
- 2548 แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- 2553 วุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญ สาขาศัลยศาสตร์ทั่วไป แพทยสภา
- 2556 ประกาศนียบัตร อนุสาขาศัลยศาสตร์เต้านมและต่อมไร้ท่อ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
- Certificate of Visiting Fellowship in Minimal Invasive and Endoscopic Breast Surgery, Kameda Medical Center (Japan)
- Masterclass in Endoscopic and Robotic Breast Surgery (Taiwan)
ข้อมูลอื่นของแพทย์
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยศาสตร์เต้านมและต่อมไร้ท่อ