ยา Serrapeptase - ข้อมูล ข้อบ่งใช้ ผลข้างเคียง
- ปรึกษาเภสัชกรออนไลน์ได้ทุกเรื่องเกี่ยวกับยา ทั้งชนิดของยา การใช้ยาอย่างเหมาะสม และข้อควรระวังของยา
- เภสัชกรจะถือว่า ประวัติสุขภาพและข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณให้มาเป็นข้อมูลจริง และใช้ข้อมูลนั้นประกอบการให้คำปรึกษาและแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ข้อมูลดังกล่าวจะถูกเผยแพร่ระหว่างคุณกับเภสัชกรในหน้าแชทส่วนตัวเท่านั้น
- HDmall.co.th จะติดต่อร้านขายยาที่ใกล้ที่สุด ให้คุณปรึกษาและใช้บริการจัดส่งยาจากร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตโดยตรง
- HDmall.co.th ไม่ได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์โดยตรง รวมถึงไม่ได้กระทำธุรกรรมใดๆ ทั้งสิ้น ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ทั้งหมดในหน้านี้มีไว้เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงเท่านั้น
- 🤝 สนใจเป็นหนึ่งในร้านขายยาที่ช่วยให้คำปรึกษาผู้ใช้ด้านยาหรือไม่? สมัครและใช้งานฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
รายละเอียด
ข้อมูลภาพรวมของเซอราเปปเทส
เซอราเปปเทส (Serrapeptase) คือเคมีที่นำมาจากหนอนไหมเพื่อใช้ทำยา (Takeda Chemical Industries) จากประเทศญี่ปุ่นและยุโรป ซึ่งหลายประเทศจัดว่าเซอราเปปเทสเป็นอาหารเสริมโภชนาการ
เซอราเปปเทสถูกใช้เพื่อรักษาภาวะเจ็บปวดหลายอย่าง เช่นปวดหลัง, ข้อเสื่อม (osteoarthritis), โรคข้อต่ออักเสบรูมาตอยด์ (rheumatoid arthritis), กระดูกพรุน (osteoporosis), โรคไฟโบรมัยอัลเจีย (fibromyalgia), โรคเส้นประสาทกดทับที่ข้อมือ (carpel tunnel syndrome), ปวดศีรษะไมเกรน, และปวดศีรษะจากความเครียด (tension headache)
อีกทั้งยังมีการใช้เซอราเปปเทสกับภาวะที่เกี่ยวข้องกับอาการเจ็บปวดและบวม (อักเสบ) อย่างไซนัสอักเสบ (sinusitis), กล่องเสียงอักเสบ (laryngitis), เจ็บคอ, การติดเชื้อที่หู, อาการบวมหลังผ่าตัด, หลอดเลือดดำอักเสบจากลิ่มเลือด (thrombophlebitis), และโรคลำไส้อักเสบ (inflammatory bowel disease (IBD)) อย่างโรคลำไส้อักเสบชนิดเป็นแผล (ulcerative colitis), และโรคโครห์น (Crohn's disease) บางคนยังใช้เซอราเปปเทสกับโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดแข็งตัว (atherosclerosis) อีกด้วย
ผู้หญิงสามารถใช้เซอราเปปเทสกับก้อนเนื้อที่เต้านมที่ไม่ใช่มะเร็ง (fibrocystic breast disease), และใช้เพื่อดูแลอาการเจ็บเต้านมของมารดาที่เกิดจากการผลิตน้ำนมมากเกิน (breast engorgement)
ประโยชน์อื่น ๆ ของเซอราเปปเทสมีทั้งเพื่อรักษาเบาหวาน, แผลที่ขา, หอบหืด, และหนองในทรวงอก (empyema)
เซอราเปปเทสออกฤทธิ์อย่างไร?
เซอราเปปเทสช่วยให้ร่างกายทำลายโปรตีนลง ซึ่งจะช่วยลดการอักเสบและเมือกลง
การใช้และประสิทธิภาพของเซอราเปปเทส
ภาวะที่อาจใช้เซอราเปปเทสได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ใบหน้าบวมหลังผ่าตัดจัดการไซนัส
ภาวะที่ยังคงขาดหลักฐานว่าใช้เซอราเปปเทสรักษาได้หรือไม่
- หลอดลมอักเสบเรื้อรัง (Chronic bronchitis) งานวิจัยที่กำลังพัฒนากล่าวว่าเซอราเปปเทสสามารถลดอาการไอและลดสารคัดหลั่งข้น ๆ ในผู้ป่วยหลอดลมอักเสบเรื้อรังได้อย่างดีมากหลังการรักษาประมาณ 4 สัปดาห์
- ไซนัสอักเสบ (sinusitis) งานวิจัยกล่าวว่าผู้ป่วยไซนัสอักเสบที่ทานเซอราเปปเทสจะมีอาการปวด, น้ำมูก, และจมูกอุดตันที่น้อยลงหลังการรักษา 3-4 วัน
- เสียงแหบจากโรคกล่องเสียงอักเสบ (laryngitis) งานวิจัยกล่าวว่าเซอราเปปเทสสามารถลดอาการปวด, ลดสารคัดหลั่ง, อาการกลืนลำบาก, และไข้ของผู้ป่วยกล่องเสียงอักเสบได้อย่างมากหลังการรักษา 3-4 วัน
- ปวดหลัง
- ข้อเสื่อม (Osteoarthritis)
- โรคข้อต่ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis)
- กระดูกพรุน (Osteoporosis)
- โรคเส้นประสาทกดทับที่ข้อมือ (carpel tunnel syndrome)
- เบาหวาน (Diabetes)
- แผลที่ขา
- ปวดศีรษะไมเกรน
- ปวดศีรษะจากความเครียด (tension headache)
- หอบหืด (Asthma)
- หนองในทรวงอก (empyema)
- หลอดเลือดดำอักเสบจากลิ่มเลือด (thrombophlebitis)
- ไฟโบรมัยอัลเจีย (fibromyalgia)
- ก้อนเนื้อที่เต้านมที่ไม่ใช่มะเร็ง (fibrocystic breast disease)
- โรคลำไส้อักเสบ (inflammatory bowel disease (IBD)) อย่างโรคลำไส้อักเสบชนิดเป็นแผล (ulcerative colitis), และโรคโครห์น (Crohn's disease)
- อาการเจ็บเต้านมของมารดาที่เกิดจากการผลิตน้ำนมมากเกิน (breast engorgement)
- โรคหัวใจ
- การติดเชื้อในหู
- ภาวะสุขภาพอื่น ๆ
จำเป็นต้องรวบรวมหลักฐานให้มากขึ้นเพื่อให้ข้อมูลด้านประสิทธิผลของเซอราเปปเทสเพิ่มเติม
ผลข้างเคียงและความปลอดภัยของเซอราเปปเทส
เซอราเปปเทสถูกจัดว่าปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่หากรับประทานในระยะเวลาสั้น ๆ (นานถึง 4 สัปดาห์) ส่วนการใช้ในระยะเวลานานกว่านั้นยังคงไม่เป็นที่แน่ชัด
คำเตือนและข้อควรระวังเป็นพิเศษ:
สตรีมีครรภ์และแม่ที่ต้องให้นมบุตร: ณ ขณะนี้ยังคงขาดแคลนข้อมูลที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความปลอดภัยจากการใช้เซอราเปปเทสในกลุ่มผู้หญิงที่ต้องให้นมบุตรกับผู้มีครรภ์ ดังนั้นคนในกลุ่มดังกล่าวควรเลี่ยงใช้เซอราเปปเทสเพื่อความปลอดภัย
ภาวะเลือดออกผิดปรกติ: เซอราเปปเทสอาจรบกวนการเกิดลิ่มเลือดได้ ดังนั้นนักวิจัยบางท่านจึงมีข้อกังวลว่าเซอราเปปเทสอาจทำให้ภาวะเลือดออกผิดปรกติทรุดลงได้ หากคุณมีภาวะดังกล่าวควรตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพผู้ดูแลก่อนการใช้เซอราเปปเทส
การผ่าตัด: เซอราเปปเทสอาจชะลอการเกิดลิ่มเลือด ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการตกเลือดระหว่างผ่าตัดได้ ดังนั้นควรหยุดทานเซอราเปปเทสก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
การใช้เซอราเปปเทสร่วมกับยาชนิดอื่น
ใช้เซอราเปปเทสร่วมกับยาเหล่านี้ด้วยความระมัดระวัง
- ยาชะลอการเกิดลิ่มเลือด (Anticoagulant / Antiplatelet drugs) กับเซอราเปปเทส
เซอราเปปเทสอาจชะลอการเกิดลิ่มเลือด ดังนั้นการทานเซอราเปปเทสร่วมกับยาชะลอการเกิดลิ่มเลือดจะเพิ่มโอกาสการเกิดแผลฟกช้ำและเลือดออกมากขึ้น โดยตัวอย่างยาที่ชะลอการเกิดลิ่มเลือดมีดังนี้ aspirin, clopidogrel (Plavix), diclofenac (Voltaren, Cataflam, และอื่น ๆ), ibuprofen (Advil, Motrin, และอื่น ๆ), naproxen (Anaprox, Naprosyn, และอื่น ๆ), dalteparin (Fragmin), enoxaparin (Lovenox), heparin, warfarin (Coumadin), และอื่น ๆ
ปริมาณยาที่ใช้
ปริมาณหรือขนาดยาที่ใช้ดังต่อไปนี้ได้ถูกศึกษาจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
รับประทาน:
- สำหรับอาการบวมภายในกระพุ้งแก้มหลังการผ่าตัดไซนัส: เซอราเปปเทส 10 mg สามครั้งต่อวันก่อนเข้ารับการผ่าตัด อีกหนึ่งครั้งหลังผ่าตัด และจากนั้นอีก 3 ครั้งทุกวันนาน 5 วันหลังผ่าตัด