ตรวจคัดกรองมะเร็งทวารหนัก (Anal PAP smear) และตรวจหาเชื้อ HPV 18 สายพันธุ์ (HPV-18 test)

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการตรวจมะเร็งทวารหนัก

มะเร็งทวารหนักคือ เกิดจากเซลล์มะเร็งขึ้นบริเวณทวารหนัก หรือช่วงจุดที่เชื่อมต่อระหว่างลำไส้ใหญ่ส่วนปลายหรือลำไส้ตรง มักมีอาการถ่ายเป็นเลือด มีก้อนเนื้อบริเวณทวารหนัก ปวดและคันบริเวณทวารหนัก มะเร็งชนิดนี้ พบได้ค่อนข้างน้อย สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อเอชพีวี (Human Papillomavirus) โดยสายพันธุ์ที่พบได้บ่อย คือ HPV-16 และ HPV-18
 
 อาการของโรคมะเร็งทวารหนัก

• มีอาการปวดเบ่งอุจจาระ
• มีการถ่ายเป็นเลือดหรือมีมูกเลือดปนมา
• มีก้อนเนื้อบริเวณทวารหนัก
• ต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบโตจนคลำเจอได้
• ปวดบริเวณทวารหนัก หรืออาจมีอาการคันร่วมด้วย

ระยะของโรค
โรคมะเร็งทวารหนักมีทั้งหมด 4 ระยะ ดังนี้

• ระยะที่ 1 เป็นระยะที่ก้อนมะเร็งยังมีขนาดเล็ก ไม่เกิน 2 เซนติเมตร
• ระยะที่ 2 เป็นระยะที่ก้อนมะเร็งมีขนาดโตขึ้นจากเดิม เกินจาก 2 เซนติเมตร
• ระยะที่ 3 เป็นระยะที่ก้อนมะเร็งได้ลุกลามเข้าไปสู่เนื้อเยื่อและอวัยวะข้างเคียง
• ระยะที่ 4 เป็นระยะที่มะเร็งได้มีการลุกลามและแพร่กระจายออกไปสู่อวัยวะที่อยู่ไกลออกไป โดยเฉพาะปอดและตับ ซึ่งแพร่ผ่านกระแสเลือดหรือต่อมน้ำเหลือง

ปัจจัยเสี่ยง

• ผู้ที่อายุมากกว่า 50 ปี
• ผู้ที่สูบบุหรี่
• ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก มะเร็งปากช่องคลอด
• ผู้ที่มีปัญหาภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ติดเชื้อเอชไอวี เคยผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ หรือรับประทานยากดภูมิคุ้มกัน
• ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่น เปลี่ยนคู่นอนบ่อยครั้ง มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก หรือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน เป็นต้น
• ผู้ที่มีภาวะการอักเสบเรื้อรังของทวารหนัก หรือ มีเนื้องอกที่ทวารหนักคล้ายริดสีดวง
• ผู้ที่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการแบ่งตัวและการตายของเซลล์ปกติ โดยจะเป็นชนิดไม่ถ่ายทอด

วิธีการคัดกรองมะเร็งทวารหนัก
การตรวจคัดกรองมะเร็งทวารหนักมี 4 วิธี ดังนี้

1. การตรวจทั่วไป เป็นการตรวจทวารหนักด้วยสายตาและการใช้นิ้วมือ แพทย์จะตรวจโดยใช้นิ้วสอดเข้าไปในทวารหนัก เพื่อคลำหาก้อนเนื้อหรือสิ่งผิดปกติ ซึ่งจะทำให้แพทย์วินิจฉัยและเลือกวิธีการรักษาในขั้นต่อไปได้
2. การตรวจโดยการส่องกล้อง เป็นการตรวจหาความผิดปกติภายในทวารหนักและลำไส้ใหญ่ด้วยการใช้กล้องขนาดเล็กสอดเข้าไปทางทวารหนัก เพื่อดูว่ามีเลือดออก ก้อนเนื้อ หรือความผิดปกติอื่น ๆ หรือไม่ ก่อนทำการตรวจโดยการส่องกล้องควรตรวจด้วยสายตาและนิ้วมือก่อน
3. การตรวจชิ้นเนื้อ ในกรณีที่พบความผิดปกติของทวารหนัก เช่น พบก้อนเนื้อ หรือมีเลือดออก เป็นต้น แพทย์จะตัดตัวอย่างชิ้นเนื้อในบริเวณที่มีความผิดปกติไปตรวจโดยการส่องกล้องจุลทรรศน์
4. การตรวจ PET/CT เป็นการตรวจทางด้านรังสีวิทยา โดยการฉีดสารให้สีและเข้าเครื่องสแกน ซึ่งสามารถประเมินระดับของมะเร็งทวารหนักได้แม่นยำ อีกทั้งสามารถยังตรวจการลุกลามของมะเร็งในอวัยวะข้างเคียงได้อีกด้วย

เชื้อไวรัสเอชพีวี (Human Papilloma Virus: HPV) เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก โดยประมาณ 99.7% ของผู้หญิงที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ HPV นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุของโรคบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนักอื่นๆ อีกด้วย เช่น โรคหูดหงอนไก่ มะเร็งทวารหนัก มะเร็งอวัยวะเพศ เป็นต้น

เชื้อ HPV มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ สามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือปาก รวมถึงการสัมผัสเชื้อทางบาดแผลตามร่างกาย และการแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูกในขณะคลอด

แม้ว่า 90% ของผู้ติดเชื้อไวรัส HPV จะสามารถหายเองได้ภายใน 2 ปี แต่ก็มีผู้ป่วยบางรายที่ติดเชื้อนานกว่านั้นและเกิดเป็นมะเร็งในที่สุด

ไม่ใช่เพียงผู้หญิงเท่านั้นที่สามารถติดเชื้อ HPV ผู้ชายก็สามารถติดได้เช่นกัน และทำให้เกิดโรคร้ายแรงตามมา คือ

• สำหรับผู้หญิง เป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็งที่ช่องคลอด ปากช่องคลอด ทวารหนัก มะเร็งบริเวณปาก และลำคอ หูดหงอนไก่ ทั้งยังเชื่อมโยงกับการเกิดโรคหัวใจด้วย
• สำหรับผู้ชาย เป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็งที่อวัยวะเพศ ทวารหนัก มะเร็งบริเวณปาก และลำคอ หูดหงอนไก่

ปัจจุบันพบว่า มีเชื้อเอชพีวีอย่างน้อย 15 สายพันธุ์ ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ โดยสายพันธุ์ที่ถือว่า มีความเสี่ยงสูงในการก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกคือ สายพันธุ์ 16 และ 18

โรงพยาบาลและคลินิกอื่นที่มีบริการ ตรวจหามะเร็ง ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่