การฉีด PRP คือการนำเลือดของผู้รับบริการเองมาผ่านกระบวนการ ใช้ฉีดเพื่อช่วยพื้นฟูเซลล์ตามธรรมชาติ เป็นหนึ่งในการแพทย์ทางเลือกในรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม
รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
🦵 อาการเข่าเสื่อม? อย่าปล่อยให้ความเจ็บปวดทำให้คุณเสียโอกาสในชีวิต! หากคุณรู้สึกเจ็บปวดบริเวณเข่า ขยับตัวลำบาก หรือรู้สึกไม่สบายเวลาเดิน อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณควรพิจารณาการรักษาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการ ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น PRP ที่ โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการเข่าเสื่อม!
💉 การฉีด PRP คืออะไร? การฉีด PRP จะใช้เลือดจากตัวคุณเองเพื่อสร้างสารที่มีโกรทแฟคเตอร์ (Growth factor) ซึ่งช่วยในการซ่อมแซมและกระตุ้นการสร้างเซลล์และคอลลาเจนในข้อเข่า การรักษานี้มีความปลอดภัยสูงและมีโอกาสเกิดอาการแพ้น้อยมาก
⏳ ทำไมต้องเลือก PRP?
- ไม่ต้องใช้ยาฉีดสเตียรอยด์ที่อาจมีผลข้างเคียงรุนแรง
- สามารถเห็นผลได้ภายใน 4-6 สัปดาห์หลังการรักษา
- เหมาะสำหรับคนที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาแก้ปวด
✨ เริ่มต้นการรักษาและเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณวันนี้! การรักษาอาการเข่าเสื่อมด้วย PRP สามารถทำให้คุณกลับมามีชีวิตที่เต็มไปด้วยความเคลื่อนไหวและความสุขอีกครั้ง อย่ารอช้า! จองบริการ กับเราได้ง่ายๆ ผ่าน HDmall.co.th และให้ความเจ็บปวดนี้เป็นเรื่องในอดีต 📅
รายละเอียด
รายละเอียดราคา ฉีดรักษาข้อเข่า
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น PRP บริเวณข้อเข่า 1 ครั้ง
- ค่าแพทย์
- ค่าบริการโรงพยาบาล
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ ฉีดรักษาข้อเข่า
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผู้เข้ารับบริการ
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- แพ็กเกจนี้สงวนสิทธิ์เฉพาะคนไทยเท่านั้น
- ราคานี้ยังไม่รวมค่ายากลับบ้าน ราคาขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน
- ควรงดยากลุ่มต้านการอักเสบและสารสเตียรอยด์ก่อนและหลังฉีด อย่างน้อย 2 สัปดาห์
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ห้ามรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด โดยเฉพาะกลุ่มที่มีผลต่อการต้านการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับบริการ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค พอนสแตน วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย โสม St. John's wort น้ำมันกระเทียม เป็นต้น
- งดยา NSAIDs ก่อนและหลังการฉีด PRP เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์
- ถ้ามีอาการป่วยอยู่ ควรรักษาให้หายก่อน เพราะอาจมีเชื้อในกระแสเลือด
การดูแลหลังรับบริการ
- ควรงดยาสเตียรอยด์และยาต้านการอักเสบอย่างน้อย 2 สัปดาห์ แต่หากมีอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดพาราเซตามอล และประคบเย็นได้
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดการกระทบกระเทือนบริเวณตำแหน่งที่ฉีด
ก่อนตัดสินใจ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
ข้อห้ามสำหรับการฉีด PRP
การฉีด PRP จะต้องเก็บเลือดของผู้รับบริการเองมาปั่นแยกเกล็ดเลือด ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเกล็ดเลือดจึงไม่สามารถเข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้ได้ เช่น
- ผู้ป่วยโรคโลหิตจาง
- ผู้ป่วยที่มีเกล็ดเลือดต่ำหรือเกล็ดเลือดทำงานผิดปกติ
- ผู้ป่วยโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งกระดูก
- ผู้ป่วยที่รับประทานยาต้านเกล็ดเลือดหรือยาละลายลิ่มเลือด
ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการฉีดรักษาข้อเข่า
การฉีดเกล็ดเลือดสกัดเข้มข้น หรือการฉีดพีอาร์พี (Platelet Rich Plasma: PRP) เป็นหนึ่งในการแพทย์ทางเลือก ใช้รักษาโรคข้อเข่าเสื่อมในผู้ที่มีอาการระดับปานกลาง มีความปลอดภัยมากและมีโอกาสเกิดอาการแพ้น้อย เพราะใช้เกล็ดเลือดที่สกัดจากเลือดของผู้รับบริการเอง
ในเกล็ดเลือดจะมีโกรทแฟคเตอร์ (Growth factor) หลายชนิด โปรตีน และเซลล์จากกระแสเลือด ซึ่งช่วยในการซ่อมแซมหลอดเลือด กระดูก และกล้ามเนื้อ กระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์และคอลลาเจน อีกทั้งยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการปวดในข้อได้เป็นอย่างดี
แพทย์มักแนะนำให้ผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมเข้ารับการฉีด PRP หลังจากที่การรักษาด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและรับประทานยาแก้ปวดไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร
การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการฉีด PRP ต้องรักษากี่ครั้ง?
- จำนวนครั้งในการฉีด PRP จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษา โดยส่วนมากจะต้องฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 2-3 สัปดาห์ โดยจะเริ่มเห็นผลการรักษาในช่วง 4-6 สัปดาห์เป็นต้นไป
- ผลการรักษาด้วยการฉีด PRP จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ ฮอร์โมน ความรุนแรงของอาการ และพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้ป่วย
ขั้นตอนในการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการฉีด PRP
- แพทย์จะเก็บเลือดของผู้รับการฉีด PRP ประมาณ 20 ซีซี เพื่อนำไปปั่นแยกชั้นเกล็ดเลือด ใช้ระยะเวลาประมาณ 10-15 นาที จะได้เกล็ดเลือดลักษณะสีเหลืองใสประมาณ 2 ซีซี
- แพทย์ฉีดเกล็ดเลือดบริเวณที่ต้องการรักษา หากเป็นการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมจะฉีดบริเวณข้อเข่า
- ในช่วงที่รับการรักษาด้วยวิธีนี้ ผู้ป่วยไม่ควรใช้ยาชา ยาต้านการอักเสบ หรือยาสเตียรอยด์ เพราะตัวยาจะไปลดประสิทธิภาพการทำงานของเกล็ดเลือด
ข้อดีของการฉีด PRP
- การฉีด PRP เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยสูง และมีผลข้างเคียงน้อย เพราะใช้เกล็ดเลือดจากตัวผู้ป่วยเอง
- การฉีด PRP อาจทดแทนการใช้ยาฉีดยาสเตียรอยด์ได้ ซึ่งการฉีดยาสเตียรอยด์อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ เช่น ข้อสึกกร่อนรุนแรง ข้ออักเสบจากผลึกสเตียรอยด์
หมายเหตุ
- การฉีด PRP ควรทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ และควรปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยก่อนตัดสินใจ
- สาร PRP ที่ใช้ฉีดได้มาจากเลือดของตัวเอง ดังนั้นโอกาสแพ้หรือมีปัญหาแทรกซ้อนจึงน้อย อย่างไรก็ตามควรเลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกที่สะอาดและได้มาตรฐาน เพื่อลดโอกาสเสี่ยงดังกล่าว
โรงพยาบาลและคลินิกอื่นที่มีบริการ ตรวจ รักษา และผ่าเข่า ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 1-3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 60 วัน)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่โรงพยาบาลได้โดยตรง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th