
การตรวจวิตามิน ช่วยให้รู้ว่าเรากำลังมีภาวะขาดหรือเกินของวิตามินหรือไม่ เพื่อนำผลไปประกอบการวางแผนใช้วิตามินเสริม หรือปรับอาหารให้เหมาะสม
การใช้คูปองต้องนัดหมายวัน-เวลากับแอดมินทางไลน์ @hdcoth อย่างน้อย 24 ชม. ก่อนเข้าใช้บริการ (ไม่สามารถ walk-in ได้ หากไม่ทำการนัดล่วงหน้า)
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าตรวจวิเคราะห์สารอาหาร ระดับวิตามิน และแร่ธาตุในร่างกาย (Micronutrient Profile Test) มีรายการตรวจดังนี้
- ตรวจระดับสารต้านอนุมูลอิสระ Vitamin A (Retinol)
- ตรวจระดับสารต้านอนุมูลอิสระ Vitamin E (Gamma-Tocopherol)
- ตรวจระดับสารต้านอนุมูลอิสระ Vitamin E (Alpha-Tocopherol)
- ตรวจระดับสารต้านอนุมูลอิสระ Vitamin C (Ascorbic Acid)
- ตรวจระดับสารต้านอนุมูลอิสระ Coenzyme Q10
- ตรวจระดับสารต้านอนุมูลอิสระ Lutein & Zeaxanthin
- ตรวจระดับสารต้านอนุมูลอิสระ Beta-Cryptoxanthin
- ตรวจระดับสารต้านอนุมูลอิสระ Lycopene
- ตรวจระดับสารต้านอนุมูลอิสระ Alpha-Carotene
- ตรวจระดับสารต้านอนุมูลอิสระ Beta-Carotene
- ตรวจสมดุลแร่ธาตุและเกลือแร่ Chromium (Cr)
- ตรวจสมดุลแร่ธาตุและเกลือแร่ Copper (Cu)
- ตรวจสมดุลแร่ธาตุและเกลือแร่ Selenium (Se)
- ตรวจสมดุลแร่ธาตุและเกลือแร่ Zinc (Zn)
- ตรวจสมดุลแร่ธาตุและเกลือแร่ Magnesium (Mg)
- ตรวจระดับวิตามินบี 12 (Vitamin B12)
- ตรวจสมดุลแร่ธาตุและเกลือแร่ Folate
- ตรวจสมดุลแร่ธาตุและเกลือแร่ Ferritin
- ตรวจระดับวิตามินดี (25-OH Vitamin)
- ค่าแพทย์
- ค่าบริการโรงพยาบาล
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผู้รับบริการ
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการอย่างน้อย 1-2 วัน
- ระยะเวลารอผลตรวจประมาณ 10-14 วัน
- ชาวต่างชาติสามารถเข้ารับบริการได้
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรอดนอน
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และคาเฟอีนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนตรวจ
ก่อนตัดสินใจ
- การตรวจวิตามินไม่ใช่การวินิจฉัยโรค เป็นเพียงทางเลือกเสริมเพื่อให้ดูแลตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- ผู้ที่รับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมเป็นประจำ
- ผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยา (Pharmacological) เช่น การได้รับเคมีบำบัด การได้รับยาต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรือผู้ที่ผ่านการผ่าตัด
- ผู้ที่มีความเครียดสูง อยู่ในสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ระบบดูดซึมไม่ดี มีปัญหาลำไส้
- ผู้ที่เป็นโรคที่มีสาเหตุมาจากอนุมูลอิสระ (Oxidative stress-related disease) เช่น อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน หลอดเลือดสมองตีบ
ข้อมูลทั่วไป
วิตามิน (Vitamin) เป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการเพื่อให้การทำงานของระบบต่างๆ และการเจริญเติบโตเป็นไปอย่างปกติ โดยเราจะได้รับวิตามินจากอาหารที่รับประทานในแต่ละวัน
อย่างไรก็ตาม อาหารที่เลือกรับประทานอาจมีวิตามินในปริมาณที่น้อยหรือไม่ครบถ้วน หลายคนจึงเลือกรับประทานวิตามินเสริมเพิ่มเติมจากมื้ออาหารหลัก
รับประทานวิตามินเสริมเวลาไหนดี?
โดยปกติควรรับประทานวิตามินเสริมหลังมื้ออาหาร เพราะร่างกายจะสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีที่สุด และหากเป็นไปได้ควรเลือกมื้ออาหารที่เป็นมื้อใหญ่สุดของวัน
ใครที่เสี่ยงต่อการขาดวิตามิน?
กลุ่มที่เสี่ยงต่อการขาดวิตามิน ได้แก่
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ที่ได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ
- ผู้ที่งดรับประทานเนื้อสัตว์
- ผู้ที่แพ้อาหารบางประเภท เช่น นมวัว
- ผู้ที่ผ่าตัดกระเพาะหรือลำไส้
- ผู้รับประทานยาที่ส่งผลต่อการดูดซึมวิตามินบางอย่าง
- ผู้ที่ดื่มสุรา สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจำนวนมากเป็นประจำ ซึ่งจะทำให้ร่างกายสูญเสียวิตามินอย่างรวดเร็ว
การตรวจระดับวิตามิน เป็นการตรวจที่ทำให้รู้สภาวะขาดหรือเกินของวิตามินในร่างกาย เพื่อให้เลือกรับประทานเสริมได้อย่างเหมาะสม
การตรวจระดับวิตามิน สำคัญอย่างไร?
การตรวจวัดระดับวิตามินในร่างกาย นอกจากจะทำให้ทราบว่าควรได้รับวิตามินชนิดใดเพิ่มเติมแล้ว ยังเป็นการป้องกันการเลือกรับประทานวิตามินบางชนิดมากเกินไป จนอาจก่อให้เกิดผลเสียด้วย
ประเภทของวิตามิน
วิตามินแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
- วิตามินที่ละลายในน้ำ ได้แก่ วิตามินบี1 บี2 บี3 บี5 บี6 บี7 บี9 บี12 และวิตามินซี กลุ่มนี้จะอยู่ในร่างกายประมาณ 2-4 ชั่วโมง ส่วนที่เหลือจากการใช้งานจะถูกขับออกทางปัสสาวะ โอกาสที่จะสะสมในร่างกายจึงมีน้อย ไม่ค่อยก่อให้เกิดผลข้างเคียง
- วิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามินเอ ดี อี และเค วิตามินชนิดนี้จะละลายในไขมัน หรือน้ำมันเพื่อดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ไม่สามารถขับออกทางปัสสาวะได้ หากได้รับมากเกินไปจะถูกสะสมไว้ในร่างกาย ซึ่งหากมีการสะสมมากเกินไปอาจมีผลเสียกับร่างกายได้
หมายเหตุ
- หากมียา วิตามิน หรือสมุนไพร ที่รับประทานเป็นประจำ อาจนำไปด้วยในวันตรวจ เพื่อปรึกษาแพทย์
ที่อื่นที่รับ ตรวจวิตามินในเลือด ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
จองและจ่ายเงินที่ HDmall.co.th พร้อมรับส่วนลดทันที (มีสิทธิ์ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน*)
- กด 'ชำระเงินออนไลน์' แล้วกรอกข้อมูลให้ครบ
- ชำระเงิน สามารถเลือกวิธีโอน จ่ายบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต โดยจ่ายบัตรเครดิตได้เมื่อมียอดชำระ 300 บาทขึ้นไป ผ่อนได้เมื่อมียอดชำระตั้งแต่ 3,000 บาท
- รอรับคูปองทางอีเมล (จะออกภายใน 24 ชั่วโมงหลังแอดมินตรวจสอบการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว) คูปองมีอายุ 60 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่โรงพยาบาลเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่โรงพยาบาลได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ โรงพยาบาลพญาไท 1 อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ
-
วันพุธ-จันทร์ (หยุดวันอังคาร) 09.00-15.00 น.
-
ใช้ BTS ลงสถานีพญาไท (ทางออก 4) จากนั้นเดินต่อไปที่ ถ. ศรีอยุธยา 500 เมตรถึงโรงพยาบาล หรือใช้ Airport Link ลงสถานีราชปรารภ (ทางออก 1) แล้วเดินต่อไปที่ ถ. ศรีอยุธยา 400 เมตรถึงโรงพยาบาล ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัยอยู่ที่อาคาร 3 ชั้น 4
-
มีที่จอดรถ