วัคซีน HPV ช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูก รวมไปถึงโรคบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนักบางโรคได้ การป้องกันจะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อฉีดก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก สามารถฉีดได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
ผู้ที่อายุ 9-14 ปี ฉีดเเค่ 2 เข็ม
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ สามารถลงได้ที่ BTS สถานีสนามเป้า ออกทางออกที่ 1 แล้วเดินมาทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ประมาณ 150 เมตร
รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
🌸 ป้องกันมะเร็งปากมดลูกด้วยวัคซีน HPV 9 สายพันธุ์! คุณรู้หรือไม่ว่ามะเร็งปากมดลูกเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตในผู้หญิงมากถึง 99.7% ที่เกิดจากเชื้อ HPV? การฉีดวัคซีน HPV จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันมะเร็งชนิดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กและวัยรุ่นอายุ 9-14 ปี
🏥 แพ็กเกจฉีดวัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ 2 เข็ม ที่ โรงพยาบาลพญาไท 2 มาพร้อมกับการดูแลจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและปลอดภัย
💡 ทำไมต้องฉีดวัคซีน HPV?
- ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปากมดลูกถึง 90%
- วัคซีนจะช่วยป้องกันการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่มีอยู่ในวัคซีน
- ควรฉีดก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
🧬 ข้อควรรู้
- การฉีดวัคซีนใช้เวลาประมาณ 10 นาทีต่อครั้ง
- ควรนัดหมายล่วงหน้าและมีการตรวจสอบสุขภาพก่อนรับบริการ
อย่าปล่อยให้ความเสี่ยงเหล่านี้ส่งผลต่อชีวิตของคุณ! จองบริการ กับเราได้ง่ายๆ ผ่าน HDmall.co.th พร้อมรับส่วนลดทันที! 📅
เริ่มต้นการป้องกันมะเร็งปากมดลูกที่นี่ เพื่อชีวิตที่ปลอดภัยและสุขภาพที่ดีขึ้น!
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก 9 สายพันธุ์ 2 เข็ม สำหรับผู้ที่อายุ 9-14 ปี
สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่าแพทย์ ราคา 500-1,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน
- ค่าบริการโรงพยาบาล ราคา 360 บาทต่อครั้ง
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ ฉีดวัคซีน HPV 9 สายพันธุ์
- ระยะเวลารับบริการครั้งละประมาณ 10 นาที
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- แต่ละเข็มจะทิ้งเวลาห่างกัน โดยเข็มที่สอง ห่างจากเข็มแรก 1-2 เดือน
- สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย สามารถซื้อแพ็กเกจในราคาคนไทยได้ก็ต่อเมื่อมีคุณสมบัติอย่างน้อย 1 ข้อดังต่อไปนี้
- เป็นผู้ที่ทำงานในประเทศไทย โดยสามารถแสดงรับสิทธิ์ด้วยการแสดงใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)
- เป็นผู้ที่ศึกษาในประเทศไทย
- เป็นผู้ที่มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศไทย
- เป็นผู้มีบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู)
- เป็นผู้มีคู่สมรสเป็นชาวไทย
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ผู้ที่มีอาการป่วย ติดเชื้อ มีประจำเดือน หรือตั้งครรภ์ ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนไปก่อน
- ผู้ที่แต่งงานหรือเคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ควรตรวจมะเร็งปากมดลูกและเชื้อเอชพีวีก่อนฉีดวัคซีน
การดูแลหลังรับบริการ
- ควรนั่งพักหลังรับวัคซีนประมาณ 15 นาที เพื่อสังเกตอาการ หากมีความผิดปกติใดๆ เช่น เป็นผื่น แน่นหน้าอก ต้องรีบแจ้งแพทย์ทันที
- หลีกเลี่ยงการยกของหนัก หรือออกกำลังกายหนัก ประมาณ 1-2 วัน
ก่อนตัดสินใจ
- วัคซีนจะช่วยป้องกันการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่มีอยู่ในวัคซีนที่เลือกฉีด ช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคได้ แต่ไม่ได้ป้องกันการเกิดโรค 100% หลังฉีดจึงยังควรตรวจภายใน และดูแลสุขอนามัยทางเพศตามปกติ
- หากตรวจพบการติดเชื้อ HPV แล้ว ยังสามารถฉีดวัคซีนได้ แต่วัคซีนนั้นจะป้องกันเฉพาะเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ยังไม่ติดเท่านั้น และวัคซีนไม่สามารถรักษาหรือทำลายเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ติดไปแล้วแล้วได้
- ช่วงอายุที่สามารถฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV อยู่ระหว่าง 9-45 ปี แต่แนะนำให้ฉีดก่อนอายุ 26 ปี หรือยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน
- เนื่องจากตัวยามีความเข้มข้น ขณะฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อและเดินยาจึงทำให้ปวดได้
ข้อห้ามสำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
- ผู้ที่ภาวะภูมิไวเกิน (Hypersensitivity) ต่อสารประกอบในวัคซีน
- ผู้ที่มีอาการป่วย ติดเชื้อ ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนไปก่อนจนกว่าจะหาย
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- อาการบวมหรือแดงบริเวณที่ฉีดวัคซีน
- มีไข้ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย
- ปวดกล้ามเนื้อ
- อาการหน้ามืด เป็นลม
ข้อมูลทั่วไป
เชื้อไวรัสเอชพีวี (Human Papilloma Virus: HPV) เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก โดยประมาณ 99.7% ของผู้หญิงที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งปากมดลูก มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ HPV นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุของโรคบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนักอื่นๆ อีกด้วย เช่น โรคหูดหงอนไก่ มะเร็งทวารหนัก มะเร็งอวัยวะเพศ เป็นต้น
เชื้อ HPV มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ สามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือปาก รวมถึงการสัมผัสเชื้อทางบาดแผลตามร่างกาย และการแพร่เชื้อจากแม่สู่ลูกในขณะคลอด
แม้ว่า 90% ของผู้ติดเชื้อไวรัส HPV จะสามารถหายเองได้ภายใน 2 ปี แต่ก็มีผู้ป่วยบางรายที่ติดเชื้อนานกว่านั้นและเกิดเป็นมะเร็งในที่สุด
ไม่ใช่เพียงผู้หญิงเท่านั้นที่สามารถติดเชื้อ HPV ผู้ชายก็สามารถติดได้เช่นกัน และทำให้เกิดโรคร้ายแรงตามมา คือ
- สำหรับผู้หญิง เป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็งที่ช่องคลอด ปากช่องคลอด ทวารหนัก มะเร็งบริเวณปาก และลำคอ หูดหงอนไก่ ทั้งยังเชื่อมโยงกับการเกิดโรคหัวใจด้วย
- สำหรับผู้ชาย เป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็งที่อวัยวะเพศ ทวารหนัก มะเร็งบริเวณปาก และลำคอ หูดหงอนไก่
ปัจจุบันพบว่า มีเชื้อเอชพีวีอย่างน้อย 15 สายพันธุ์ ที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ โดยสายพันธุ์ที่ถือว่า มีความเสี่ยงสูงในการก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกคือ สายพันธุ์ 16 และ 18
วัคซีน HPV มีกี่ชนิด แตกต่างกันอย่างไร
- วัคซีน 2 สายพันธุ์ (Cervarix) ป้องกันเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 ที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก โดยสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ประมาณ 70%
- วัคซีน 4 สายพันธุ์ (Gardasil) ป้องกันทั้งเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ 16, 18 และสายพันธุ์ 6, 11 ที่เป็นสาเหตุของโรคหูดหงอนไก่ ป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ประมาณ 70% และป้องกันหูดหงอนไก่ได้ประมาณ 90%
- วัคซีน 9 สายพันธุ์ (Gardasil 9) ป้องกันเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ 6, 11, 16, 18 เหมือนชนิด 4 สายพันธุ์ และอีก 5 สายพันธุ์ ได้แก่ 31, 33, 45, 52 และ 58 ซึ่งเป็นไวรัส HPV สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้เช่นกัน วัคซีน 9 สายพันธุ์จึงลดโอกาสการเกิดมะเร็งได้ถึง 90% ขณะที่ประสิทธิภาพการป้องกันการเกิดหูดหงอนไก่เท่ากับชนิด 4 สายพันธุ์
วัคซีน HPV ต้องฉีดกี่เข็ม ห่างกันนานเท่าไร
สำหรับผู้ที่อายุ 9-14 ปี ฉีดวัคซีนเข้ากล้ามเนื้อแบบ 2 เข็ม
- ฉีดเข็มแรกทันที
- ฉีดเข็มที่ 2 นับจากเข็มแรก 6-12 เดือน
สำหรับผู้ที่อายุ 15 ปีขึ้นไป ฉีดวัคซีนเข้ากล้ามเนื้อ 3 เข็ม
- ฉีดเข็มแรกทันที
- ฉีดเข็มที่ 2 นับจากเข็มแรก 2 เดือน
- ฉีดเข็มที่ 3 นับจากเข็มแรก 6 เดือน
จำเป็นต้องตรวจร่างกายก่อนฉีดวัคซีน HPV หรือไม่?
ไม่จำเป็นต้องตรวจร่างกาย ตรวจภายใน หรือตรวจหาเชื้อ HPV ก่อนฉีดวัคซีน แต่หากต้องการตรวจเพื่อจะได้ทราบว่ามีการติดเชื้ออยู่แล้วหรือไม่ ก็สามารถทำได้ แต่การตรวจในปัจจุบันบอกได้เพียงว่าติดเชื้อ HPV ที่มีความเสี่ยงสูงหรือไม่ ยังไม่ได้บ่งชี้ว่าติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ใด
หลังจากฉีดวัคซีนยังจำเป็นต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกหรือไม่?
หลังจากฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV ยังจำเป็นต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกตามปกติ เนื่องจากวัคซีนสามารถป้องกันเชื้อ HPV แค่บางสายพันธุ์เท่านั้น โอกาสที่จะติดเชื้อสายพันธุ์อื่นที่ก่อให้เกิดมะเร็งยังมีอยู่
หากตรวจพบการติดเชื้อ HPV ยังสามารถฉีดวัคซีนป้องกันได้หรือไม่?
หากตรวจพบการติดเชื้อ HPV แล้ว ยังสามารถฉีดวัคซีนได้ แต่วัคซีนนั้นจะป้องกันเฉพาะเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ยังไม่ติดเท่านั้น และวัคซีนไม่สามารถรักษาหรือทำลายเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ตรวจพบแล้วได้
หมายเหตุ
- วัคซีนจะมีประสิทธิภาพสูงสุดหากฉีดครบตามกำหนด ฉีดตั้งแต่อายุยังน้อย หรือฉีดก่อนการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก เนื่องจากยังไม่เคยได้รับเชื้อมาก่อน แต่หากมีเพศสัมพันธ์แล้วก็สามารถฉีดวัคซีน HPV ได้เช่นกัน เพียงแต่ประสิทธิภาพอาจลดลง
โรงพยาบาลและคลินิกอื่น ที่มีบริการ ฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ โรงพยาบาลพญาไท 2 ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 1-3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 60 วัน)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่โรงพยาบาลได้โดยตรง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ โรงพยาบาลพญาไท 2 อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th