ตรวจโพรไบโอติกส์ในร่างกายที่ทำหน้าที่ย่อยอาหาร สร้างวิตามิน และ ปรับสมดุลให้กับร่างกาย ซึ่งมีทั้งจุลินทรีย์ที่ดีและไม่ดี หากจุลินทรีย์ในลำไส้ขาดความสมดุล อาจทำให้เกิดอาการหรือโรค เช่น นอนไม่หลับ สิวอักเสบ ผื่นภูมิแพ้ หอบ หืด ภาวะเบาหวาน เเละมีความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้
รวมค่าแพทย์ เเละ ค่าบริการเเล้ว
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ สามารถลงได้ที่ BTS สถานีสนามเป้า ออกทางออกที่ 1 แล้วเดินมาทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ประมาณ 150 เมตร
รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
🌱 รักษาสุขภาพลำไส้ให้สมดุล ด้วยโปรแกรม Gut Microbiome Ecology! คุณเคยรู้สึกไม่สบายในระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับและไมเกรนหรือไม่? อาการเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ ซึ่งมีผลต่อสุขภาพโดยรวมของคุณ!
🏥 โปรแกรม Gut Microbiome Ecology ที่โรงพยาบาลพญาไท 2 ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณตรวจสอบความสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ของคุณ ด้วยการเก็บตัวอย่างอุจจาระและตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ เพื่อให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและแนะนำวิธีการปรับสมดุลที่เหมาะสมกับคุณ
💡 ทำไมคุณถึงควรทำการตรวจนี้?
- ช่วยค้นหาและวินิจฉัยสาเหตุของปัญหาทางเดินอาหาร เช่น โรคลำไส้แปรปรวน
- ประเมินความเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล และโรคเบาหวานชนิดที่ 2
💪 ประโยชน์จากการตรวจ:
- รู้จักจุลินทรีย์ตัวดีและไม่ดีในร่างกาย เพื่อปรับปรุงสุขภาพ
- เพิ่มโอกาสในการรักษาอาการป่วย เช่น สิวอักเสบ และภูมิแพ้
อย่าปล่อยให้ความไม่สบายเหล่านี้ทำให้คุณรู้สึกไม่ดี! จองบริการ ของเราที่ HDmall.co.th วันนี้เพื่อเริ่มต้นเส้นทางการฟื้นฟูสุขภาพลำไส้ของคุณ พร้อมรับผลการตรวจใน 7-14 วัน! 📅
ดูแลสุขภาพลำไส้ของคุณให้ดีขึ้น เริ่มต้นที่นี่!
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าโปรแกรม Gut Microbiome Ecology ตรวจสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้
- ค่าแพทย์
- ค่าบริการโรงพยาบาล
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ ตรวจสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผู้รับบริการ
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- ตรวจโดยการเก็บตัวอย่างจากอุจจาระ
- ระยะเวลารอผลตรวจประมาณ 7-14 วัน หลังผลออกแพทย์จะเป็นผู้อธิบายผลให้ทราบ
- ให้บริการตรวจสำหรับผู้ที่มีอายุ 15 ปี ขึ้นไป
- สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย สามารถซื้อแพ็กเกจในราคาคนไทยได้ก็ต่อเมื่อมีคุณสมบัติอย่างน้อย 1 ข้อดังต่อไปนี้
- เป็นผู้ที่ทำงานในประเทศไทย โดยสามารถแสดงรับสิทธิ์ด้วยการแสดงใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)
- เป็นผู้ที่ศึกษาในประเทศไทย
- เป็นผู้ที่มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศไทย
- เป็นผู้มีบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู)
- เป็นผู้มีคู่สมรสเป็นชาวไทย
- โปรแกรมนี้ส่งตรวจที่ Thai Celfix
- จุลินทรีย์ในลำไส้ มีประมาณ 100 ล้านล้านตัว ทั้งจุลินทรีย์ตัวดี และตัวไม่ดี จุลินทรีย์ที่อยู่ในลำไส้มีผลต่อการทำงานหลายด้าน ทั้ง Metabolic และ Physiologic Fuctions ได้แก่
- กระตุ้นการพัฒนาของลำไส้
- ช่วยย่อยอาหาร
- กระตุ้นระบบภูมิต้านทาน
- ป้องกันเชื้อร้ายไม่ให้เจริญเติบโตมากเกินไป
- ช่วยสังเคราะห์สารอาหารสำคัญ เช่น วิตามินบีบางตัว วิตามินเค และ Serotonin
- ช่วยทำลายสารพิษ (Toxin)
- กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนของระบบทางเดินอาหาร
- ช่วยเป็นเกราะป้องกันผนังบุลำไส้
- ผลการตรวจจะแสดงถึงจุลินทรีย์ตัวดี และตัวไม่ดีในร่างกาย ว่ามีกี่ประเภท อาจมีมากหรือน้อยกว่า ซึ่งแต่ละคนจะมีไม่เหมือนกัน
- การปรับระดับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ให้จุลินทรีย์ตัวดีมีมากกว่าตัวไม่ดี จะช่วยลดภาวะโรคหรืออาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสมอง หรือผิวหนังได้
- การตรวจเพื่อดูปริมาณจุลินทรีย์ในร่างกายของเราว่ามีตัวดีหรือตัวไม่ดีมากกว่ากัน จึงเป็นการช่วยหาสาเหตุของโรค เพื่อให้แพทย์วิเคราะห์และรักษา เพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ตัวดี ทั้งเรื่องการปรับพฤติกรรม การรับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ตัวดี หรือการ Customize Probiotic Prebiotic หรือ Synboiotic ที่เหมาะสมกับร่างกาย เพื่อให้เกิดความสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ และช่วยให้ภาวะอาการของโรคดีขึ้นเป็นลำดับ
ก่อนตัดสินใจ
- ผลการตรวจชนิดจุลินทรีย์ในลำไส้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
- การตรวจสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ไม่ใช่การตรวจเพื่อวินิจฉัยโรค หากต้องการเจาะจงการตรวจโรคต่างๆ ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม
- หากพบความผิดปกติ เช่น ภาวะจุลินทรีย์ในลำไส้เสียสมดุล แพทย์จะให้เข้ารับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมต่อไป
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- ผู้ที่มีอาการระบบทางเดินอาหารผิดปกติ หรือลำไส้แปรปรวน เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หรือท้องผูก
- ผู้ที่มีปัญหาไมเกรน หรือนอนไม่หลับ
- ผู้ที่เป็นสิวอักเสบ
- ผู้ที่เป็นผื่นภูมิแพ้ เป็นๆ หายๆ หรือเป็นหอบหืด
- ผู้ที่มีระบบการเผาผลาญไม่ดี
- ผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า โรคอ้วน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคอัลไซเมอร์
ข้อมูลทั่วไป
การตรวจสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ (Gut Microbiome)⠀คือการตรวจความสมดุลระหว่างจุลินทรีย์ชนิดดีและไม่ดีในร่างกาย โดยการเก็บตัวอย่างอุจจาระไปตรวจในห้องปฏิบัติการ
การตรวจสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้จะช่วยให้แพทย์ประเมิน ค้นหาความเสี่ยง หรือวินิจฉัยสาเหตุที่อาจเกิดจากจุลินทรีย์ในลำไส้เสียสมดุลได้ เช่น โรคลำไส้แปรปรวน ภาวะลำไส้รั่ว สิวอักเสบ ภาวะอ้วนง่าย ภาวะก่อนเบาหวาน ไมเกรน โรควิตกกังวล หรือโรคซึมเศร้า
การตรวจสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ดีอย่างไร?
นอกจากตรวจหาสาเหตุที่อาจเกี่ยวข้องกับอาการผิดปกติต่างๆ ในร่างกายแล้ว แพทย์จะช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคในอนาคต รวมถึงดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วย เช่น
- แนะนำสารอาหารที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้ เช่น โพรไบโอติก เพื่อเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หรือพรีไบโอติก เพื่อเสริมประสิทธิภาพของโพรไบโอติก โดยมีทั้งในรูปแบบของอาหาร และอาหารเสริม
- ปรับพฤติกรรมการนอน และการออกกำลังกายให้เหมาะสม
ตัวอย่างจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ และประโยชน์ต่อร่างกาย
โพรไบโอติกส์ (Probiotics) คือจุลินทรีย์ชนิดดีที่พบได้ในอาหารต่างๆ เช่น นมเปรี้ยว กิมจิ หรือโยเกิร์ต เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้มีสุขภาพดี มีหลายชนิด เช่น
- บิฟิโดแบคทีเรีย (Bifidobacterium) ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ลำไส้แปรปรวน ลดอาการที่เกิดจากน้ำตาลแลกโทสไม่ย่อย กำจัดจุลชีพก่อโรค เพิ่มภูมิคุ้มกัน และป้องกันท้องเสียที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโรต้า
- แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) ช่วยป้องกันการติดเชื้อราในช่องคลอด การเกิดภูมิแพ้ อาการท้องเสียจากการใช้ยาหรือเชื้อก่อโรค ช่วยรักษาสมดุลในลำไส้ ลดความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า หรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุ
- แซคคาโรไมซิส (Saccharomyces) เป็นยีสต์ชนิดหนึ่งที่ช่วยรักษาสมดุลของระบบทางเดินอาหาร ป้องกันอาการท้องเสียจากรูปแบบต่างๆ เช่น การใช้ยาปฏิชีวนะ การติดเชื้อคลอสตริเดียมดิฟฟิไซล (Clostridium difficile)
อย่างไรก็ตาม การรับประทานโพรไบโอติกปริมาณมากในคราวเดียวอาจส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น ท้องอืด ท้องผูก หรือท้องร่วงได้เช่นกัน จึงควรรับประทานโพรไบโอติกอย่างต่อเนื่องในปริมาณที่เหมาะสมจะดีกว่า
โรงพยาบาลอื่นที่มีบริการ ส่องกล้องทางเดินอาหาร ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ โรงพยาบาลพญาไท 2 ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 1-3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 60 วัน)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่โรงพยาบาลได้โดยตรง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ โรงพยาบาลพญาไท 2 อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th