โปรแกรม Gut Microbiome Comprehensive ตรวจสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้

ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ ตรวจสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้

• ระยะเวลารับบริการประมาณ 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผู้รับบริการ
• ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
• ตรวจโดยการเก็บตัวอย่างจากอุจจาระ
• ระยะเวลารอผลตรวจประมาณ 7-14 วัน หลังผลออกแพทย์จะเป็นผู้อธิบายผลให้ทราบ
• ให้บริการตรวจสำหรับผู้ที่มีอายุ 15 ปี ขึ้นไป
• สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย สามารถซื้อแพ็กเกจในราคาคนไทยได้ก็ต่อเมื่อมีคุณสมบัติอย่างน้อย 1 ข้อดังต่อไปนี้
  • เป็นผู้ที่ทำงานในประเทศไทย โดยสามารถแสดงรับสิทธิ์ด้วยการแสดงใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)
  • เป็นผู้ที่ศึกษาในประเทศไทย
  • เป็นผู้ที่มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศไทย
  • เป็นผู้มีบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู)
  • เป็นผู้มีคู่สมรสเป็นชาวไทย
• โปรแกรมนี้ส่งตรวจที่ Thai Celfix
• รายละเอียดการตรวจและผลที่บ่งชี้โรค มีดังนี้
  • GI Effect การย่อยและการดูดซึมสารอาหาร (Digestion and Absorption)
    • Pancreatic Elastase 1 (PE1) บอกถึงการย่อยหรือการดูดซึมอาหารผิดปกติ เช่น มีอาการท้องเสีย ถ่ายเป็นไขมัน อุจจาระมีกลิ่มเหม็นมาก แน่นท้อง ท้องอืด น้ำหนักลด
    • Total Fecasl Fats บ่งบอกถึงน้ำย่อยจากตับอ่อนไม่เพียงพอ เกลือน้ำดีไม่เพียงพอ ภาวะ Hypochlorhydria และการใช้ยากลุ่ม PPI (Proton Pump Inhibitor) ทำให้ลำไส้ดูดซึมไขมันไม่ได้
    • Products of Protein Breakdown (Total) บ่งบอกความผิดปกติที่อาจเกี่ยวข้องกับการย่อยโปรตีนและเส้นใยอาหาร เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ ภาวะซึมเศร้า จุลินทรีย์เจริญเติบโตผิดปกติ การใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินไป โรคถุงผนังลำไส้ การบริโภคโปรตีนมากเกินไป ภาวะเลือดออกในลำไส้ หรือโรคตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง
  • GI Effect การอักเสบ (Inflammation and Immunology)
    • Calprotectin บ่งบอกถึงความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ NSAID Enteropathy Divericulosis
    • Eosinophil Protein X (EPX) บ่งบอกถึงภูมิแพ้อาหาร ภูมิแพ้ที่ผิวหนัง (Food Allergy, Atopic Dermatitis)
    • Fecal Secretory lgA บอกถึงระบบภูมิต้านทานของลำไส้ และความเสี่ยงโรคเกี่ยวกับเยื่อบุผนังลำไส้ มะเร็งลำไส้ การติดเชื้อจากแบคทีเรีย หรือพยาธิ IBS
    • Fecal Occult Blood
• ผลการตรวจจะแสดงถึงจุลินทรีย์ตัวดี และตัวไม่ดีในร่างกาย ว่ามีกี่ประเภท อาจมีมากหรือน้อยกว่า ซึ่งแต่ละคนจะมีไม่เหมือนกัน
• การปรับระดับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ให้จุลินทรีย์ตัวดีมีมากกว่าตัวไม่ดี จะช่วยลดภาวะโรคหรืออาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสมอง หรือผิวหนังได้
• การตรวจเพื่อดูปริมาณจุลินทรีย์ในร่างกายของเราว่ามีตัวดีหรือตัวไม่ดีมากกว่ากัน จึงเป็นการช่วยหาสาเหตุของโรค เพื่อให้แพทย์วิเคราะห์และรักษา เพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ตัวดี ทั้งเรื่องการปรับพฤติกรรม การรับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ตัวดี หรือการ Customize Probiotic Prebiotic หรือ Synboiotic ที่เหมาะสมกับร่างกาย เพื่อให้เกิดความสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้ และช่วยให้ภาวะอาการของโรคดีขึ้นเป็นลำดับ