43,151 บาท*

รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
ค่าบริการทางการแพทย์ในการย้ายตัวอ่อนรอบแช่แข็ง
ค่าห้องปฏิบัติการติดตามประเมินมดลูก ตรวจฮอร์โมนดังนี้
- ฮอร์โมนเพศหญิง (Estradiol) 1 ครั้ง
- ฮอร์โมนเพศหญิง (Progesterone) 1 ครั้ง
- ฮอร์โมนที่ผลิตจากเซลล์ของรก (B-hCG) 1 ครั้ง
ค่าตรวจติดตามด้วยการอัลตรัาซาวด์ช่องคลอด 1 ครั้ง
ค่าบริการละลายตัวอ่อน เตรียมตัวอ่อนก่อนย้ายเข้าสู่โพรงมดลูก
สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่าตรวจปรึกษาก่อนทำ เริ่มต้นประมาณ 1,500 บาท
หมายเหตุ
- กรณีมีโรคประจำตัว อาจมีค่าตรวจปรึกษาแพทย์ทางอายุรกรรม หรือทางด้านอื่นเพิ่มเติม กรุณาสอบถามค่าใช้จ่ายกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอีกครั้ง
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- การย้ายตัวอ่อนรอบแช่แข็ง (Frozen Embryo Transfer: FET) เป็นการนำตัวอ่อนที่แช่แข็งไว้มาผ่านกระบวนการละลาย ก่อนจะย้ายเข้าสู่โพรงมดลูก แม้มีการศึกษาว่าการย้ายตัวอ่อนในรอบแช่แข็งจะมีโอกาสสูงกว่าการย้ายรอบสด หรือหลังเก็บไข่เลย แต่แพทย์จะเป็นผู้พิจารณ์รอบที่ควรย้ายตัวอ่อนให้เหมาะกับแต่ละท่าน
- ระยะเวลาการรับบริการขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์
- ควรปรึกษาแพทย์ทั้งก่อนและหลังรับบริการ และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
- ควรนัดหมายล่วงหน้า
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร
- ควรรับประทานโปรตีนให้ได้อย่างน้อย 60 กรัม เช่น เนื้อแดง น้ำเต้าหู้ เนื้อปลา และไข่ขาว เป็นต้น
- งดสูบบุหรี่ก่อนทำ 3 เดือน และในระหว่างการทำ IVF
- ควบคุมน้ำหนัก ประเมินค่า BMI ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
- ควรงดมีเพศสัมพันธุ์ในระหว่างการทำ IVF
- พักผ่อนให้เพียงพอ
การดูแลหลังรับบริการ
- 2-3 วันหลังย้ายตัวอ่อน ไม่ควรทำงานหนัก
- ควรปรับท่านั่งและนอนให้เหมาะสม สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องนอนพักตลอดเวลา
- งดออกกำลังกาย และไม่เดินขึ้นลงบันไดบ่อยๆ
- ใช้ยาอย่างต่อเนื่องตามที่แพทย์สั่ง
- งดการมีเพศสัมพันธ์
ก่อนตัดสินใจ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ส่วนใหญ่สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที แต่อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยในบางราย ดังนี้
- เป็นตะคริว
- ท้องอืด
- ท้องผูก
- มีอาการเจ็บเต้านม
ข้อควรระวัง
หากมีอาการเหล่านี้หลังรับบริการ ควรรีบพบแพทย์ทันที
- มีอาการตกเลือดอย่างหนัก
- ปวดท้องน้อย
- มีเลือดปนในปัสสาวะ
- มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส
ข้อมูลทั่วไป
การทำเด็กหลอดแก้ว⠀หรือ IVF (In Vitro Fertilization) เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำหรับช่วยภาวะมีบุตรยาก โดยการนำเซลล์ไข่และอสุจิมาวางบนจานเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ หลังจากนั้นปล่อยให้อสุจิและไข่ปฏิสนธิกันจนเกิดเป็นตัวอ่อน แล้วจึงนำเข้าไปในโพรงมดลูกเพื่อให้ตัวอ่อนเจริญเติบโตในครรภ์ของฝ่ายหญิงตามปกติต่อไป
การทำ IVF เหมาะสำหรับใคร?
การทำ IVF เหมาะสำหรับคู่สมรสที่มีปัญหาเหล่านี้
- ฝ่ายชายมีจำนวนอสุจิน้อยหรือตัวอสุจิเคลื่อนไหวได้ไม่ดี
- ฝ่ายหญิงมีปัญหาท่อนำไข่อุดตัน ถูกทำลาย หรือตัดท่อนำไข่ออกไปแล้ว
- ฝ่ายหญิงมีความผิดปกติเกี่ยวกับการตกไข่
- ฝ่ายหญิงไม่ทราบสาเหตุของการมีบุตรยาก และพยายามมีบุตรมาแล้วมากกว่า 3 ปี
- คู่สมรสที่เคยใช้วิธีกระตุ้นการตกไข่และผสมเทียมโดยการฉีดอสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง (Intrauterine Insemination: IUI) มาแล้ว แต่ยังไม่ตั้งครรภ์
โอกาสที่จะตั้งครรภ์ด้วยการทำ IVF ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง?
หากไข่ได้รับการผสมด้วยการทำ IVF จนกลายเป็นตัวอ่อน ความสำเร็จในการตั้งครรภ์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนี้
- อายุของฝ่ายหญิง ยิ่งอายุมากโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้สำเร็จยิ่งน้อย แม้จะเป็นการผสมเทียมก็ตาม
- สาเหตุของภาวะมีบุตรยาก⠀ความสมบูรณ์ของระบบสืบพันธุ์และลักษณะของปัญหาที่ทำให้มีบุตรยาก ทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์จากการทำ IVF ต่างกันไป
- ปัจจัยอื่นๆ ในการใช้ชีวิต เช่น อาหารที่รับประทาน การดูแลสุขภาพ เป็นต้น
ขั้นตอนการทำ IVF
- ฝ่ายหญิงจะได้รับยากระตุ้นการตกไข่ เพื่อทำให้ไข่ตกมากกว่า 1 ใบ
- แพทย์จะวางยาสลบฝ่ายหญิงเพื่อใช้เข็มดูดไข่ที่สมบูรณ์ผ่านทางช่องคลอดโดยใช้เครื่องอัลตราซาวด์ร่วมด้วย
- เมื่อเก็บไข่เสร็จ แพทย์จะรักษาฝ่ายหญิงด้วยฮอร์โมนชนิดสอดหรือฉีดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมให้มดลูกพร้อมสำหรับการย้ายตัวอ่อนที่ผ่านการผสมแล้วมาฝังตัว
- ไข่ที่สมบูรณ์จะถูกนำมาผสมกับอสุจิจากฝ่ายชายในห้องปฏิบัติการจนเกิดเป็นตัวอ่อน ที่พร้อมย้ายเข้าสู่โพรงมดลูก 3-5 วันหลังการเก็บไข่และไข่ถูกผสม ขั้นตอนนี้ฝ่ายหญิงไม่ต้องงดน้ำหรืออาหาร และไม่ต้องดมยาสลบ
- หลังการฝังตัวอ่อนเข้าไปในโพรงมดลูกแล้ว ต้องกลับมาพบแพทย์เพื่อตรวจการตั้งครรภ์ภายใน 12-14 วัน แพทย์จะยังคงให้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนต่อไปอีก 8-10 สัปดาห์ เพื่อป้องกันภาวะการแท้ง
หมายเหตุ
- ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดและปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจทำ
- การรักษาด้วยวิธี IVF มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ขึ้นอยู่กับวิธีการตรวจ ยาที่ใช้ และจำนวนครั้งที่ทำเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
วิธีชำระและใช้งาน
นัดคิวเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมิน แล้วกลับมาจ่ายเงินที่ HDmall รับส่วนลดทันที (มีสิทธิ์ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน*)
- แจ้งชื่อและข้อมูลของคุณเพื่อจองแพ็กเกจ
- นัดหมายวัน-เวลาเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมินก่อนรับบริการ (อาจมีค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของโรงพยาบาล)
- นำยอดค่าใช้จ่ายที่คุณหมอสรุปให้ มาแจ้งกับแอดมิน HDmall.co.th โดยเข้า LINE @hdcoth แล้วพิมพ์ "hdexpress" เพื่อดำเนินการชำระเงิน พร้อมรับส่วนลด สามารถเลือกวิธีโอน จ่ายบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต โดยจ่ายบัตรเครดิตได้เมื่อมียอดชำระ 300 บาทขึ้นไป ผ่อนได้เมื่อมียอดชำระตั้งแต่ 3,000 บาท
- รอรับคูปองทางอีเมล (จะออกภายใน 15 นาที หลังแอดมินตรวจสอบการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว) คูปองมีอายุ 60 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่โรงพยาบาลเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของโรงพยาบาล
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่โรงพยาบาลได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ โรงพยาบาลปิยะเวท อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ
-
วันจันทร์-อาทิตย์ (ทุกวัน) 08.00-17.00 น.
-
ศูนย์เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ (IVF)
-
มีที่จอดรถในอาคาร