ตรวจสุขภาพตาโดยจักษุแพทย์เฉพาะทาง ตรวจคัดกรองตาบอดสี ตรวจค่าสายตาสัน ยาว เอียง ด้วยเครื่อง ดูรายการตรวจทั้งหมดในรายละเอียดราคา
การใช้คูปองต้องนัดหมายวัน-เวลากับแอดมินทางไลน์ @hdcoth อย่างน้อย 24 ชม. ก่อนเข้าใช้บริการ (ไม่สามารถ walk-in ได้ หากไม่ทำการนัดล่วงหน้า)
แพ็กเกจอื่นที่คุณอาจสนใจ
รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
👀 ดูแลสายตาคุณวันนี้ เพื่ออนาคตที่สดใส! หากคุณรู้สึกว่าเริ่มมีปัญหาการมองเห็น เช่น ตามัว มองเห็นไม่ชัด หรือมีอาการปวดตา อาจถึงเวลาที่คุณต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพตาแล้ว! การปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้ค้างคาอาจนำไปสู่โรคตาอันรุนแรง เช่น ต้อหิน หรือแม้แต่สูญเสียการมองเห็นได้
🏥 โปรแกรมตรวจสุขภาพตา (Eyes Check Up) ที่ โรงพยาบาลพญาไท 1 เป็นโอกาสที่คุณไม่ควรพลาด! ด้วยการตรวจ 7 รายการที่ครอบคลุม โดยจักษุแพทย์เฉพาะทาง อาทิ การตรวจความดันตาและสมรรถภาพการมองเห็น เพียงใช้เวลาประมาณ 30 นาที คุณจะสามารถทราบแนวโน้มสุขภาพตาของคุณได้ทันทีในวันตรวจ
💡 ทำไมต้องตรวจสุขภาพตา?
- ช่วยป้องกันและตรวจพบโรคตาที่อาจไม่แสดงอาการให้เห็นในระยะแรก
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือมีประวัติสุขภาพตาที่ไม่ดีในครอบครัว
- การตรวจพบแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียการมองเห็นในอนาคต
💪 อย่ารอช้า! ปัญหาสุขภาพตาอาจทำให้คุณสูญเสียช่วงเวลาที่มีค่าในชีวิต หากคุณต้องการให้ชีวิตคุณสดใสและมีสุขภาพดี จองบริการ กับเราได้ง่ายๆ ผ่าน HDmall.co.th วันนี้เลย! 📅
ให้เราช่วยดูแลดวงตาของคุณ เพื่อชีวิตที่เต็มไปด้วยมุมมองที่ชัดเจน!
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- โปรแกรมตรวจสุขภาพตา (Eyes Check Up) 7 รายการ
- ตรวจสุขภาพตาโดยจักษุแพทย์เฉพาะทาง (Eye Examination by Ophthalmologist)
- ตรวจวัดความดันโลหิต ชีพจร ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง (Vital Sign)
- ตรวจคัดกรองตาบอดสี (Color vision test)
- ตรวจสมรรถภาพสายตาระยะมาตรฐาน (Visual acuity (V.A.))
- ตรวจความดันตา (Tonometer)
- ตรวจความโค้งของกระจกตา
- ตรวจค่าสายตาสัน ยาว เอียง ด้วยเครื่อง Auto refraction (Auto refraction)
- ค่าแพทย์
- ค่าบริการโรงพยาบาล
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลาตรวจตาประมาณ 30 นาที ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผู้รับบริการ
- ต้องนัดหมายล่วงหน้า
- ทราบผลในวันตรวจ โดยแพทย์จะเป็นผู้อธิบายผลให้ทราบ
- สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย สามารถซื้อแพ็กเกจในราคาคนไทยได้ก็ต่อเมื่อมีคุณสมบัติอย่างน้อย 1 ข้อดังต่อไปนี้
- เป็นผู้ที่ทำงานในประเทศไทย โดยสามารถแสดงรับสิทธิ์ด้วยการแสดงใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)
- เป็นผู้ที่ศึกษาในประเทศไทย
- เป็นผู้ที่มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศไทย
- เป็นผู้มีบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู)
- เป็นผู้มีคู่สมรสเป็นชาวไทย
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรถอดคอนแทคเลนส์ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันสำหรับคอนแทคเลนส์แบบนิ่ม และอย่างน้อย 7 วัน สำหรับคอนแทคเลนส์แบบแข็ง
- งดแต่งหน้า โดยเฉพาะบริเวณรอบๆ ดวงตา
- งดฉีดสเปรย์และน้ำหอมทุกชนิด
- ควรสวมเสื้อที่มีกระดุมด้านหน้า
- อาบน้ำ สระผมให้เรียบร้อย
- ควรมีเพื่อนหรือญาติมาด้วย
- นำแว่นสายตา หรือคอนแทคเลนส์ที่ใช้อยู่ไปด้วย
ก่อนตัดสินใจ
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงและควรเข้ารับการตรวจ ได้แก่
- ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีอาการทางตาต่างๆ เช่น ปวดตา ตาแดง ตามัว เห็นภาพซ้อน น้ำตาไหล ปวดกระบอกตา หรือปวดศีรษะบ่อยๆ เป็นต้น
- ผู้ที่คนในครอบครัวเคยเป็นโรคต้อหิน หรือตาบอดข้างหนึ่ง โดยไม่ทราบสาเหตุ
- ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไทรอยด์
- ผู้ที่ทำงานใช้สายตามาก
- ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ
- ผู้มีปัจจัยเสี่ยงต่อจอตาฉีกขาด เช่น เคยได้รับอุบัติเหตุที่ดวงตา หรือเคยได้รับการผ่าตัดตา
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวและต้องใช้ยาที่มีผลต่อดวงตาเป็นประจำ เช่น ยาอีแทมบูทอล (Ethambutol) ยาคลอโรควิน (Chloroquine) หรือยาในกลุ่มสเตียรอยด์
ข้อมูลทั่วไป
การตรวจสุขภาพตา เป็นการตรวจโดยใช้หลายวิธีร่วมกันเพื่อให้พบปัญหาทางสายตา ปัญหาการมองเห็น หรือโรคทางตาที่พบบ่อย เช่น ต้อหิน ต้อกระจก หรือตาบอดสี
โรคตาบางชนิดอาจไม่แสดงอาการผิดปกติในระยะแรก อย่างไรก็ตาม การตรวจพบตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกัน และแก้ไขไม่ให้สายตาผิดปกติมากขึ้นจนสูญเสียการมองเห็นได้
การตรวจสุขภาพตาโดยทั่วไป ตรวจอะไรบ้าง?
การตรวจสุขภาพตาโดยทั่วไปมักเริ่มจากการซักประวัติ เพื่อสอบถามอาการทั่วไป รวมถึงประวัติสุขภาพตาของคนในครอบครัว ยารักษาโรคที่ใช้อยู่ หรือปัญหาสุขภาพตาที่มีอยู่
หลังจากซักประวัติแล้ว อาจตรวจสายตาด้วยวิธีการต่างๆ เพิ่มเติม ดังนี้
- ตรวจสายตา หรือความสามารถในการมองเห็น (Visual Acuity Test) โดยการอ่านป้ายที่มีตัวอักษร หรือตัวเลขต่างๆ จากระยะมาตรฐาน 6 เมตร เพื่อดูว่า มองเห็นได้ดีแค่ไหน ระหว่างการทดสอบจะปิดตาไว้หนึ่งข้างแล้วใช้อีกข้างที่เหลือมองดู
- ตรวจวัดค่าสายตา เป็นการให้อ่านป้ายที่มีตัวอักษร หรือตัวเลขผ่านอุปกรณ์วัดสายตา (Phoropter) ซึ่งจะให้ค่าตัวเลขที่กำหนดความสั้น ยาว และเอียงของสายตาอย่างถูกต้อง เพื่อจำไปตัดแว่นสายตา
- ตรวจลานสายตา ตรวจบริเวณขอบเขตของการมองเห็นด้านบน ล่าง ซ้าย และขวา
- ตรวจความโค้งของกระจกตา หากมีความผิดปกติจะทำให้มีภาวะสายตาเอียงได้
- ตรวจคัดกรองตาบอดสี โดยการดูแผ่นป้ายที่มีจุดสีหลายสี
- ตรวจม่านตา ใช้ไฟส่องตาเพื่อดูว่า ม่านตาตอบสนองต่อแสงเป็นปกติหรือไม่
- ตรวจการมองเห็นด้านข้าง ผู้ที่มีการมองเห็นด้านข้างผิดปกติมักไม่รู้ตัวเอง และเป็นสัญญาณความผิดปกติที่บ่งบอกถึงโรคต้อหินได้
- ตรวจการเคลื่อนไหวของดวงตา เพื่อประเมินสมรรถภาพในการทำงานของกล้ามเนื้อตา
- ตรวจความดันลูกตา ความดันในลูกตาที่เพิ่มสูงขึ้นอาจบ่งบอกถึงความเสี่ยงโรคต้อหินได้ หากพบว่ามีความดันลูกตาผิดปกติ จักษุแพทย์จะตรวจเพิ่มเติมอย่างละเอียดเพื่อหาว่า เป็นโรคต้อหินหรือไม่
- ตรวจส่วนหน้าของตา เป็นการตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ตรวจนัยน์ตาชนิดลำแสงแคบ (Slit Lamp) โดยจะช่วยในการตรวจดูเปลือกตา กระจกตา ม่านตา และเลนส์ตา ทำให้ทราบว่า เป็นโรคต้อกระจก มีแผล หรือรอยถลอกที่กระจกตาหรือไม่
- ตรวจจอประสาทตา และเส้นประสาทตา จักษุแพทย์จะหยอดยาขยายรูม่านตา เพื่อตรวจดูว่า ประสาทตา และเส้นประสาทตาเป็นปกติหรือไม่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ โรงพยาบาลพญาไท 1 ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 1-3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 60 วัน)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่โรงพยาบาลได้โดยตรง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ โรงพยาบาลพญาไท 1 อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th