ตรวจหาเชื้อไวรัส RSV ด้วยวิธีเก็บสารคัดหลั่งจากโพรงจมูก แบบ FIA

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการ

เชื้อไวรัส Respiratory Syncytial Virus (RSV) คือ เชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่เป็นสาเหตุของการติดเชื้อและอักเสบบริเวณทางเดินหายใจ สามารถติดต่อได้ผ่านการสัมผัสละอองสารคัดหลั่งต่างๆ ของผู้ป่วย เช่น ไอ จาม น้ำมูก น้ำลาย เสมหะ สามารถติดเชื้อได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยส่วนมากมักเกิดในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 3 ปี 

อาการเมื่อติดเชื้อไวรัส RSV
เมื่อเด็กได้รับเชื้อ ระยะฟักตัวของโรคจะอยู่ที่ประมาณ 5 วัน โดยในช่วง 2-4 วันแรกมักมีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา เมื่อการติดเชื้อรุนแรงขึ้นจะส่งผลให้ทางเดินหายใจมีการอักเสบ ไอรุนแรงต่อเนื่อง หายใจเหนื่อยหอบ มีเสียงหวีด ริมฝีปากซีดเขียว ปอดบวม ผู้ป่วยที่มีอาการหนักมีโอกาสเสียชีวิตเนื่องจากระบบทางเดินหายใจล้มเหลวได้สูง

ผู้ที่มีความเสี่ยงและควรเข้ารับการตรวจ RSV

• ทารกที่คลอดก่อนกำหนด
• เด็ก หรือผู้สูงอายุ ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหอบหืด โรคปอดเรื้อรัง โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
• เด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี หรือผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ที่มีอาการคล้ายไข้หวัด มีไข้สูงต่อเนื่องนานกว่าปกติ
• ผู้ที่มีไข้สูง 39-40 องศา ติดต่อกันหลายวัน มีน้ำมูกมีความเหนียวคล้ายกาว มีอาการไอมากและหายใจครืดคราด
• ทารกที่สูดดมควันบุหรี่

การตรวจเชื้อไวรัส RSV
ปัจจุบันการตรวจ RSV มาตรฐานคือการใช้ชุดตรวจแบบด่วน (RSV Rapid Test) โดยเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งจากจมูก (Nasal Swab) โดยสามารถตรวจพบเชื้อได้ร้อยละ 53-96 ของผู้ติดเชื้อ แพทย์จึงอาจใช้การตรวจประเภทอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อวินิจฉัย เช่น เอกซเรย์ปอด ตรวจเชื้อไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น

ทั้งนี้แพทย์อาจไม่ได้ตรวจ RSV ให้กับทุกคนที่มีอาการคล้ายหวัด แต่มักตรวจเมื่ออาการรุนแรงขึ้น หรือสงสัยว่าอาจติดเชื้อ RSV ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์

การแปรผลการตรวจเชื้อ RSV
การตรวจ RSV มักทราบผลได้ภายใน 30 นาที โดยผลตรวจ มี 2 แบบ ได้แก่

• ผลลบ (Negative) มีแถบสีขึ้น 1 ขีด หมายถึงไม่พบเชื้อ RSV
• ผลบวก (Positive) มีแถบสีขึ้น 2 ขีด หมายถึงพบเชื้อ RSV

เคยติดเชื้อ RSV แล้ว สามารถติดซ้ำได้หรือไม่ ?
สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้เมื่อร่างกายอ่อนแอ รวมถึงมีความเสี่ยงหรือภาวะแทรกซ้อนที่เกิดตามมาภายหลังได้

โรงพยาบาลและคลินิกอื่น ที่ให้บริการเกี่ยวกับเด็ก ตรวจพัฒนาการ ฉีด วัคซีนเด็ก ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่