ตรวจวัดระดับสารพิษสะสมในร่างกาย สำหรับผู้ที่อายุ 20 ปีขึ้นไป

การตรวจระดับสารโลหะหนักในร่างกาย (Toxic heavy metals)⠀สามารถตรวจได้หลายวิธี เช่น ตรวจเลือด ปัสสาวะ หรือเหงื่อ โดยวิธีตรวจที่พบได้ทั่วไปคือการตรวจเลือด เพราะทำได้ง่าย ใช้เวลาไม่นาน และวิเคราะห์ผลได้อย่างแม่นยำ
การตรวจระดับสารโลหะหนักไม่ใช่วิธีการรักษาโรค แต่เป็นการตรวจประเมินความเสี่ยงว่าร่างกายมีโลหะหนักชนิดนั้นๆ อยู่ในเกณฑ์ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่ เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพ และการขับสารพิษในร่างกายต่อไป
เนื่องจากหากมีสารโลหะหนักสะสมอยู่ในร่างกายเป็นปริมาณมาก หรือได้รับติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อระบบต่างๆ ในร่างกาย หรือทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง หรือไตทำงานผิดปกติได้

ร่างกายอาจได้รับโลหะหนักจากทางใดบ้าง?
ในชีวิตประจำวัน เราอาจได้รับโลหะหนักที่ปนเปื้อนอยู่ในสิ่งแวดล้อม สิ่งของเครื่องใช้ และอาหาร ดังนี้

• โลหะหนักปนเปื้อนมากับน้ำดื่ม
• โลหะหนักปนเปื้อนในอากาศ เช่น มลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม มลพิษจากการคมนาคมบนท้องถนน
• โลหะหนักที่ปนเปื้อนในอาหาร เช่น อาหารที่ใช้สีที่มีตะกั่วเป็นส่วนประกอบ อาหารทะเลที่มีโลหะหนักปนเปื้อน เป็นต้น

ตัวอย่างสารโลหะหนักที่พบได้ในชีวิตประจำวัน

• อะลูมิเนียม พบได้ในดิน ฝุ่นละอองในอากาศ น้ำดื่ม อาหาร ภาชนะบรรจุต่างๆ ยา สารระงับกลิ่นตัว
• สารหนู⠀เป็นสารที่ใช้ในอุตสาหกรรมการเกษตรและการย้อมผ้า
• ปรอท พบมากในแหล่งที่มีการเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิง โลหะ โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ หรือสารอุดฟัน
• ตะกั่ว⠀พบได้ในแหล่งอุตสาหกรรมทั่วไป สามารถปนเปื้อนอยู่ในดิน น้ำ และอากาศได้
• แคดเมียม⠀พบได้ในแหล่งทำเหมืองสังกะสีและตะกั่ว แหล่งอุตสาหกรรมทั่วไป ยาสูบ บุหรี่ พลาสติก และยาง