รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
🌸 ดูแลสุขภาพของคุณอย่างจริงจัง! ผู้หญิงทุกคนที่อายุ 40 ปีขึ้นไป ควรให้ความสำคัญกับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม เพื่อป้องกันและรักษาโรคอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ การตรวจคัดกรองมะเร็งเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาการมักไม่แสดงออกจนกว่าจะสายเกินไป!
🏥 แพ็กเกจตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม ที่ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ มาพร้อมกับการตรวจที่มีคุณภาพ โดยใช้เทคโนโลยี Liquid-based สำหรับมะเร็งปากมดลูก และการตรวจด้วย Mammogram & Ultrasound สำหรับมะเร็งเต้านม ซึ่งจะช่วยให้คุณมั่นใจในผลการตรวจที่แม่นยำและปลอดภัย
💡 ทำไมคุณควรตรวจคัดกรอง?
- มะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบมากในผู้หญิง และการตรวจคัดกรองสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้
- การวินิจฉัยในระยะเริ่มต้นช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ
🛡️ บริการรวม:
- ตรวจภายในและ Liquid-based Pap Test สำหรับมะเร็งปากมดลูก
- ตรวจ Mammogram และ Ultrasound สำหรับมะเร็งเต้านม
- การตรวจสุขภาพโดยสูตินรีแพทย์ที่มีประสบการณ์
อย่าปล่อยให้ชีวิตคุณเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน! จองบริการ กับเราที่ HDmall.co.th ได้ง่ายๆ และเริ่มต้นดูแลสุขภาพของคุณวันนี้ 📅
เพื่ออนาคตที่สดใสและปลอดภัย เริ่มต้นการตรวจคัดกรองกับเรา!
รายละเอียด
รายละเอียดราคา
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าตรวจภายใน ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก Liquid-based และตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยวิธี Mammogram & Ultrasound สำหรับผู้หญิงที่อายุ 40 ปีขึ้นไป
- ค่าตรวจสุขภาพโดยสูตินรีแพทย์ สอบถามประวัติ และตรวจร่างกาย พร้อมชี้แจงข้อควรปฏิบัติ
- ค่าบริการโรงพยาบาล
- ค่าบริการผู้ป่วยนอก
- ค่าแพทย์
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการและรอผล ขึ้นอยู่กับปริมาณคนไข้และคิวนัดหมายในวันนั้นๆ
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- เหมาะสำหรับผู้หญิงที่อายุ 40 ปีขึ้นไป
- ราคาดังกล่าวเฉพาะคนไทยและชาวต่างชาติที่พำนักถาวรอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น (Expat) โดยแสดงพาสปอร์ตเพื่อยืนยันตัวตน
- กรณีผู้รับบริการมีการตรวจวินิจฉัยและรักษาพยาบาลเพิ่มเติม หรือรับยาเพื่อการรักษา จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม และผู้เข้ารับบริการต้องชำระค่าบริการตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงที่นอกเหนือจากแพ็กเกจ
- แพ็กเกจนี้ใช้ได้เฉพาะแผนกผู้ป่วยนอกเท่านั้น และไม่สามารถใช้ร่วมกับสิทธิ์และส่วนลดอื่นๆ ได้
- กรณีซื้อผ่าน HDmall.co.th ในวันที่เข้ารับบริการลูกค้าจะได้ใบแจ้งหนี้ (Invoice) เท่านั้นไม่สามารถออกใบเสร็จได้
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- หลีกเลี่ยงการตรวจช่วงที่มีประจำเดือน เนื่องจากการตรวจแมมโมแกรมจะทำให้คัดตึงเต้านมได้
- ควรสวมเสื้อผ้าหลวมๆ สบายตัว เพื่อความสะดวกในการตรวจ ควรเป็นเสื้อผ้าที่เป็นชุดคนละท่อน และไม่สวมเสื้อชั้นในแบบเต็มตัว
- ไม่ทาโลชั่น ครีมถนอมผิว แป้ง หรือครีมระงับกลิ่นกายต่างๆ ที่บริเวณรักแร้และเต้านม
- หากมีความผิดปกติใดๆ เช่น คลำพบก้อนเนื้อ หรือผ่านการเสริมหน้าอกมาก่อน ควรแจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับการตรวจ
ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการ
เชื้อไวรัสเอชพีวี (Human Papilloma Virus: HPV) มีมากกว่า 150 สายพันธุ์ เป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดโรคบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนักทั้งผู้หญิงและผู้ชาย โดยปกติแล้วเชื้อนี้จะหายไปได้เองภายใน 1-2 ปีหลังติดเชื้อ แต่สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกสามารถติดอยู่ในร่างกายได้ 10-15 ปี โดยไม่แสดงอาการ
มะเร็งปากมดลูก (Cervical Cancer)
เป็นมะเร็งที่เกิดบริเวณปากมดลูกของผู้หญิง อาจมีอาการบ่งชี้ เช่น
- มีตกขาวมากผิดปกติ
- ตกขาวมีลักษณะเป็นหนอง มีกลิ่นเหม็น หรือมีลักษณะคล้ายน้ำไหลออกมาจากช่องคลอด
- มีเลือดออกกะปริบกะปรอย
- มีเลือดออกหลังร่วมเพศ
- มีเลือดออกในขณะที่ไม่ใช่รอบเดือน
โดยทั่วไปมักไม่พบอาการแสดงในระยะแรกที่เริ่มป่วย แต่จะมีอาการเมื่อเซลล์มะเร็งได้ลุกลามไปแล้ว
สาเหตุของมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อเอชพีวี ดังนั้นมะเร็งปากมดลูกส่วนหนึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อเอชพีวีและการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
ผู้หญิงอายุ 25 ปีขึ้นไปควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก วิธีที่นิยม ได้แก่ การทำแป๊บสเมียร์ (Pap Smear Test) โดยแพทย์จะนำตัวอย่างเซลล์จากช่องคลอดออกมาป้ายบนกระจกแล้วส่องภายใต้กล้องจุลทรรศน์เพื่อตรวจหาความผิดปกติ
ต่อมามีการปรับเทคนิคให้เก็บตัวอย่างเซลล์ได้ครบถ้วนยิ่งขึ้น เรียกว่า Liquid-based Pap Test (บางครั้งอาจพบในชื่อ ThinPrep หรือ SurePath ตามยี่ห้อน้ำยา) โดยแทนที่จะนำตัวอย่างเซลล์มาป้ายบนกระจกทันที จะเปลี่ยนเป็นเก็บเซลล์ไปแช่ในน้ำยาเฉพาะก่อน จากนั้นนำไปปั่นแยก ช่วยให้เห็นตัวเซลล์ชัดเจนขึ้นเมื่อนำมาส่องตรวจต่อไป
ผู้หญิงที่อายุตั้งแต่ 25-49 ปี จะได้รับคำแนะนำให้ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุก 3 ปี และผู้หญิงที่อายุ 50-64 ปี จะได้รับคำแนะนำให้ตรวจคัดกรองทุก 5 ปี สำหรับผู้หญิงที่อายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป จะแนะนำให้ตรวจคัดกรองเฉพาะผู้ที่ไม่ได้ตรวจคัดกรองเลยตั้งแต่อายุ 50 ปี หรือจะแนะนำให้คัดกรองในผู้ที่มีผลการตรวจในครั้งก่อนพบความผิดปกติเกิดขึ้น
อันตรายโรคมะเร็งปากมดลูก
โรคมะเร็งปากมดลูกเป็นโรคที่มีความอันตรายสูง เนื่องจากสามารถกระทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพและชีวิตของผู้ป่วยได้ อันตรายของโรคมะเร็งปากมดลูกประกอบด้วย
-⠀การกระจายของเนื้องอก: เนื้องอกจากมะเร็งปากมดลูกสามารถกระจายและขยายไปหลายจุด ซึ่งอาจกระทบถึงอวัยวะอื่นๆ ในระบบทางเดินเพศภายในหรือภายนอก ทำให้เกิดการลุกลามและการแพร่กระจายของเนื้องอกไปยังส่วนอื่นของร่างกาย เช่น รังมดลูก ลำไส้ ตับ หรือปอด
-⠀ขยายพื้นที่จนอุดตัน: เนื้องอกจากมะเร็งปากมดลูกที่ขยายเต็มพื้นที่สามารถอุดตันทางเดินปัสสาวะ ทางเดินอาหาร หรือช่องคลอด ทำให้เกิดอาการปวด ท้อง ปัสสาวะน้อยลง อุจจาระที่ผิดปกติ หรือมีอาการบวมในบางจุด
-⠀ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ: มะเร็งปากมดลูกอาจกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ร่างกายรับมือต่อการติดเชื้อและโรคภัยได้ยากขึ้น อาจเกิดการติดเชื้อร้ายแรงและภาวะแทรกซ้อนได้ง่ายขึ้น
-⠀ผลกระทบทางจิตใจ: หากพบว่าป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกโดยเฉพาะระยะหลัง อาจมีผลกระทบทางจิตใจและอารมณ์ของผู้ป่วยได้ เช่น ความกังวล ซึมเศร้า ความหงุดหงิด และความสับสนทางอารมณ์ ต่างจากการตรวจคัดกรองพบในระยะแรก
สำหรับคนที่มีอาการผิดปกติหรือความเสี่ยงสูง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อโรคมะเร็งปากมดลูก ส่วนคนที่กังวลว่าตนจะมีความเสี่ยง ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
หมายเหตุ
- อายุที่แนะนำให้เริ่มตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกจากแต่ละสถาบันอาจมีความแตกต่างกัน ตั้งแต่ 21, 25, 30, 35 หรือ 40 ปี ดังนั้น อาจตัดสินใจเริ่มตรวจจากอายุที่เหมาะสม การเริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก หรือความเสี่ยงอื่นของแต่ละบุคคล
ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม
จากข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ มะเร็งเต้านม เป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในเพศหญิง และมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นทุกปี โรคนี้ระยะเริ่มแรกมักไม่แสดงอาการ แต่หากพบก้อนขนาดใหญ่หรือมีน้ำเลือด น้ำเหลืองไหลออกจากหัวนม มักเป็นระยะที่มะเร็งเต้านมได้ลุกลามและแพร่กระจายแล้ว
ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม
- ผู้หญิงที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะเมื่ออายุ 40 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีพฤติกรรมบริโภคไขมันสูง
- ผู้ที่มีภาวะอ้วน
- ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์
- ผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย
การตรวจแมมโมแกรมคืออะไร?
การตรวจแมมโมแกรม เป็นการเอกซเรย์เต้านมที่ใช้รังสีชนิดพิเศษ (Low-dose X-ray) ถ่ายรูปเต้านมจากด้านบนและด้านข้าง ด้านละ 2 รูป โดยบีบเนื้อเต้านมเข้าหากัน แต่อาจจำเป็นต้องถ่ายรูปเพิ่มเติม หากพบว่ามีความผิดปกติ
ข้อดีของการตรวจแมมโมแกรม
- การตรวจแบบนี้ เป็นการใช้รังสีปริมาณต่ำกว่าเอกซเรย์ทั่วไป 25% รังสีจึงไม่กระจายไปยังอวัยะส่วนอื่นของร่างกาย
- การตรวจแมมโมแกรมจะช่วยให้สามารถมองเห็นกระทั่งจุดหินปูนในเต้านม ทำให้สามารถตรวจพบเซลล์มะเร็งได้ตั้งแต่ในระยะเริ่มแรกที่ไม่มีอาการผิดปกติจนถึงระยะที่มีอาการ แม้แต่เซลล์มะเร็งที่มีขนาดเล็กมาก
แมมโมแกรม VS ดิจิทัลแมมโมแกรม
การตรวจเต้านมด้วยแมมโมแกรมจะบันทึกภาพลงบนฟิล์มเอกซเรย์ แต่ดิจิทัลแมมโมแกรมจะบันทึกภาพลงในเครื่องคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการตรวจแมมโมแกรม
- นักรังสีเทคนิคจะจัดท่าทางของคุณให้พร้อมสำหรับเครื่องแมมโมแกรม โดยจะให้เต้านมอยู่ระหว่างแผ่นพลาสติกใส 2 แผ่น
- นักรังสีเทคนิคควบคุมเครื่องให้ค่อยๆ บีบเนื้อเต้านมผู้รับการตรวจเข้าหากัน แล้วบันทึกภาพถ่ายรังสี
หลังจากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนการอ่านผลอ่านตรวจโดยแพทย์ โดยอาจมีการตรวจเพิ่มเติมหากพบจุดที่ผิดปกติแต่ยังเห็นไม่ชัด
ระยะเวลาในการตรวจ
สำหรับเต้านมทั้ง 2 ข้าง กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที
การตรวจอัลตราซาวด์เต้านมคืออะไร?
การตรวจอัลตราซาวด์ (Ultrasound) เป็นเทคนิคการตรวจเพื่อให้ได้ภาพสำหรับคัดกรองความผิดปกติหรือค้นหาเนื้องอกในเต้านม โดยใช้หลักการสร้างภาพจากคลื่นเสียงความถี่สูง ทำให้เห็นเนื้อเยื่อภายในว่าส่วนไหนเป็นเนื้อเยื่อปกติ ส่วนไหนเป็นก้อนเนื้อ และแยกแยะได้ด้วยว่าก้อนเนื้อนั้นมีองค์ประกอบเป็นน้ำหรือเนื้อ
การอัลตราซาวด์ต่างจากการเอกซเรย์หรือทำ CT Scan ตรงที่ไม่มีการใช้รังสี จึงปลอดภัยกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์และให้นมบุตร
ขั้นตอนการตรวจอัลตราซาวด์
- แพทย์ทำการตรวจสอบเต้านม จากนั้นให้ผู้รับการตรวจถอดเครื่องแต่งกายแล้วนอนบนบริเวณที่เตรียมไว้
- แพทย์ทาเจลลงบนหน้าอกผู้รับการตรวจ เพื่อให้คลื่นเสียงสามารถทะลุผ่านผิวหนังได้
- แพทย์ใช้หัวตรวจซึ่งเรียกว่า ทรานซดิวเซอร์ เคลื่อนไปมาเหนือเต้านมผู้รับการตรวจ อุปกรณ์นี้จะส่งและรับคลื่นเสียงความถี่สูง แล้วส่งภาพไปยังจอมอนิเตอร์ หากพบบริเวณน่าสงสัย แพทย์จะทำการบันทึกภาพไว้
- เมื่อได้ภาพเรียบร้อย แพทย์จะเช็ดเจลออกแล้วให้ผู้รับการตรวจสวมใส่เสื้อผ้าตามเดิม
ข้อดี
- เป็นเทคนิคการตรวจที่ไม่ต้องใช้รังสี ทำให้ค่อนข้างปลอดภัย ผลข้างเคียงต่ำ
อัลตราซาวด์ VS แมมโมแกรม
การตรวจอัลตราซาวด์กับแมมโมแกรมเป็นวิธีตรวจความผิดปกติของเต้านมที่นิยมกันมาก แต่ละวิธีมีข้อเด่นคนละอย่าง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจได้อย่างเหมาะสม
อัลตราซาวด์มีข้อเด่นที่มีข้อจำกัดน้อย ผู้ที่อายุยังน้อยหรือตั้งครรภ์อยู่ก็รับการตรวจด้วยวิธีนี้ได้ ตรวจหาก้อนเนื้อได้ดี ระหว่างทำไม่เจ็บ แต่อาจตรวจไม่พบก้อนเนื้อหรือถุงน้ำที่มีขนาดเล็กมากๆ และอาจให้ผลไม่แม่นยำนักในผู้ที่มีภาวะอ้วนหรือขนาดหน้าอกใหญ่มาก
ส่วนแมมโมแกรมมีข้อเด่นที่หาจุดหินปูนซึ่งเป็นสัญญาณหนึ่งของมะเร็งเต้านมได้ มักใช้ได้ดีในผู้ที่อายุ 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากเนื้อเต้านมไม่หนาแน่นมาก ตรวจแล้วเห็นภาพชัด ขณะทำต้องมีการบีบเนื้อเต้านม ทำให้อาจรู้สึกเจ็บหรือไม่สบายตัว
โรงพยาบาลและคลินิกอื่น ที่ให้บริการ ตรวจมะเร็งที่ผู้หญิงเป็นกันเยอะ เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 1-3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 60 วัน)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่โรงพยาบาลได้โดยตรง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th