ECCE เป็นการผ่าตัดเอาเลนส์ตาที่เป็นต้อกระจกออกออกมาทั้งชิ้น แล้วแทนที่ด้วยเลนส์เทียม มักใช้ในผู้ที่ต้อสุก หรือแข็งมาก
แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
แพ็กเกจอื่นที่คุณอาจสนใจ
รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
👁️ มองเห็นชัดเจนขึ้น เริ่มต้นด้วยการผ่าต้อกระจก! ถ้าคุณเริ่มมีปัญหามองไม่ชัด หรือเห็นภาพเบลอ นี่อาจเป็นสัญญาณของโรคต้อกระจกที่ไม่ควรมองข้าม! การผ่าต้อกระจกที่โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุดในการฟื้นฟูการมองเห็นของคุณ!
🏥 บริการผ่าต้อกระจกโดยใช้เลนส์แก้วตาเทียมชนิดโฟกัสระยะเดียว (Monofocal IOLs) จะช่วยให้คุณกลับมามองเห็นได้อย่างชัดเจนอีกครั้งในเวลาเพียง 30-60 นาทีเท่านั้น! คุณจะได้สัมผัสกับความสบายตาและความสุขที่เกิดขึ้นจากการมองเห็นที่ดีขึ้น!
💡 ทำไมต้องเลือกการผ่าต้อกระจก?
- ช่วยให้คุณมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นในชีวิตประจำวัน
- ลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการมองไม่ชัด
- เพิ่มคุณภาพชีวิตให้คุณใช้ชีวิตได้เต็มที่อีกครั้ง
🛌 การผ่าต้อกระจกที่นี่รวมถึงค่าผ่าตัด ค่าห้องผ่าตัด และค่ายาที่ใช้ในการผ่าตัด พร้อมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมดูแลคุณอย่างใกล้ชิด!
อย่าปล่อยให้ปัญหาการมองเห็นรบกวนการใช้ชีวิตของคุณอีกต่อไป! จองบริการ ผ่าน HDmall.co.th วันนี้และรับส่วนลดพิเศษ! 📅
เริ่มต้นการมองเห็นที่ชัดเจนขึ้นได้ที่นี่!
รายละเอียด
รายละเอียดราคา
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าผ่าต้อกระจก โดยใช้เลนส์แก้วตาเทียม ชนิดโฟกัสระยะเดียว (Monofocal IOLs) สำหรับตา 1 ข้าง
- ค่าห้องผ่าตัด
- ค่าเวชภัณฑ์
- ค่ายาที่ใช้ในการผ่าตัด
- ค่าทีมแพทย์ทำหัตถการ เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดตามที่ระบุเท่านั้น
- ค่าเลนส์
- ค่ายากลับบ้าน แต่ไม่รวมค่ายาโรคประจำตัวของผู้ป่วย
- ค่าบริการโรงพยาบาล
สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่าตรวจประเมินก่อนผ่าตัด และค่าปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง 3,500 บาท ไม่รวมค่าตรวจเลือด กรณีผู้ป่ายมีโรคประจำตัว
หมายเหตุ
- ไม่รวมค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโรคประจำตัวของผู้ป่วยและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นนอกเหนือการผ่าตัด เช่น เวชภัณฑ์ อุปกรณ์พิเศษ ที่ใส่ในร่างกายของผู้ป่วย ค่าการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ ค่าการดูแลรักษาเพิ่มเติมในกรณีที่ตรวจพบความผิดปกติอื่น และค่าใช้จ่ายในการตรวจติดตามอาการหลังการผ่าตัด
- ในกรณีที่มีการบริการนอกเหนือแพ็กเกจ คิดค่าบริการตามจริง
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลาในการผ่าตัดประมาณ 30-60 นาที
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- ระยะเวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือจนกว่าอาการจะคงที่ หลังจากเข้ารับการผ่าตัด จากนั้นสามารถกลับบ้านได้เลย
- ทางโรงพยาบาลขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- การเข้าร่วมแพ็กเกจ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์เท่านั้น
- แพ็กเกจนี้สามารถใช้ได้เฉพาะคนไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย (Expat) เท่านั้น โดยใช้ work permit หรือเอกสารหลักฐานการมีคู่สมรสในไทยเพื่อยืนยันตัวตน
- กรณีซื้อผ่าน HDmall.co.th ในวันที่เข้ารับบริการ ลูกค้าจะได้ใบแจ้งหนี้ (Invoice) เท่านั้น ไม่สามารถออกใบเสร็จได้
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรปรึกษาแพทย์ถึงเทคนิคการผ่าตัด และทำความเข้าใจชนิดเลนส์ที่จะใช้ให้ชัดเจน เนื่องจากเลนส์ในท้องตลาดมีหลายขนิด เช่น เลนส์ชัดระยะเดียว (Monofocal) ชัดหลายระยะ (Multifocal) เลนส์แก้สายตาเอียง (Toric)
- งดรับประทานยา วิตามิน หรืออาหารเสริมที่อาจมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน ไอบูโพรเฟน วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินซี สมุนไพร น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- ควรล้างหน้า และสระผมไว้ก่อนในวันเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากหลังผ่าตัดแพทย์จะให้งดล้างหน้าสระผมระยะหนึ่ง
- ควรมีเพื่อน หรือคนใกล้ชิดมาด้วยในวันผ่าตัด เพราะหลังผ่าเสร็จจะยังใช้สายตาไม่ได้ไประยะหนึ่ง
การดูแลหลังรับบริการ
- เช็ดตาอย่างน้อยวันละ 1 ครั้งทุกเช้า โดยใช้อุปกรณ์ที่ได้รับจากโรงพยาบาล เช็ดตามขั้นตอนที่แพทย์แนะนำอย่างเบามือ ขณะเช็ดตาควรอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีฝุ่นละออง
- ถ้ามีขี้ตา น้ำตาไหล คัน หรือเคืองตา สามารถเช็ดตาซ้ำได้
- หยอดตา ป้ายยา และรับประทานยาตามแพทย์สั่ง
- ห้ามขยี้ตาข้างที่ได้รับการผ่าตัด เพราะจะทำให้เกิดการติดเชื้อ และแผลอาจฉีกขาดได้
- ห้ามโดนน้ำเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดใบหน้าโดยเว้นบริเวณที่ครอบตา หรือตาข้างที่ผ่าตัดแทน
- สามารถแปรงฟันได้ตามปกติ แต่ต้องแปรงเบาๆ ไม่ส่ายหน้าไปมาขณะแปรงฟัง และไม่กลั้วคอ เพราะจะทำให้เกิดการสะเทือนไปถึงตาข้างที่ได้รับการผ่าตัด
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารกรอบ แข็ง เหนียว หรือเคี้ยวยาก เพราะอาจสะเทือนตาได้
- งดรับประทานอาหารรสจัด อาหารที่มีกลิ่นฉุน หรือมีกลิ่นเครื่องเทศแรงๆ เพราะอาจทำให้น้ำตาไหล หรือไอจามได้
- หลีกเลี่ยงการไอจามแรงๆ ถ้าจำเป็นให้อ้าปากกว้างๆ เวลาไอ หรือจาม เพื่อลดแรงดันที่จะขึ้นไปที่ดวงตา
- หลีกเลี่ยงการเบ่งอุจจาระ เพราะจะทำให้แรงดันขึ้นศีรษะ อาจทำให้ปวดตา หรือเลือดออกในดวงตาได้
- หลีกเลี่ยงการก้มหน้าต่ำกว่าเอว การสะบัดหน้าแรงๆ และการยกของหนัก
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจสร้างความระคายเคืองต่อดวงตาที่ผ่าตัดได้ เช่น การออกกำลังกาย การเล่นกีฬา การทำงานบ้าน การเล่นกับเด็ก หรือเล่นกับสัตว์เลี้ยง
- ห้ามนอนตะแคงทับตาข้างที่ได้รับการผ่าตัด และห้ามนอนคว่ำหน้า เพราะอาจทำให้ที่ครอบตา และผ้าปิดตาไปครูดกับกระจกตาจนทำให้เป็นแผลได้
- หากมีโรคประจำตัวหรืออยู่ระหว่างรับประทานวิตามินเสริม ควรปรึกษาแพทย์ว่าจำเป็นต้องหยุดยา หรือวิตามินชั่วคราวหรือไม่
ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการ
ต้อกระจก (Cataract) เป็นอาการผิดปกติในดวงตา ที่ทำให้เลนส์แก้วตาขุ่นมัว มีลักษณะเป็นสีขาว หรือขาวอมน้ำตาล จนส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการมองเห็น
ผู้ที่เป็นต้อกระจกมักมองเห็นภาพไม่ชัด โดยเห็นเป็นหมอกหรือฝ้าบังตา หากเห็นไม่ชัดแบบอื่น เช่น เห็นหยากไย่บังตา เห็นแสงแลบ มักไม่ใช่ต้อกระจก
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดต้อกระจก คือการเสื่อมสภาพของเลนส์ตาตามอายุ มักพบในผู้ที่อายุ 50 ปีขึ้นไป แต่อาจพบในคนอายุน้อยได้เช่นกัน หรือเกิดหลังอุบัติเหตุต่อดวงตาก็ได้
อย่างไรก็ตาม โรคต้อกระจกสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการผ่าตัด หรือที่เรียกว่า ลอกต้อ เอาเลนส์ตาธรรมชาติที่ขุ่นจนเป็นต้อกระจกออก และใส่เลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปแทนที่
ต้อกระจกมักค่อยๆ เป็นอย่างช้าๆ ใช้เวลานาน สิ่งที่ต้องระวังคือหากเป็นมากจนต้อสุก หรือแข็ง ทางเลือกในการรักษาอาจน้อยลง เช่น ไม่สามารถรักษาด้วยการใช้คลื่นอัลตราซาวด์สลายต้อได้ ต้องผ่าตัดเอาเลนส์ตาออกเท่านั้น หรือหากปล่อยไว้นานเกินไปอาจทำให้เป็นต้อหิน ซึ่งร้ายแรงกว่าได้
แพ็กเกจนี้รักษาต้อกระจกด้วยเทคนิค⠀ECCE
ECCE (Extracapsular Cataract Extraction) คือการผ่าตัดต้อกระจกด้วยการผ่าตัด นำเอาเลนส์ตาที่เป็นต้อกระจกออก แล้วใส่เลนส์แก้วตาเทียม (Intraocular Lens: IOL) เข้าไปในถุงหุ้มเลนส์ตาแทน
วิธีนี้จะต้องกรีดเปิดแผลขนาดประมาณ 9-12 มิลลิเมตร มักใช้กับผู้ที่เป็นต้อกระจกหนา และแข็งเกินกว่าจะใช้วิธีสลายต้อกระจกด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ (Phacoemulsification) ได้ โดยทั่วไปแล้วใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 30-45 นาที ขณะที่เทคนิค Phaco ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 10-30 นาที
หลังจากผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แล้ว เลนส์แก้วตาเทียมที่ใส่เข้าไปจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของดวงตา ผู้รับบริการจะไม่รู้สึกถึงความแปลกปลอมใดๆ และจะช่วยให้การมืองเห็นชัดเจนขึ้นเหมือนก่อนเป็นต้อกระจก
เลนส์แก้วตาเทียมมักทำจากพลาสติก อะคริลิก หรือซิลิโคน บางชนิดสามารถป้องกันรังสี UV ได้ด้วย
เลนส์แก้วตาเทียมแบ่งออกเป็น 4 ชนิด ได้แก่
- เลนส์ชัดระยะเดียว (Monofocal IOL) มักตั้งให้ชัดระยะไกล แล้วถ้าต้องการมองใกล้เช่นอ่านหนังสือก็ใส่แว่น
- เลนส์ชัดหลายระยะ (Multifocal IOL) แบ่งย่อยออกเป็นชัด 2 ระยะ คือชัดทั้งใกล้ และไกล กับเลนส์ชัด 3 ระยะ คือชัดระยะใกล้ กลาง ไกล โดยระยะชัดกลางมักใช้สำหรับมองจอคอมพิวเตอร์
- เลนส์แก้สายตาเอียง (Toric IOL) เป็นเลนส์ชัดระยะเดียวพร้อมแก้ปัญหาสายตาเอียง
- เลนส์แก้สายตาเอียงชัดหลายระยะ (Toric Multifocal IOL) เป็นเลนส์แก้วตาเทียมที่ช่วยแก้ปัญหาทั้งสายตาสั้น ยาว เอียง
การเลือกชนิดเลนส์แก้วตาเทียมควรคำนึงถึงทั้งความต้องการของผู้เป็นต้อกระจก งบประมาณ ร่วมกับการประเมินความเหมาะสมจากจักษุแพทย์
ECCE ทำอย่างไร?
ขั้นตอนการทำอาจมีรายละเอียดแตกต่างกันไปตามแต่ละสถานที่ให้บริการ แต่โดยรวมแล้วมีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้
- จักษุแพทย์จะทำความสะอาดบริเวณใบหน้า และศีรษะผู้ที่จะผ่าตัดต้อกระจก
- จักษุแพทย์จะให้ยาขยายม่านตา และยาปฏิชีวนะลดโอกาสในการติดเชื้อ จากนั้นจะเริ่มให้ยาชาเฉพาะที่ บางสถานที่ให้บริการอาจให้ยากล่อมประสาท (Sedative) เพื่อช่วยคลายความกังวลด้วย
- จักษุแพทย์จะเปิดแผลเล็กๆ ด้านหน้าดวงตา แล้วนำเอาเลนส์ตาที่เป็นต้อกระจกออก
- จักษุแพทย์จะใส่เลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปในถุงหุ้มเลนส์ตาแทน
กรณีที่มีต้อกระจกบริเวณตาทั้งสองข้าง แพทย์มักแนะนำให้ผ่าตัดทีละข้าง โดยเว้นระยะ 1-2 สัปดาห์ ให้ตาที่ผ่าตัดข้างแรกฟื้นตัวก่อน
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- ผู้ที่มีต้อกระจกขุ่นขึ้นจนรบกวนการใช้ชีวิต เช่น การขับรถ การอ่านหนังสือ
- ผู้ที่มีต้อกระจกร่วมกับปัญหาสุขภาพตาอื่นๆ เช่น โรคจุดภาพชัดที่จอตาเสื่อมในผู้สูงอายุ
- ผู้ที่เริ่มเห็นภาพเบลอ
- ผู้ที่มองภาพไม่ชัดในเวลากลางคืน
- ผู้ที่มองเห็นสีต่างๆ จางลง
- ผู้ที่มีสายตาไวต่อแสงจ้ามากผิดปกติ
- ผู้ที่เห็นวงแสงรอบดวงไฟ
- ผู้ที่เห็นภาพซ้อน
สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
- หากมียา หรืออาหารเสริมที่ใช้เป็นประจำ ควรแจ้งจักษุแพทย์ให้ทราบก่อนรับบริการ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- อาจเห็นภาพเบลอ และรู้สึกแสงจ้ามากกว่าปกติในช่วงแรกหลังการผ่าตัด
- รู้สึกคัน หรือระคายเคืองใน 1-2 วันแรกหลังผ่าตัด
ข้อควรระวัง
หากมีอาการเหล่านี้หลังผ่าตัด ให้รีบพบแพทย์ทันที
- มีไข้ หรือปวดตามาก รับประทานยาลดไข้ และลดปวดแล้วอาการไม่ดีขึ้น
- ตาแดง คันตามาก ขี้ตามากผิดปกติ หนังตาบวมแดงขึ้น และน้ำตาไหลมาก
- การมองเห็นแย่ลง เช่น ตามัวลง มองเห็นภาพซ้อน และภาพบิดเบี้ยว
- มีอาการคลื่นไส้อาเจียนหลังการผ่าตัด
โรงพยาบาลและคลินิกอื่น ที่ให้บริการ ตรวจตา รักษาโรคตา ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 ผ่าน HDmall
นัดคิวเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมิน แล้วทักมาจ่ายเงินที่ HDmall.co.th เพื่อรับส่วนลด
- จองแพ็กเกจกับ HDmall จากนั้นเจ้าหน้าที่จะส่งคูปองให้ทางอีเมล
- เข้ารับการประเมินที่โรงพยาบาลตามวันที่นัดหมาย
- เมื่อทราบราคาประเมินแล้ว ทักไลน์ @hdcoth มาชำระเงินและรับส่วนลดกับ HDmall โดยพิมพ์ HDexpress หรือกดปุ่ม “ชำระเงินหลังประเมิน” ขณะอยู่ที่คลินิก
- เมื่อชำระเงินแล้ว เจ้าหน้าที่จะส่งคูปองให้ลูกค้าเพื่อรับบริการ
*ระยะเวลาผ่อนชำระขึ้นอยู่กับราคาแพ็กเกจ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 1-3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30 วัน)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ ทางโรงพยาบาลจะสรุปค่าใช้จ่ายให้ทราบหลังแพทย์ตรวจประเมิน
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ โรงพยาบาลรวมใจรักษ์ @สุขุมวิท 62 อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th