รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
🌸 ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วย MRI: การป้องกันที่สำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม! คุณรู้หรือไม่ว่า มะเร็งเต้านมเป็นโรคที่พบมากที่สุดในผู้หญิง และเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตจากมะเร็งในประเทศไทย? หากคุณเป็นผู้หญิงอายุ 25 ปีขึ้นไป หรือมีประวัติครอบครัวเกี่ยวกับโรคนี้ การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วย MRI จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและสำคัญ!
🏥 บริการตรวจมะเร็งเต้านม 2 ข้าง ด้วย MRI ที่โรงพยาบาลพญาไท 2 ไม่เพียงแต่เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ยังให้ผลการตรวจที่ละเอียด แม่นยำ และปลอดภัย โดยการตรวจ MRI จะช่วยในการระบุความผิดปกติได้เร็วขึ้น ทำให้คุณสามารถเริ่มการรักษาได้ทันท่วงที หากพบความผิดปกติ ซึ่งมีโอกาสเพิ่มอัตราการรักษาที่สูงขึ้น
💡 ทำไมต้องเลือกตรวจ MRI?
- สามารถตรวจหาก้อนเนื้อขนาดเล็กที่อาจคลำไม่พบได้
- เหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีเนื้อเต้านมหนาแน่น หรือมีประวัติการผ่าตัดเต้านมมาก่อน
- ลดความเสี่ยงในการพลาดการวินิจฉัย
ไม่ว่าจะเป็นการคลำพบก้อนในเต้านม หรือการเปลี่ยนแปลงของหน้าอก คุณยังมีเวลาในการดูแลตัวเอง! รีบจองบริการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วย MRI ผ่าน HDmall.co.th วันนี้ เพื่อความสบายใจและการดูแลสุขภาพที่ดีที่สุดสำหรับคุณเอง! 💖
รายละเอียด
รายละเอียดราคา
แพ็กเกจนี้รวมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าตรวจมะเร็งเต้านม 2 ข้าง ด้วย MRI
- ค่าแพทย์
- ค่าบริการโรงพยาบาล
สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่าเจาะเลือดก่อนตรวจ MRI ประมาณ 400 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแพ็กเกจ
- การตรวจ MRI เต้านม จำเป็นจะต้องฉีดสารเปรียบต่าง (Gadolinium Contrast Agent) ดังนั้นผู้ป่วยทุกรายต้องได้รับการเจาะเลือดเพื่อตรวจค่าไต (Serum Creatinine) ก่อน เพื่อใช้ในการหาดูการทำงานของไต (eGFR) ก่อนฉีดสาร โดยถ้าหากผล eGFR น้อยกว่าค่าปกติให้พิจารณาเลี่ยงการฉีดสาร แต่ในกรณีที่จำเป็นต้องฉีด ต้องมีการแจ้งให้ผู้ป่วยและแพทย์เจ้าของไข้รับทราบก่อนทุกครั้ง
- ใช้เวลารับบริการประมาณ 1-2 ชั่วโมง รวมรอผลตรวจ โดยแพทย์จะเป็นผู้แจ้งผล
- สำหรับผู้หญิงที่อายุ 25 ปีขึ้นไป
- ไม่จำเป็นต้องงดน้ำและอาหารก่อนทำการตรวจ
- สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย สามารถซื้อแพ็กเกจในราคาคนไทยได้ก็ต่อเมื่อมีคุณสมบัติอย่างน้อย 1 ข้อดังต่อไปนี้
- เป็นผู้ที่ทำงานในประเทศไทย โดยสามารถรับสิทธิ์ด้วยการแสดงใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)
- เป็นผู้ที่ศึกษาในประเทศไทย
- เป็นผู้ที่มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศไทย
- เป็นผู้มีบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู)
- เป็นผู้มีคู่สมรสเป็นชาวไทย
ขั้นตอนการตรวจ
- เจ้าหน้าที่จะทำการสอบถามประวัติการตรวจรักษาหรือการผ่าตัด รวมทั้งการตรวจภาพวินิจฉัยเต้านมของผู้ป่วยที่เคยได้รับการตรวจมาก่อนทุกครั้ง เพื่อแจ้งรังสีแพทย์เพื่อความถูกต้องในการแปลผล
- เจาะเลือดเพื่อตรวจค่าไต (Serum Creatinine)
- พยาบาลจะเปิดเส้นเลือดดำบริเวณหลังมือหรือข้อพับแขนด้วยเข็มเบอร์เล็กเพื่อฉีดสารเปรียบต่าง (Contrast Agent) เข้าหลอดเลือดดำ
- เจ้าหน้าที่จะจัดท่าให้ผู้ป่วยนอนคว่ำบนเตียงตรวจ ซึ่งเตียงจะสามารถเลื่อนเข้าออกในอุโมงค์ของเครื่อง MRI ดังนั้นขณะทำการตรวจให้นอนนิ่งๆ หายใจเบาๆ ระหว่างที่ตรวจจะได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเป็นพักๆ ให้ปฏิบัติตามคำบอกของเจ้าหน้าที่เพื่อให้ได้ภาพชัดเจนในการแปลผลตรวจ
- ระหว่างทำการตรวจ ผู้ที่มาตรวจต้องใส่อุปกรณ์ป้องกันเสียงดัง
- ผู้เข้ารับการตรวจอาจรู้สึกร้อนและเหงื่อออกได้ เป็นอาการปกติในระหว่างเครื่องตรวจทำงาน แต่ถ้ามีอาการผิดปกติ เช่น หายใจขัด หายใจไม่สะดวก เจ็บหน้าอก ผื่นคัน สามารถกดปุ่มแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที
ข้อควรระวัง
- ผู้ที่ไม่สามารถคว่ำนานๆ หรือกลัวที่แคบ (Claustrophobia) ควรหลีกเลี่ยง ถ้ามีความจำเป็นต้องตรวจ ควรปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ก่อนเพื่อพิจารณาให้ยาระงับความรู้สึกก่อนทำ
- ผู้ที่มีการผ่าตัดฝังอุปกรณ์โลหะภายในร่างกายควรเลี่ยง เช่น เครื่องกระตุ้นการทำงานของหัวใจ (Pacemaker, เครื่องกระตุ้นหัวใจ (AICD), ลิ้นหัวใจเทียม (Artificial Cardiac Valve), ลวดโลหะในสมอง (Cerebral Aneurysm Clips), ผู้ที่ผ่าตัดใส่อวัยวะเทียมภายในหู
- ผู้ที่ผ่าตัดใส่เหล็กดามกระดูก (Metal Plate), เปลี่ยนข้อเทียม, Stent ที่หลอดเลือดหัวใจ ต้องสอบถามแพทย์ที่ผ่าตัดก่อนว่าเป็นโลหะชนิดที่สามารถเข้าเครื่อง MRI ได้หรือไม่ (MRI Compatible) เพื่อความปลอดภัยในการตรวจ
- สตรีตั้งครรภ์โดยเฉพาะในระยะ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ต้องหลีกเลี่ยง ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที (แม้ปัจจุบันยังไม่พบว่าการตรวจ MRI มีอันตรายต่อทารกในครรภ์ก็ตาม)
- หญิงให้นมบุตรที่มีความจำเป็นต้องได้รับการตรวจควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการ และงดให้นมบุตร 24 ชั่วโมงหลังตรวจเสร็จ เนื่องจากสารเปรียบต่างสามารถขับผ่านน้ำนมได้เล็กน้อย ผู้ป่วยควรปั๊มนมเก็บไว้ก่อนเข้ารับการตรวจ
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ
- สำหรับผู้หญิงที่มีประจำเดือน ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตรวจคือ ช่วงหลังจากมีประจำเดือน โดยนับจากวันแรกที่มีประจำเดือนประมาณ 7-14 วัน
- สำหรับผู้หญิงที่หมดประจำเดือนแล้วสามารถนัดตรวจได้ตามปกติ
- ในผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดเต้านมมาก่อน แนะนำให้ตรวจภายหลังการผ่าตัดอย่างน้อย 1 เดือน
- ไม่จำเป็นต้องงดน้ำและอาหารก่อนทำการตรวจ
- ผู้ป่วยหรือญาติต้องเซ็นใบยินยอมรับการตรวจวินิจฉัยก่อนทำการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าทุกครั้ง
- เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่โรงพยาบาลจัดเตรียมไว้ให้
- ไม่ใช้อายชาโดว์และมาสคาร่า และถอดเก็บการ์ดที่ใช้แถบแม่เหล็ก
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 1-3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 60 วัน)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่โรงพยาบาลได้โดยตรง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ โรงพยาบาลพญาไท 2 อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ
