เป็นการผ่าตัดเอาผิวข้อที่เสื่อมสภาพออก แล้วใส่ผิวข้อใหม่ พร้อมปรับความตึง หย่อนของเนื้อเยื่อรอบข้อเข่า
แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
รายละเอียด
รายละเอียด
รายละเอียดราคา ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียม
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าโปรแกรมผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียม เลือก 1 บริเวณ (บริเวณสะโพกหรือเข่า) 1 ข้าง
- ค่าห้องพักเดี่ยวแบบ Deluxe 5 วัน 4 คืน
- ค่าห้องผ่าตัด และค่าเวชภัณฑ์
- ค่ายาที่ใช้ในการผ่าตัด
- ค่าทีมแพทย์ทำหัตถการ และวิสัญญีแพทย์
- ค่าตรวจสุขภาพก่อนการผ่าตัด (มูลค่า 5,000 บาท)
- ค่าทำกายภาพก่อนและหลังผ่าตัด 7 ครั้ง
- ค่ายากลับบ้าน
- ค่า X-ray เพื่อตรวจประเมิน
- ค่าบริการโรงพยาบาล
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียม
- ระยะเวลารับบริการขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- ชาวต่างชาติสามารถซื้อแพ็กเกจนี้ได้
- กรณีซื้อผ่าน HDmall.co.th ในวันที่เข้ารับบริการลูกค้าจะได้ใบแจ้งหนี้ (Invoice) เท่านั้นไม่สามารถออกใบเสร็จได้
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- รับประทานยาประจำตัวตามคำแนะนำของแพทย์ในวันที่มาตรวจสุขภาพ
- หากมีการติดเชื้อในร่างกาย เช่น ฟันผุ ควรรักษาให้หายก่อนการผ่าตัด
- หากมีการติดเชื้อที่ระบบอื่นๆ ควรแจ้งแพทย์ก่อน เพื่อประเมินระดับความรุนแรง
- ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ การงดน้ำและอาหารจะเริ่มมาทำที่โรงพยาบาล
การดูแลหลังรับบริการ
- ต้องมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิดในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก
- ไม่ควรเดินขึ้นบันได ในช่วง 2 สัปดาห์แรก
- มาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง เพื่อติดตามอาการ
ก่อนตัดสินใจ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
- การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมอาจมีข้อจำกัดในผู้ป่วยบางราย ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องเข้ารับการประเมินความเสี่ยง และความเป็นไปได้ โดยแพทย์ผู้ชำนาญการก่อน
- หลังการผ่าตัดจะต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล 5-7 วัน เพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย และทำกายภาพบำบัด
- หากหลังการผ่าตัด มีอาการไข้สูง หนาวสั่น ปวดบวมแดงรอบแผลผ่าตัด มีเลือด หรือน้ำเหลืองซึมจากแผลผ่าตัด มีอาการปวดมาก รู้สึกว่าข้อสะโพกหลวม หรือบิดผิดปกติ ให้ไปพบแพทย์ทันที
ข้อห้ามสำหรับบริการนี้
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่แพทย์ประเมินแล้วว่าไม่สามารถทนต่อการผ่าตัดได้
- ผู้ที่มีโรคที่ทำให้กล้ามเนื้อรอบข้อสะโพกอ่อนแรงจนไม่สามารถพยุงสะโพกได้
- ผู้ที่ร่างกายอยู่ในภาวะติดเชื้อ
- ผู้ที่มีภาวะกระดูกพรุนรุนแรงมากบริเวณข้อสะโพก
- ผู้ที่อ้วนมากๆ
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- ผู้ที่มีอาการเจ็บ หรือปวดตึงข้อสะโพกมากจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การยืน เดิน ลุก นั่งงอตัว หรือยกขา
- ผู้ที่มีอาการเจ็บปวดสะโพกตลอดเวลาขณะพัก ทั้งในเวลากลางวัน และกลางคืน
- ผู้ที่มีอาการปวดข้อสะโพกมาก และไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา การทำกายภาพบำบัด หรืออุปกรณ์ช่วยพยุงเดิน
- ผู้ที่ต้องใช้ยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวดทุกวัน
- ผู้ที่กระดูกสะโพกหัก แต่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธียึดดามกระดูก
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม แม้ว่าจะเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัย แต่ก็อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้เหมือนการผ่าตัดแบบเปิดแผลปกติ แต่พบได้น้อย ดังนี้
- การติดเชื้อที่บริเวณแผลผ่าตัด
- ข้อเทียมหลุด เคลื่อน ชำรุด หัก หรือมีหินปูนจับรอบๆ ข้อเทียม
- กระดูกหักบริเวณรอบๆ ข้อเทียม
- แนวขาผิดปกติ หรือยาวไม่เท่ากันหลังผ่าตัด
- เกิดผลกระทบต่อเส้นเลือด เส้นประสาท หรือเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
- งอข้อสะโพกไม่ได้เท่าที่ควร
ข้อห้ามสำหรับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
- ผู้ที่มีการติดเชื้อในเข่า และยังรักษาไม่หายขาด
- ผู้ที่มีการติดเชื้อบางอย่างในร่างกาย เช่น ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ หรือการติดเชื้อในช่องปาก
- ผู้ที่มีปัญหาข้อเข่าเสื่อมร่วมกับกล้ามเนื้อต้นขาอ่อนแรง เนื่องจากการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมไม่สามารถรักษาภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้
- ผู้ที่มีปัญหาข้อเข่าเสื่อมร่วมกับการสูญเสียเส้นประสาทรับความรู้สึก เนื่องจากการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมมีจุดประสงค์ คือการลดอาการบาดเจ็บ หรืออาการปวด
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- แผลที่เข่าจะมีอาการบวมอยู่ประมาณ 2-3 วัน
- อาจเกิดการติดเชื้อหลังผ่าตัด แต่พบได้น้อยในปัจจุบัน ซึ่งจะมีอาการเข่าบวม เวลางอเข่าจะรู้สึกเจ็บ และอาจมีหนองไหลออกมาจากหัวเข่า หากมีอาการดังกล่าวควรพบแพทย์ทันที โดยแพทย์จะทำการรักษาด้วยการผ่าตัดล้างข้อเข่า เปลี่ยนแผ่นรองรับน้ำหนักที่เข่า และให้ยาฆ่าเชื้อ
ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียม
การผ่าตัด เป็นวิธีการรักษาโรคกระดูก และข้อในกลุ่มผู้ที่มีอาการเรื้อรัง หรือมีอาการในระดับรุนแรงจนไม่สามารถรักษาได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต การทำกายภาพบำบัด การรับประทานยา หรือการฉีดยาสเตียรอยด์
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม คือการผ่าตัดเพื่อนำส่วนของข้อสะโพกเดิมที่เสื่อมสภาพ กระดูกตาย หรือแตกหักออก และทดแทนด้วยข้อสะโพกเทียม เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด ช่วยให้กลับมาเคลื่อนไหว เดิน หรือใช้งานได้ใกล้เคียงปกติ
อย่างไรก็ตาม ข้อสะโพกเทียมมีอายุการใช้งานในแต่ละคนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การใช้ชีวิต น้ำหนักตัว หรือเทคนิคการผ่าตัดของแพทย์ โดยส่วนใหญ่จะมีอายุการใช้งานประมาณ 20-25 ปี
โรคข้อเข่าเสื่อม เกิดจากผิวข้อของกระดูกอ่อนสึกหรอจากปัจจัยต่างๆ เช่น อายุที่เพิ่มมากขึ้น น้ำหนักตัว เคยประสบอุบัติเหตุ หรือเป็นโรคเกี่ยวกับข้อเข่าต่างๆ
บริเวณข้อเข่า มีลักษณะเป็นกระดูกอ่อน ซึ่งเปรียบเหมือนฟันเฟืองที่เชื่อมกระดูกต้นขากับกระดูกหน้าแข้งเข้าไว้ด้วยกัน ช่วยในการรองรับการลงน้ำหนัก และการเคลื่อนไหว โดยด้านใต้ของกระดูกอ่อนจะมีเส้นประสาทอยู่
การที่ผิวข้อของกระดูกอ่อนสึกจะทำให้กระดูกไม่เรียบลื่น ขรุขระ ทำให้รองรับน้ำหนักได้ไม่ดี เมื่อขยับแล้วจะเกิดเสียงจากการที่กระดูกต้นขา และกระดูกหน้าแข้งขัดกัน ทำให้รู้สึกเจ็บ และปวดในข้อเข่ามาก หากไม่รีบรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ จะทำให้เคลื่อนไหวลำบากไปจนถึงขาผิดรูป หรือขาโก่ง
แนวทางในการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมจะเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต การใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการ ไปจนถึงการผ่าตัด
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม
- การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม เป็นวิธีการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมในระดับปานกลางถึงรุนแรง ซึ่งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และการรักษาด้วยการใช้ยาไม่ได้ผลในการรักษาเท่าที่ควร
- เป้าหมายในการรักษา คือ บรรเทาอาการปวด และช่วยให้ข้อเข่ากลับมาเคลื่อนไหวได้ดีดังเดิม
- ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมควรมีอายุ 60 ปีขึ้นไป เนื่องจากข้อเข่าเทียมมีอายุการใช้งานประมาณ 15-20 ปี อีกทั้งการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมซ้ำมักไม่ได้รับผลการรักษาดีเท่าที่ควร
- การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ใช้ระยะเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง-2 ชั่วโมงต่อการผ่าตัดข้อเข่าหนึ่งข้าง
- การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมใช้เวลาในการฟื้นตัวประมาณ 3-4 เดือน และจะกลับมาใกล้เคียงปกติหลังการผ่าตัด 1 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตาม เพื่อการฟื้นตัวที่มีประสิทธิภาพ ควรเข้ารับการทำกายภาพบำบัด หรือวารีบำบัดด้วย
โรงพยาบาลและคลินิกอื่นที่มีบริการ รักษาข้อเข่าเสื่อม ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ โรงพยาบาลสมิติเวชธนบุรี ผ่าน HDmall
นัดคิวเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมิน แล้วทักมาจ่ายเงินที่ HDmall.co.th เพื่อรับส่วนลด
- จองแพ็กเกจกับ HDmall จากนั้นเจ้าหน้าที่จะส่งคูปองให้ทางอีเมล
- เข้ารับการประเมินที่โรงพยาบาลตามวันที่นัดหมาย
- เมื่อทราบราคาประเมินแล้ว ทักไลน์ @hdcoth มาชำระเงินและรับส่วนลดกับ HDmall โดยพิมพ์ HDexpress หรือกดปุ่ม “ชำระเงินหลังประเมิน” ขณะอยู่ที่คลินิก
- เมื่อชำระเงินแล้ว เจ้าหน้าที่จะส่งคูปองให้ลูกค้าเพื่อรับบริการ
*ระยะเวลาผ่อนชำระขึ้นอยู่กับราคาแพ็กเกจ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30-60 วัน ตามที่ระบุในคูปอง)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ ทางโรงพยาบาลจะสรุปค่าใช้จ่ายให้ทราบหลังแพทย์ตรวจประเมิน
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ โรงพยาบาลสมิติเวชธนบุรี อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th