125,601 บาท*

รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าผ่าตัดไส้ติ่ง ด้วยการส่องกล้อง พักฟื้น 2 คืน ประกอบด้วย
- ค่าห้องผ่าตัด ค่าห้องพักฟื้น ค่าเวชภัณฑ์ ค่ายาที่ใช้ในการผ่าตัด เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัด ตามที่ระบุเท่านั้น
- ค่าห้องพักมาตรฐาน (ตามที่กำหนด) ค่าบริการพยาบาล ค่าบริการห้องพัก ค่าอาหาร ค่าเครื่องมือทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง (ตามที่กำหนด) ค่าเวชภัณฑ์
- ค่ายาผู้ป่วยใน เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัด ค่าอาหาร ค่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ขณะนอนพักในโรงพยาบาล (ตามที่กำหนด)
- ค่าแพทย์ผ่าตัด ค่าวิสัญญีแพทย์ ค่าแพทย์ตรวจเยี่ยมขณะรักษาตัวในโรงพยาบาล
- ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับแล็บ และเอกซเรย์ ระหว่างการพักรักษาตัว ที่เกี่ยวกับการผ่าตัด
- ค่ายากลับบ้าน (Home Medication) (ตามที่กำหนด) แต่ไม่รวมค่ายาโรคประจำตัวของผู้ป่วย
หมายเหตุ
- ราคานี้เป็นเพียงราคาเริ่มต้น ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละบุคคล โดยต้องเข้ารับการประเมินจากแพทย์ก่อน
- ราคาดังกล่าวยังไม่รวมค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้
- ค่าตรวจความพร้อมของผู้ป่วยก่อนการผ่าตัด (Preop)
- ค่าเตรียมความพร้อมก่อนการให้เลือดรวมทั้งจองเลือด หรือการให้เลือดขณะนอนโรงพยาบาล
- ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโรคประจำตัวของผู้ป่วย เช่น ความดัน เบาหวาน หัวใจ ภาวะซีดที่ต้องให้เลือด และโรคอื่นๆ
- ค่าปรึกษาแพทย์เฉพาะทางที่ไม่เกี่ยวกับการผ่าตัด
- ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโรคประจำตัวของผู้ป่วยและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นนอกเหนือการผ่าตัด เช่น เวชภัณฑ์ อุปกรณ์พิเศษที่ใส่ในร่างกายของผู้ป่วย ค่าการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ หรือกรณีเกิดภาวะแทรกซ้อน (ถ้ามี)
- ค่าห้องพัก ค่าบริการโรงพยาบาล และอื่นๆ กรณีนอนพักรักษาตัวเกินจำนวนวันที่กำหนด
- กรณียังไม่ตัดสินใจทำ จะมีค่าปรึกษาแพทย์ก่อนผ่าตัด ราคาอยู่ในช่วง 500-1,000 บาท ต่อครั้ง
- กรณียังไม่ตัดสินใจทำ จะมีค่าบริการโรงพยาบาล ราคาครั้งละ 300 บาท
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 2-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละบุคคล
- ควรพบแพทย์เพื่อปรึกษา ตรวจเช็ก และเตรียมความพร้อมอย่างละเอียดก่อนผ่าตัด
- ผ่าตัดโดยทีมแพทย์เฉพาะทาง
- แพ็กเกจนี้สำหรับคนไทยเท่านั้น
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- แพทย์จะซักประวัติสุขภาพทั่วไป ตรวจร่างกายเบื้องต้น เช่น ตรวจเลือด เพื่อประเมินความพร้อมก่อนผ่าตัด
- งดอาหารและเครื่องดื่มอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนรับการผ่าตัด เพื่อป้องกันการสำลักเศษอาหารเข้าหลอดลมและปอดกรณีดมยาสลบ
- อาบน้ำสระผม ไม่แต่งหน้า พร้อมทั้งล้างเล็บให้สะอาด เพื่อให้แพทย์และพยาบาลสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดจากการขาดออกซิเจนในระหว่างและหลังผ่าตัด
- ถอดเครื่องประดับ ฟันปลอม คอนแทคเลนส์ เพื่อป้องกันการหลุดของฟันปลอมเข้าไปอุดหลอดลมขณะผ่าตัด
- ถ่ายปัสสาวะอุจจาระให้เรียบร้อยก่อนเข้าห้องผ่าตัด
การดูแลหลังรับบริการ
- ไม่ต้องเปิดแผลจนกว่าจะถึงวันที่แพทย์นัด
- ไม่ควรออกกำลงกายที่มีเหงื่อออกมาก เพราะจะทำให้คันบริเวณที่ติดพลาสเตอร์ หรืออาจทำให้พลาสเตอร์หลุดได้
- หลังรับบริการ ควรเคลื่อนไหวช้าๆ โดยเฉพาะเวลาลุกขึ้น ค่อยๆ เดินในระยะสั้นๆ เมื่ออาการทุเลาลง
- อาจต้องพักฟื้น 2-4 สัปดาห์ ก่อนกลับไปทำกิจกรรมหนักๆ ได้ตามปกติ เช่น เข้ายิม เล่นกีฬา
- ระยะเวลาพักฟื้นก่อนกลับไปทำงาน ขึ้นอยู่กับอาการ และรูปแบบการผ่าตัดของแต่ละบุคคล โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาให้
- รับประทานยาฆ่าเชื้อให้ครบ ตามแผนการรักษาของแพทย์
- แนะนำให้มาตรวจตามนัดของแพทย์ หรือหากมีอาการผิดปกติดังต่อไปนี้ เช่น มีสิ่งคัดหลั่ง น้ำหรือหนองซึมออกมาจากแผล หรือมีไข้ ปวด บวม แดง ร้อน และกดเจ็บบริเวณแผลผ่าตัด ให้รีบกลับมาพบแพทย์ทันที
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ก่อนตัดสินใจ
สิ่งที่ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
- อยู่ระหว่างตั้งครรภ์
- ประวัติการแพ้ยา หรืออาหาร
- โรคประจำตัว โดยเฉพาะอาการเกี่ยวกับโรคเลือด
- ยา หรืออาหารเสริมที่ใช้เป็นประจำ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ความเสี่ยงทั่วไปจากการผ่าตัด เช่น มีเลือดออก เกิดการติดเชื้อ แพ้ยาชา หรือยาสลบที่ใช้
- มีอาการบวมแดง เกิดการอักเสบ ติดเชื้อที่ท้อง หากไส้ติ่งแตกระหว่างการผ่าตัด
- อาจเกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อและอวัยวะข้างเคียงได้ระหว่างการผ่าตัด
ข้อมูลทั่วไป
ไส้ติ่งอักเสบ มีสาเหตุเกิดจากการอุดตันของสิ่งตกค้างบริเวณใส้ติ่ง หรือเกิดการอุดตันจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้มีอาการปวดท้องบริเวณรอบสะดือลงมาถึงท้องด้านล่างขวาอย่างรุนแรง และอาจมีไข้ หรืออาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย ซึ่งจำเป็นต้องรักษาให้เร็วที่สุดด้วยการผ่าตัด
การผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบ (Appendectomy)
ปัจจุบันการผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบ สามารถทำได้ 2 วิธี ดังนี้
- การผ่าตัดไส้ติ่งแบบธรรมดา/แบบเปิดแผล (Open Surgery) เป็นการผ่าตัดเอาไส้ติ่งออกผ่านการเปิดหน้าท้องบริเวณท้องน้อยด้านขวา ทำให้มีแผลขนาด 3-10 เซนติเมตร หรือยาวกว่านั้นในกรณีที่ไส้ติ่งแตก
- การผ่าตัดไส้ติ่งด้วยวิธีการส่องกล้อง (Minimally Invasive Surgery: MIS) เป็นการผ่าตัดที่ต้องสอดกล้องและเครื่องมือผ่าตัดเข้าไปในช่องท้อง วิธีนี้รอยแผลที่ผิวหนังจะมีขนาดเล็กประมาณ 1-2 เซนติเมตรเท่านั้น และแพทย์จะเห็นภาพบริเวณไส้ติ่งที่ต้องผ่าตัดได้อย่างชัดเจนผ่านจอภาพ
การผ่าตัดส่องกล้อง (MIS) ดีกว่าการผ่าตัดแบบเปิดอย่างไร?
- ขนาดของแผลเล็กเพียง 1-2 เซนติเมตร ในขณะที่การผ่าตัดแบบเปิดอาจทำให้มีแผลกว้างถึง 12-20 เซนติเมตร
- แพทย์มองเห็นรายละเอียดของตำแหน่งที่ต้องการผ่าตัดได้ชัดเจนด้วยกำลังขยายของกล้อง ทำให้ผ่าตัดได้ตรงจุดจึงลดการบาดเจ็บต่ออวัยวะอื่น
- ลดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่ออื่น เสียเลือดน้อย และเจ็บไม่มาก
- ระยะเวลาพักฟื้นสั้น โดยพักฟื้นที่โรงพยาบาลเพียง 1-2 วัน ในบางกรณีอาจจะกลับบ้านได้ทันทีหลังการผ่าตัด ซึ่งเร็วกว่าการผ่าตัดแบบเปิดที่ต้องใช้เวลาพักฟื้นเป็นสัปดาห์
- ลดการเกิดพังผืดในช่องท้องจากการผ่าตัดแบบเปิด
- ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อน และโรคแทรกซ้อนต่างๆ ทำให้ปลอดภัยกว่าการผ่าตัดแบบเปิดช่องท้อง
ไม่รักษาด้วยการผ่าตัดได้หรือไม่?
ไส้ติ่งอักเสบไม่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยยา ต้องรีบรักษาโดยการผ่าตัดเท่านั้น และหากรักษาช้าเกินไปมีโอกาสเกิดความรุนแรง เช่น ไส้ติ่งแตก เชื้อโรคในไส้ติ่งเข้าสู่ช่องท้อง ติดเชื้อในกระแสเลือด อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
หมายเหตุ
- วิธีการผ่าตัดที่เหมาะสมขึ้นกับความรุนแรงและความเสี่ยง โดยประเมินจากสุขภาพของผู้ป่วยแต่ละราย
โรงพยาบาลอื่นที่มีบริการ ส่องกล้องทางเดินอาหาร ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
นัดคิวเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมิน แล้วกลับมาจ่ายเงินที่ HDmall.co.th รับส่วนลดทันที (มีสิทธิ์ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน*)
- แจ้งชื่อและข้อมูลของคุณเพื่อจองแพ็กเกจ
- นัดหมายวัน-เวลาเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมินก่อนรับบริการ (อาจมีค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของโรงพยาบาล)
- นำยอดค่าใช้จ่ายที่คุณหมอสรุปให้ มาแจ้งกับแอดมิน HDmall โดยเข้าไลน์ @hdcoth แล้วพิมพ์ 'hdexpress' เพื่อดำเนินการชำระเงินพร้อมรับส่วนลด สามารถเลือกวิธีโอน จ่ายบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต โดยจ่ายบัตรเครดิตได้เมื่อมียอดชำระ 300 บาทขึ้นไป ผ่อนได้เมื่อมียอดชำระตั้งแต่ 3,000 บาท
- รอรับคูปองทางอีเมล (จะออกภายใน 15 นาทีหลังแอดมินตรวจสอบการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว) คูปองมีอายุ 60 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่โรงพยาบาลเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่โรงพยาบาลได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ โรงพยาบาลปิยะเวท อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ
-
วันจันทร์-อาทิตย์ (ทุกวัน) 08.00-17.00 น.
-
มีที่จอดรถ