มีตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ตรวจหัวใจแบบ EST และ ECHO ตรวจวัดการแข็งตัวของหลอดเลือด ตรวจหาสารบ่งชี้การอักเสบของหลอดเลือดแดง
รวมตรวจภาวะกระดูกพรุน ตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้อง ตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก ทางเดินอาหาร ตับ ตับอ่อน
ตรวจสุขภาพตาโดยจักษุแพทย์ และตรวจคุณภาพการได้ยินโดยผู้ชำนาญการ แนะนำควรตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกๆ 1 ปี
แพ็กเกจอื่นที่คุณอาจสนใจ
รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
🌟 สุขภาพที่ดีเริ่มต้นที่การตรวจสุขภาพ! หากคุณเป็นผู้ชายอายุ 60 ปีขึ้นไป คุณอาจกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองมากกว่าที่เคย! การตรวจสุขภาพสามารถช่วยประเมินความเสี่ยงและค้นหาโรคที่อาจยังไม่แสดงอาการชัดเจน เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน หรือโรคความดันโลหิตสูง
🏥 บริการตรวจสุขภาพ 51 รายการ สำหรับผู้ชายอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่ โรงพยาบาลพญาไท 2 มาพร้อมกับการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (ECHO) เพื่อให้คุณมั่นใจในสุขภาพของตัวเอง ด้วยแพ็กเกจที่ครอบคลุมทุกด้าน
💡 ทำไมต้องตรวจสุขภาพ?
- ตรวจหาโรคที่ยังไม่แสดงอาการ เพื่อการรักษาที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- ลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคร้ายแรงในอนาคต
🩺 บริการรวม:
- ตรวจสุขภาพโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจและเอกซเรย์ปอด
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดและไขมันในเลือด
- และอื่นๆ อีกมากมาย
อย่ารอให้ปัญหาสุขภาพกลายเป็นเรื่องใหญ่! จองบริการ ตรวจสุขภาพกับเราได้ง่ายๆ ผ่าน HDmall.co.th เพื่อให้คุณมั่นใจในสุขภาพที่ดีในอนาคต 🌈
เริ่มต้นดูแลสุขภาพของคุณวันนี้!
รายละเอียด
รายละเอียดราคา ตรวจสุขภาพ
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าตรวจสุขภาพ 51 รายการ สำหรับผู้ชายอายุ 60 ปีขึ้นไป รวมตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (ECHO) มีรายการตรวจดังนี้
- ตรวจสุขภาพโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ (Physical Examination)
- วัดความดันโลหิต ชีพจร ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง (Vital signs, BMI)
- เอกซเรย์ปอด (Chest X-ray)
- ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ Electrocardiography (EKG)
- ตรวจหัวใจด้วยคลื่นสะท้อนความถี่สูง (Echocardiogram)
- ตรวจการแข็งตัวของหลอดเลือดแดง Ankle Brachial index (ABI)
- ตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องทั้งหมด (Ultrasound Whole Abdomen)
- ตรวจอัลตราซาวด์ไทรอยด์ (Ultrasound Neck & Thyroid)
- ตรวจภาวะกระดูกพรุน (Bone Densitometry)
- ตรวจปัสสาวะ Urine Examination (UA)
- ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด Complete Blood Count (CBC)
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด Fasting Blood Sugar (FBS)
- ตรวจติดตามควบคุมเบาหวาน (HbA1c)
- ตรวจการทำงานของไต (Creatinine plus GFR)
- ตรวจการทำงานของไต (BUN)
- ตรวจเพื่อดูการทำงานของตับ (SGOT)
- ตรวจเพื่อดูการทำงานของตับ (SGPT)
- ตรวจเพื่อดูการทำงานของตับ (Alk Phosphatase)
- ตรวจเพื่อดูการทำงานของตับ (Total Protein)
- ตรวจเพื่อดูการทำงานของตับ (Albumin)
- ตรวจเพื่อดูการทำงานของตับ (Total Bilirubin)
- ตรวจเพื่อดูการทำงานของตับ (Direct Bilirubin)
- ตรวจเพื่อดูการทำงานของตับ GGT (Gamma GT)
- ตรวจหาสารบ่งชี้การอักเสบของหลอดเลือดแดง C-Reactive Protein (hsCRP)
- ตรวจปริมาณเกลือแร่ในเลือด (Sodium)
- ตรวจปริมาณเกลือแร่ในเลือด (Potassium)
- ตรวจปริมาณเกลือแร่ในเลือด (Chloride)
- ตรวจปริมาณเกลือแร่ในเลือด (CO2)
- ตรวจปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือด (Total Cholesterol)
- ตรวจปริมาณไตรกลีเซอไรด์ในเลือด (Triglyceride)
- ตรวจปริมาณไขมันดีในเลือด (HDL-Cholesterol)
- ตรวจปริมาณไขมันไม่ดีในเลือด (LDL-Cholesterol)
- ตรวจระดับกรดยูริค (Uric Acid)
- ตรวจระดับฮอร์โมนไทรอยด์ (TSH)
- ตรวจระดับฮอร์โมนไทรอยด์ (FT3)
- ตรวจระดับฮอร์โมนไทรอยด์ (FT4)
- ตรวจระดับฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone)
- ตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งตับ (AFP)
- ตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งทางเดินอาหาร (CEA)
- ตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งตับอ่อน (CA19-9)
- ตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก (PSA)
- ตรวจระดับกรดโฟลิก Folic Acid (Serum)
- ตรวจวิตามินบี 12 (Vitamin B12)
- ตรวจระดับวิตามินดี (Vitamin D)
- ตรวจวิเคราะห์ภาพตัดขวาง จอประสาทตา (Optical Coherence Tomography)
- ตรวจวัดความดันลูกตา (Tonometer Without Contact)
- ตรวจตาด้วยเครื่อง Slit Lamp โดยจักษุแพทย์ (Slit Lamp)
- ตรวจสุขภาพตาโดยจักษุแพทย์ (Eye Examination by Ophthalmologist)
- ตรวจการได้ยินโดยผู้เชี่ยวชาญ (Audiologist)
- ตรวจอุจจาระ (Stool Examination)
- ตรวจอุจจาระ (Occult Blood)
- ค่าแพทย์
- ค่าบริการโรงพยาบาล
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ ตรวจสุขภาพ
- สามารถเข้ารับบริการได้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2567
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 5-6 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผู้เข้ารับบริการ
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- งดอาหารและน้ำดื่มก่อนเข้ารับการตรวจ อย่างน้อย 8-12 ชั่วโมง (สามารถดื่มน้ำเปล่าได้)
- ได้รับผลตรวจภายในวัน ระยะเวลารอผลตรวจประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผู้เข้ารับบริการ
- สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย สามารถซื้อแพ็กเกจในราคาคนไทยได้ก็ต่อเมื่อมีคุณสมบัติอย่างน้อย 1 ข้อดังต่อไปนี้
- เป็นผู้ที่ทำงานในประเทศไทย โดยสามารถแสดงรับสิทธิ์ด้วยการแสดงใบอนุญาตทำงาน (Work Permit)
- เป็นผู้ที่ศึกษาในประเทศไทย
- เป็นผู้ที่มีถิ่นพำนักถาวรในประเทศไทย
- เป็นผู้มีบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู)
- เป็นผู้มีคู่สมรสเป็นชาวไทย
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ก่อนตรวจสุขภาพอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- งดชาและกาแฟ รวมถึงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนประมาณ 8 ชั่วโมงก่อนรับบริการ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 6-8 ชั่วโมง
- ควรสวมเสื้อผ้าหลวมๆ สบายตัว เพื่อความสะดวกในการตรวจ ควรเป็นเสื้อผ้าแบบชุดคนละท่อน และไม่สวมเสื้อชั้นในแบบเต็มตัว
- งดกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากก่อนการตรวจ เช่น การออกกำลังกาย
- หากเป็นยาที่จำเป็นต้องรับประทานเป็นประจำ เช่น ยารักษาโรคจิตเวช หรือยารักษาโรคเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนงดรับประทานยาทุกครั้ง
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยา หรืออาหารเสริมที่กำลังรับประทานก่อนเข้ารับการตรวจ และควรนำยามาให้แพทย์ดูด้วย
การดูแลหลังรับบริการ
- สามารถรับประทานอาหาร ยา และทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ เว้นแต่แพทย์จะสั่งห้าม
- หากมีการใช้ยาชาในการตรวจ ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ร้อนจัด หรือเย็นจัด จนกว่าฤทธิ์ยาจะหมด
- หากเป็นการตรวจแบบ Transesophageal Echocardiogram จะไม่สามารถขับขี่ยานพาหนะได้ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการทดสอบเนื่องจากฤทธิ์ของยาระงับประสาทยังไม่หมด
ก่อนตัดสินใจ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
- โรคหรืออาการบางอย่างอาจตรวจไม่พบจากการตรวจสุขภาพทั่วไป หากมีความกังวลด้านใดเป็นพิเศษ ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่หรือแพทย์ทราบก่อน แพทย์อาจแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติมโดยใช้วิธีหรือเครื่องมือเฉพาะ
- หากมีโรคประจำตัว ยาที่รับประทานเป็นประจำ หรือมีประวัติสุขภาพอื่นๆ ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่หรือแพทย์ทราบด้วย
- หากผลการตรวจสุขภาพ ไม่บ่งชี้สัญญาณความผิดปกติใดๆ ก็ควรดูแลสุขภาพให้ดีตามปกติ เช่น ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารหลากหลาย ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ
สิ่งที่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนรับบริการ
- มีประวัติเคยได้รับการฉายแสงที่บริเวณลำคอ หรือหน้าอก
- เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดอาหารต่างๆ เช่น โรคหลอดอาหารตีบ โรคหลอดอาหารเป็นแผลรุนแรง
- เป็นโรคที่เกี่ยวเนื่องกับกระดูกสันหลังบริเวณคอ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
การตรวจ Echocardiogram เป็นกระบวนการที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่หากมีภาวะข้างต้น ก็อาจทำให้เกิดความเสี่ยงจากการตรวจบางประเภทได้ ดังนี้
- Stress Echocardiogram ส่งผลให้รู้สึกคลื่นไส้ เวียนศีรษะ และอาจมีอาการเจ็บหน้าอกร่วมด้วยระหว่างออกกำลังกาย ทั้งยังมีโอกาสเล็กน้อยที่การทดสอบจะทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือเกิดภาวะหัวใจขาดเลือด
- Transesophageal Echocardiogram อาจทำให้ลำคอระคายเคือง และปวดเล็กน้อยในช่วงไม่กี่ชั่วโมงหลังการตรวจ และแท่งตรวจอาจกระทบกระเทือนภายในลำคอ
ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพ
การตรวจสุขภาพ เป็นการตรวจคัดกรองโรคเบื้องต้น ในผู้ที่ยังไม่มีอาการผิดปกติใดๆ หรือเริ่มพบสัญญาณความผิดปกติเกิดขึ้น เพื่อประเมินความเสี่ยงหรือค้นหาโรคที่อาจยังไม่ปรากฏอาการแน่ชัด เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน เป็นต้น
การพบโรคแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความรุนแรง เพิ่มโอกาสในการรักษา และลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพในระยะยาวได้
เริ่มตรวจสุขภาพได้ตั้งแต่อายุเท่าไร?
สำหรับบุคคลทั่วไปสามารถเริ่มตรวจสุขภาพได้ตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป แต่หากมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น มีภาวะน้ำหนักเกิน เป็นโรคอ้วน บุคคลในครอบครัวมีโรคประจำตัวที่อาจถ่ายทอดทางพันธุกรรม หรือมีอาการผิดปกติใดๆ ในร่างกาย อาจเริ่มตรวจสุขภาพหลังจากอายุ 15 ปีก็ได้เช่นกัน
หมายเหตุ
- โปรแกรมตรวจสุขภาพแต่ละโปรแกรม มีรายการตรวจที่แตกต่างกัน ซึ่งเหมาะกับช่วงวัย เพศ หรือประวัติสุขภาพที่แตกต่างกัน ควรศึกษาข้อมูลโดยละเอียด เพื่อเลือกโปรแกรมตรวจสุขภาพที่เหมาะสมที่สุด
การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง หรือ เอ็กโคคาร์ดีโอแกรม (Echocardiogram) หรือที่นิยมเรียกสั้นๆ ว่า ตรวจเอ็กโค (Echo) เป็นการตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงที่หัวใจและแสดงการเต้นของหัวใจ
กระบวนการตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง แพทย์จะส่งคลื่นเสียงที่ปลอดภัยเข้าไปในทรวงอก และรับเสียงที่สะท้อนออกมาไปแปลเป็นภาพให้เห็นบนจอ ซึ่งจะแสดงถึงรูปร่าง ขนาด และการทำงาน ของกล้ามเนื้อหัวใจและลิ้นหัวใจว่าปกติหรือไม่
ประเภทของการตรวจ Echocardiogram
- การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงผ่านทางผนังหน้าอก (Transthoracic Echocardiogram) เป็นการตรวจที่เป็นมาตรฐาน และจะใช้หัวตรวจเคลื่อนที่ไปทั่วๆ ผนังหน้าอกเพื่อให้เห็นภาพของหัวใจ
- การตรวจคลื่นสะท้อนหัวใจผ่านทางหลอดอาหาร (Transesophageal Echocardiogram) การตรวจนี้จะใส่ท่อขนาดเล็กที่มีหัวตรวจอยู่ภายในเข้าไปทางคอหอยและหลอดอาหาร ทำให้ได้ภาพของหัวใจที่ชัดมากขึ้น โดยเฉพาะผนังด้านหลังของหัวใจ
- การตรวจคลื่นสะท้อนหัวใจระหว่างออกกำลังกาย (Stress Echocardiogram) เป็นการตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงก่อนและหลังจากการเดินสายพานหรือการปั่นจักรยาน ช่วยให้สามารถระบุปัญหาที่เกิดขึ้นกับเส้นเลือดที่เลี้ยงหัวใจได้
โรงพยาบาลและคลินิกอื่น ที่รับ ตรวจสุขภาพ ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ โรงพยาบาลพญาไท 2 ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 1-3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 60 วัน)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่โรงพยาบาลได้โดยตรง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ โรงพยาบาลพญาไท 2 อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th