คอร์สรักษารอยสิวด้วยเลเซอร์ Q-switch และ VIPL ลดรอยแดง รอยดำจากสิว พร้อมปรับผิวให้สม่ำเสมอ 3 ครั้ง ที่ Divine Aesthetic Clinic

การเลเซอร์ผิว (Skin Laser) สามารถแก้ปัญหาผิวพรรณได้หลากหลาย เช่น ลดรอยดำ รอยแผลเป็น ผิวไม่สม่ำเสมอ หลุมสิว และรักษาสิว เป็นต้น

เลเซอร์ที่นำมาใช้รักษาผิวมีหลายแบบ แต่ละแบบจะเหมาะกับการแก้ปัญหาผิวแตกต่างกันไป สามารถรักษาได้เฉพาะจุด และมีผลข้างเคียงน้อยหรืออาจไม่มีเลย

เลเซอร์รักษาสิว
เลเซอร์ที่ใช้รักษาสิวมีหลายชนิด อาจเป็นการรักษาโดยใช้แสง IPL (Intense Pulse Light) หรือใช้เลเซอร์ (Laser) ชนิดต่างๆ ขึ้นอยู่กับลักษณะของสิว

จะเห็นผลหลังทำนานแค่ไหน?
ผลที่ได้หลังทำ ขึ้นอยู่กับชนิดของสิว แต่จะเริ่มเห็นผลดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ และอาจจะเห็นผลได้ชัดเจนที่สุดหลังจากทำ 3-10 ครั้ง

แพ็กเกจนี้ใช้เลเซอร์ Q-switch

เป็นเลเซอร์ Nd:YAG ที่มีประสิทธิภาพสูงในการแก้ไขปัญหาความผิดปกติของเม็ดสีที่ผิว เช่น รอยแดง รอยดำ ผิวคล้ำ ฝ้า กระ และลบรอยสักได้

จุดเด่นของเลเซอร์ Q-switch คือ เป็นการปล่อยคลื่นแสงความเข้มสูงในระยะเวลาสั้น ซึ่งสำหรับ Q-switch Nd:YAG ที่ใช้แสง 2 ความยาวคลื่นร่วมกัน จะทำให้เกิดการทำลายเม็ดสีที่ผิวหนังได้ทั่วใบหน้า ทั้งระดับตื้นและลึก

• เลเซอร์ความยาวคลื่น 532 นาโนเมตร มีผลทำลายเม็ดสีในชั้นตื้น เหมาะกับการลบรอยสักสีแดง ปานแดง กระแดด ฝ้า เนื่องจากเม็ดสีและฮีโมโกลบินสามารถดูดซับแสงที่ความยาวคลื่นนี้ได้ดี
• เลเซอร์ความยาวคลื่น 1,064 นาโนเมตร ส่งผลต่อเม็ดสีในชั้นผิวหนังลึก เหมาะกับเม็ดสีสีดำและสีน้ำเงิน จึงนิยมใช้ในการรักษากระลึก แผลเป็น รอยสัก โดยไม่ทำให้ผิวด้านบนไหม้

เลเซอร์ Q-switch เป็นเลเซอร์ที่มีความปลอดภัย แต่ต้องได้รับการรักษาโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ

แพ็กเกจนี้ใช้ VIPL

VIPL (V-Intense Pulse Light) ได้รับการพัฒนาจาก IPL (Intense Pulsed Light) ให้เหมาะกับสีผิวที่ค่อนข้างเข้มอย่างคนเอเชีย ซึ่งทั้ง IPL และ VIPL เป็นการแก้ปัญหาผิวในลักษณะคล้ายกับการทำเลเซอร์ แต่จะเป็นการใช้คลื่นแสงหลายความยาวคลื่นยิงไปยังผิวหนังบริเวณที่มีปัญหารอยดำ ในขณะที่เลเซอร์ใช้แสงความยาวคลื่นเดียว
เซลล์เม็ดสีในผิวจะดูดซับพลังงานแสงและเปลี่ยนเป็นความร้อน ส่งผลให้เม็ดสีที่เป็นสาเหตุของจุดด่างดำถูกทำลาย ทำให้ผิวหน้าที่หมองคล้ำดูกระจ่างใสขึ้น

VIPL ต่างจากเลเซอร์อย่างไร?
คลื่นแสง VIPL และ IPL จะกระจายตัวเป็นบริเวณกว้างกว่าแสงเลเซอร์ พลังงานจึงต่ำกว่า แต่อ่อนโยนต่อผิวมากกว่า นอกจากนี้ เนื่องจาก IPL เป็นการใช้คลื่นแสงหลายความยาวคลื่น นอกจากลดรอยดำแล้วจึงยังสามารถแก้ปัญหาผิวอื่นๆ ได้ในเวลาเดียวกัน เช่น ริ้วรอยตื้นๆ รูขุมขนกว้าง หน้ามัน สิว การอักเสบและรอยแดงจากสิว เป็นต้น

VIPL ต่างจาก IPL อย่างไร?
ในช่วงแรก IPL ถูกผลิตมาเพื่อใช้กับชาวยุโรป จึงค่อนข้างเหมาะกับผู้ที่มีผิวสีอ่อน หลังจากนั้น VIPL จึงถูกพัฒนาขึ้นโดยมีความยาวคลื่นแสงที่ยาวกว่า IPL และยังมีความเข้มข้นและความร้อนของแสงที่เหมาะสมกับผิวชาวเอเชียมากกว่า

ข้อดี

• เหมาะกับผิวชาวเอเชีย
• ลำแสงของ VIPL จะไม่ทำลายผิวหนังชั้นบนสุด ต่างจากเลเซอร์ที่มีผลกระทบต่อผิวมากกว่า
• ปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดบาดแผล
• ใช้เวลาทำแต่ละครั้งไม่นาน ผลข้างเคียงน้อย สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
• ราคาไม่สูงมาก

หมายเหตุ

• โดยทั่วไปการทำเลเซอร์และ VIPL แก้ไขปัญหาผิวค่อนข้างปลอดภัย แต่อาจมีผลข้างเคียงได้ตามปกติของการทำหัตถการที่ปล่อยคลื่นแสงเข้าสู่ชั้นผิว เช่น ติดเชื้อ อักเสบ ขึ้นอยู่กับการรักษาความสะอาด ความชำนาญของผู้ทำหัตถการ และผิวพรรณของแต่ละบุคคล หากมีข้อกังวลใจควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ