ยา Yohimbe - ข้อมูล ข้อบ่งใช้ ผลข้างเคียง
- ปรึกษาเภสัชกรออนไลน์ได้ทุกเรื่องเกี่ยวกับยา ทั้งชนิดของยา การใช้ยาอย่างเหมาะสม และข้อควรระวังของยา
- เภสัชกรจะถือว่า ประวัติสุขภาพและข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณให้มาเป็นข้อมูลจริง และใช้ข้อมูลนั้นประกอบการให้คำปรึกษาและแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ข้อมูลดังกล่าวจะถูกเผยแพร่ระหว่างคุณกับเภสัชกรในหน้าแชทส่วนตัวเท่านั้น
- HDmall.co.th จะติดต่อร้านขายยาที่ใกล้ที่สุด ให้คุณปรึกษาและใช้บริการจัดส่งยาจากร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตโดยตรง
- HDmall.co.th ไม่ได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์โดยตรง รวมถึงไม่ได้กระทำธุรกรรมใดๆ ทั้งสิ้น ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ทั้งหมดในหน้านี้มีไว้เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงเท่านั้น
- 🤝 สนใจเป็นหนึ่งในร้านขายยาที่ช่วยให้คำปรึกษาผู้ใช้ด้านยาหรือไม่? สมัครและใช้งานฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
รายละเอียด
ข้อมูลภาพรวมของโยฮิมบี
โยฮิมบี (Yohimbe) คือ ชื่อของต้นไม้ไม่ผลัดใบชนิดหนึ่งที่พบได้ในบางพื้นที่ของแอฟริกาตะวันตกและกลาง เปลือกของต้นโยฮิมบีประกอบด้วยสารเคมีที่เรียกว่าโยฮิมไบน์ (yohimbine) ที่สามารถนำไปใช้ทำยาได้ Yohimbine hydrochloride (Aphrodyne, Yocon) คือรูปแบบหนึ่งของโยฮิมไบน์ที่ใช้ผลิตยาทางการแพทย์ใน US
อาหารเสริมโยฮิมบีมักถูกระบุว่าใช้สารสกัดจากเปลือกโยฮิมบีหรือโยฮิมไบน์เป็นสารออกฤทธิ์ (active ingredient) อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์เหล่านี้บางชิ้นอาจไม่ได้ให้ข้อมูลเรื่องปริมาณโยฮิมไบน์ที่ใช้อย่างเถรตรงเสียทีเดียว อีกทั้งอาหารเสริมโยฮิมบีบางประเภทก็ระบุว่าใช้ yohimbine hydrochloride เป็นสารออกฤทธิ์
โยฮิมบีถูกนำไปรับประทานเพื่อกระตุ้นแรงขับเคลื่อนทางเพศ, รักษาภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (erectile dysfunction (ED)), รักษาปัญหาทางเพศที่เกิดจากการใช้ยาต้านซึมเศร้าที่เรียกว่า selective-serotonin reuptake inhibitors (SSRIs), และปัญหาทางเพศทั่วไปทั้งผู้ชายและหญิง อีกทั้งยังมีการใช้โยฮิมบีเพิ่มศักยภาพทางด้านกีฬา, ลดน้ำหนัก, ลดความเหนื่อยล้า, อาการปวดหน้าอก, ความดันโลหิตสูง, ความดันโลหิตต่ำที่เกิดขึ้นขณะยืนขึ้น, อาการปวดประสาทจากเบาหวาน, และสำหรับภาวะซึมเศร้าร่วมกับการใช้ยาอื่น ๆ
โยฮิมบีออกฤทธิ์อย่างไร?
โยฮิมบีประกอบด้วยสารเคมีที่เรียกว่าโยฮิมไบน์ที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและกระแสประสาทไปยังองคชาตหรือช่องคลอด อีกทั้งยังมีการใช้โยฮิมบีในการต้านผลข้างเคียงของยาต้านซึมเศร้าบางประเภท
การใช้และประสิทธิภาพของโยฮิมบี
ภาวะที่ยังคงขาดหลักฐานว่าใช้โยฮิมบีรักษาได้หรือไม่
- ภาวะวิตกกังวล (Anxiety) ยังคงมีหลักฐานเกี่ยวกับประสิทธิผลของโยฮิมไบน์กับการรักษาภาวะวิตกกังวลที่ปนเปกันอยู่ ณ ตอนนี้ งานวิจัยบางชิ้นกล่าวว่าโยฮิมบีไม่ได้ช่วยรักษาภาวะวิตกกังวล แต่บ้างก็กล่าวว่าโยฮิมบีสามารถลดอาการหวาดกลัวที่เกี่ยวข้องกับโรคโฟเบีย (phobias) บางชนิดได้
- ภาวะซึมเศร้า (Depression) งานวิจัยกล่าวว่าการทานโยฮิมไบน์ทุกวันนาน 10 วันไม่อาจลดอาการจากโรคซึมเศร้าได้
- เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (Erectile dysfunction (ED)) มีหลักฐานว่าโยฮิมไบน์หรือสารออกฤทธิ์ของโยฮิมบีสามารถรักษาภาวะ ED ได้ โดยแพทย์สมุนไพรบางท่านกล่าวว่าเปลือกโยฮิมบีนั้นออกฤทธิ์กับภาวะนี้ได้ดีกว่าการใช้เพียงโยฮิมไบน์เพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตามก็ยังคงไม่มีการประเมินผลงานวิจัยดังกล่าวจนทำให้ไม่อาจยืนยันคำกล่าวอ้างนี้ได้
- ศักยภาพการออกกำลังกาย งานวิจัยกล่าวว่าการทานโยฮิมไบน์ทุกวันนาน 21 วันไม่อาจเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกายหรือเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อของนักกีฬาฟุตบอลได้
- หน้ามืด (orthostatic hypotension) งานวิจัยกล่าวว่าการทานโยฮิมไบน์หนึ่งโดสจะเพิ่มระดับความดันโลหิตของผู้ที่มีอาการหน้ามืดเนื่องจากความดันต่ำได้ แต่ก็มีงานวิจัยบางชิ้นที่แย้งคำกล่าวนี้
- ปัญหาทางเพศที่เกิดจากการใช้ยา selective-serotonin reuptake inhibitors (SSRIs) มีหลักฐานจากการศึกษาหลาย ๆ ชิ้นที่กล่าวว่าโยฮิมไบน์สามารถลดปัญหาทางเพศที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยารักษาซึมเศร้าได้ อย่างไรก็ตามสรรพคุณข้อนี้ก็ไม่ได้ถูกระบุไว้กับเปลือกไม้โยฮิมบี
- ปากแห้ง งานวิจัยกล่าวว่าการทานโยฮิมไบน์จะช่วยลดอาการปากแห้งของผู้ที่กำลังใช้ยาต้านซึมเศร้าได้ แต่ผลจากการใช้เปลือกไม้โยฮิมบียังคงไม่ชัดเจน
- เหนื่อยล้า
- ปวดหน้าอก
- ภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน
- ภาวะสุขภาพอื่น ๆ
จำเป็นต้องรวบรวมหลักฐานให้มากขึ้นเพื่อให้ข้อมูลด้านประสิทธิผลของโยฮิมบีเพิ่มเติม
ผลข้างเคียงและความปลอดภัยของโยฮิมบี
การรับประทานโยฮิมบถูกจัดว่าอาจจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากมีรายงานการใช้ว่าเชื่อมโยงกับภาวะหัวใจเต้นเร็วหรือผิดปรกติ, ไตล้มเหลว, ชัก, หัวใจวาย, และอื่น ๆ
สารออกฤทธิ์หลักของโยฮิมบีหรือก็คือโยฮิมไบน์นั้นถูกจัดว่าเป็นยาจำหน่ายหน้าเคาท์เตอร์ในประเทศสหรัฐอเมริกาเหนือ โดยตัวยานี้จัดว่ามีความปลอดภัยเมื่อใช้ในระยะสั้น แต่ก็มักไม่ได้รับการแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญให้ใช้กันเนื่องจากมีผลข้างเคียงร้ายแรงอยู่
เด็กไม่ควรทานโยฮิมบีเนื่องจากความไม่ปลอดภัยเพราะกลุ่มเด็กยังคงมีความอ่อนไหวต่อผลข้างเคียงจากโยฮิมบีอยู่
เมื่อรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม โยฮิมบีและโยฮิมไบน์สามารถทำให้เกิดอาการปวดท้อง, ตื่นเต้น, สั่น, ปัญหาการนอน, กระสับกระส่ายหรือวิตกกังวล, ความดันโลหิตสูง, หัวใจเต้นแรง, วิงเวียน, ปัญหากระเพาะ, น้ำลายไหล, เจ็บปวดโพรงจมูก, ฉุนเฉียว, ปวดศีรษะ, ปัสสาวะบ่อย, ท้องอืด, ผื่นขึ้น, คลื่นไส้, และอาเจียน
การรับประทานโยฮิมบีในปริมาณสูงอาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงได้อย่างหายใจลำบาก, อัมพาต, ความดันโลหิตต่ำมาก, ปัญหาหัวใจ, และเสียชีวิต มีรายงานผู้ใช้โยฮิมไบน์ในปริมาณสำหรับหนึ่งวันว่าประสบกับปฏิกิริยาแพ้อย่างมีไข้ขึ้น, หนาวสั่น, เซื่องซึม, คัน, ผิวหนังแตกสะเก็ด, ไตล้มเหลว, และมีอาการคล้ายกับโรคพุ่มพวง
คำเตือนและข้อควรระวังเป็นพิเศษ:
สตรีมีครรภ์และแม่ที่ต้องให้นมบุตร: โยฮิมบีถูกจัดว่าค่อนข้างไม่ปลอดภัยสำหรับคนกลุ่มนี้เนื่องจากโยฮิมบีอาจส่งผลกับผนังช่องคลอดและเป็นอันตรายกับครรภ์ได้ อีกทั้งยังเป็นยาที่เป็นพิษต่อเด็กในครรภ์ ดังนั้นจึงไม่ควรใช้โยฮิมบีขณะที่คุณกำลังตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
ภาวะเลือดออกผิดปรกติ: การทานโยฮิมบีอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการตกเลือดในผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปรกติได้
จิตเภท (Schizophrenia): คนกลุ่มนี้ควรใช้โยฮิมบีอย่างระมัดระวังเนื่องจากอาจทำให้ผู้ป่วยจิตเภทมีอาการกำเริบขึ้นได้
ปัญหาต่อมลูกหมาก: คนกลุ่มนี้ควรใช้โยฮิมบีอย่างระมัดระวังเนื่องจากอาจทำให้อาการของ BPH (benign prostatic hyperplasia) ทรุดหนักขึ้นได้
ภาวะผิดปรกติทางจิตหลังประสบเหตุรุนแรง (Post-traumatic stress disorder (PTSD)): คนกลุ่มนี้ไม่ควรใช้โยฮิมบีเนื่องจากมีรายงานว่าผู้ป่วย PTSD สี่รายมีอาการจากโรคนี้ทรุดหนักขึ้นหลังใช้โยฮิมบี
โรคตับ: คนกลุ่มนี้ไม่ควรใช้โยฮิมบีเนื่องจากโรคตับอาจเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการกับโยฮิมบีของร่างกายได้
โรคไต: คนกลุ่มนี้ไม่ควรใช้โยฮิมบีเนื่องจากมีข้อกังวลว่าโยฮิมบีอาจชะลอหรือยับยั้งการไหลของปัสสาวะได้
ภาวะความดันโลหิตสูงหรือต่ำ: คนกลุ่มนี้ไม่ควรใช้โยฮิมบีเนื่องจากการใช้ในปริมาณเพียงเล็กน้อยก็อาจเพิ่มความดันขึ้นได้ และการใช้ในปริมาณมากก็เป็นอันตรายต่อผู้ที่มีปัญหาความดันโลหิตต่ำ
อาการปวดหน้าหรือโรคหัวใจ: คนกลุ่มนี้ไม่ควรใช้โยฮิมบีเนื่องจากโยฮิมบีอาจก่ออันตรายร้ายแรงแก่หัวใจได้
ภาวะวิตกกังวล: คนกลุ่มนี้ไม่ควรใช้โยฮิมบีเนื่องจากอาจทำให้ภาวะวิตกกังวลทรุดลงได้
ภาวะซึมเศร้า: คนกลุ่มนี้ไม่ควรใช้โยฮิมบีเนื่องจากอาจทำให้ภาวะซึมเศร้ามีอาการมาเนียในผู้ป่วยโรคอารมณ์สองขั้วหรือทำให้เกิดความคิดอยากฆ่าตัวตายหนักขึ้นได้
เบาหวาน: คนกลุ่มนี้ไม่ควรใช้โยฮิมบีเนื่องจากโยฮิมบีอาจรบกวนอินซูลินและยาสำหรับโรคเบาหวานอื่น ๆ และทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดตกลงได้
การผ่าตัด: โยฮิมบีอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเลือดออกระหว่างหรือหลังจากผ่าตัดได้ ดังนั้นควรหยุดใช้โยฮิมบีก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
การใช้โยฮิมบีร่วมกับยาชนิดอื่น
ห้ามใช้โยฮิมบีร่วมกับยาเหล่านี้
- ยาสำหรับภาวะซึมเศร้า (MAOIs) กับโยฮิมบี
โยฮิมบีประกอบด้วยสารเคมีที่ส่งผลต่อร่างกายเรียกว่าโยฮิมไบน์ โดยโยฮิมไบน์อาจส่งผลต่อการตอบสนองของร่างกายต่อยาซึมเศร้าบางชนิดที่เรียกว่า MAOIs ดังนั้นการทานโยฮิมบีร่วมกับ MAOIs อาจเพิ่มฤทธิ์และผลข้างเคียงของทั้งโยฮิมบีและ MAOIs ขึ้น ตัวอย่างยาสำหรับภาวะซึมเศร้ามีทั้ง phenelzine (Nardil), tranylcypromine (Parnate), และอื่น ๆ
ใช้โยฮิมบีร่วมกับยาเหล่านี้ด้วยความระมัดระวัง
- Clonidine (Catapres) กับโยฮิมบี
Clonidine (Catapres) ถูกใช้เพื่อลดความดันโลหิตลง แต่โยฮิมบีอาจเพิ่มความดันโลหิตขึ้น ดังนั้นการทานโยฮิมบีร่วมกับ Clonidine (Catapres) อาจลดประสิทธิภาพของ Clonidine (Catapres) ลง
- Guanabenz (Wytensin) กับโยฮิมบี
โยฮิมไบน์สามารถลดลดประสิทธิภาพของ guanabenz (Wytensin)ลง
- ยาสำหรับภาวะซึมเศร้า (Tricyclic antidepressants) กับโยฮิมบี
โยฮิมบีส่งผลต่อหัวใจ ยาสำหรับซึมเศร้าบางตัวที่เรียกว่า tricyclic antidepressants ก็สามารถส่งผลต่อหัวใจเช่นกัน ดังนั้นการทานโยฮิมบีร่วมกับยาเหล่านี้อาจทำให้เกิดปัญหาหัวใจขึ้น จึงไม่ควรใช้โยฮิมบีหากคุณกำลังใช้ยาเหล่านี้อยู่ ตัวอย่างยาต้านซึมเศร้า tricyclic antidepressants มีทั้ง amitriptyline (Elavil), imipramine (Tofranil), และอื่น ๆ
- ยาสำหรับความดันโลหิตสูง (Antihypertensive drugs) กับโยฮิมบี
โยฮิมบีอาจเพิ่มความดันโลหิตขึ้นได้ ดังนั้นการทานโยฮิมบีร่วมกับยาสำหรับความดันโลหิตสูงบางตัวอาจลดประสิทธิภาพของยาที่ใช้ลง ตัวอย่างยาสำหรับความดันโลหิตสูงมีทั้ง captopril (Capoten), enalapril (Vasotec), losartan (Cozaar), valsartan (Diovan), diltiazem (Cardizem), hydrochlorothiazide' target='_blank'>amlodipine (Norvasc), hydrochlorothiazide (HydroDiuril), furosemide (Lasix), และอื่น ๆ มากมาย
- Naloxone (Narcan) กับโยฮิมบี
โยฮิมบีประกอบด้วยสารเคมีที่ส่งผลต่อสมองที่เรียกว่าโยฮิมไบน์ ยา Naloxone (Narcan) เองก็ส่งผลต่อสมองเช่นกัน ดังนั้นการทานโยฮิมบีร่วมกับ Naloxone (Narcan) อาจเพิ่มโอกาสของผลข้างเคียงต่าง ๆ เช่นภาวะวิตกกังวล, ตื่นเต้น, ตัวสั่น, และร้อนวูบวาบ
- Phenothiazines กับโยฮิมบี
โยฮิมบีประกอบด้วยสารเคมีโยฮิมไบน์ ซึ่งยาบางชนิดที่เรียกว่า phenothiazines จะออกฤทธิ์คล้ายกับโยฮิมไบน์ ดังนั้นการทานโยฮิมบีร่วมกับยาดังกล่าวอาจเพิ่มฤทธิ์และผลข้างเคียงของ phenothiazines ขึ้น ตัวอย่างยา phenothiazines มีทั้ง chlorpromazine (Thorazine), fluphenazine (Prolixin), trifluoperazine (Stelazine), thioridazine (Mellaril), และอื่น ๆ
- ยากระตุ้น (Stimulant drugs) กับโยฮิมบี
ยากระตุ้นจะเร่งความเร็วของระบบประสาขึ้นจนทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและเร่งการเต้นของหัวใจขึ้น โยฮิมบีเองก็อาจเร่งระบบประสาทเช่นเดียวกัน ดังนั้นการทานโยฮิมบีร่วมกับยากระตุ้นอาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงอย่างหัวใจเต้นเร็วขึ้นกับความดันโลหิตสูงได้ ควรเลี่ยงการใช้ยากระตุ้นร่วมกับโยฮิมบี ตัวอย่างยากระตุ้นมีทั้ง diethylpropion (Tenuate), epinephrine, phentermine (Ionamin), pseudoephedrine (Sudafed), และอื่น ๆ มากมาย
ปริมาณยาที่ใช้
ปริมาณหรือขนาดยาที่ใช้ดังต่อไปนี้ได้ถูกศึกษาจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
รับประทาน:
- สำหรับประสิทธิภาพทางเพศ: โยฮิมไบน์ 15-30 mg ต่อวัน หรือโยฮิมไบน์ 100 mg ทุกวัน อย่างไรก็ตามการใช้ในปริมาณสูงก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงมากขึ้นจนขั้นทำให้เสียชีวิตได้