จัดฟันลวด

จัดฟันลวดรูปแบบการจัดฟันที่นิยมที่สุด

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีด้านทันตกรรมพัฒนาไปไกลมากทำให้มีรูปแบบการจัดฟันหลากหลายแบบให้คุณได้เลือกการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพฟันของคุณ แต่ถ้าหากจะพูดถึงการจัดฟันที่ทุกคนนึกถึงเครื่องมือเหล็ก ที่มัดด้วยยางสีสันสดใส สิ่งนั้นเรียกว่า “Metal Braces” เป็นเครื่องมือจัดฟันยอดนิยม ใช้กันมาอย่างยาวนาน ผู้คนนิยมใช้กันมากที่สุด ซึ่งเราอาจเรียกมันในภาษาไทยว่า เครื่องมือจัดฟันลวด หรือเครื่องมือจัดฟันแบบโลหะ ในการจัดฟันไม่ว่าจะฟันเหยิน เก ซ้อน หรือฟันเรียงไม่สวยไม่เป็นระเบียบการจัดฟันลวดก็สามารถแก้ไขได้ นอกจากนี้การจัดฟันลวดยังมี "ยาง" เป็นอุปกรณ์ที่ใช้รัดแบร็กเกตติดกับลวด ซึ่งต้องมีการเปลี่ยนยางชุดใหม่ สีใหม่ ทุกครั้งที่พบทันตแพทย์ เป็นอย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยสนุกไปกับการเลือกสียางจัดฟัน

ในการจัดฟันลวดจะมีส่วนประกอบหลักของเครื่องมือโลหะอยู่ 3 อย่าง

แบร็กเก็ต (Brackets) ลักษณะเป็นแผ่นโลหะขนาดเล็กแบร็กเก็ตมีหน้าที่กำหนดตำแหน่งของฟัน
ลวด (Archwires) ทำหน้าที่เชื่อมต่อแบร็กเก็ตบนฟันแต่ละซี่เข้าด้วยกัน ในการจัดฟันลวดมีหลายขนาด ซึ่งจะถูกเปลี่ยน ตามแผนการรักษา

ตัวยึด (Ligatures) หรือที่เราเรียกว่าอย่างจัดฟันที่มีหลากหลายสี ทำหน้าที่มัดแบร็กเก็ตเข้ากับลวด แรงจากลวดจะถูกส่งผ่านตัวยึดไปยังแบร็กเก็ต เพื่อเคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม

โดยอุปกรณ์ทั้ง 3 อย่างนี้จะช่วยกันทำหน้าที่ไปพร้อมๆกัน ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้มันจะค่อยๆ เคลื่อนย้ายตำแหน่งฟันไปยังจุดที่ทันตแพทย์ต้องการตามที่วิเคราะห์การรักษา โดยผู้ป่วยจะต้องไปเปลี่ยนยางเป็นระยะ (ทุก 4-5 สัปดาห์) เพื่อดึงให้ฟันขยับใกล้ตำแหน่งต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ตำแหน่งที่ต้องการ

ไม่มีเครื่องมือจัดฟันไหน สมบูรณ์แบบสำหรับทุกคน

การจัดฟันทุกรูปแบบมีทั้งข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป ไม่มีเครื่องมือจัดฟัน ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ทุกสิ่งย่อมมีข้อดีและข้อเสีย โดยหนึ่งในข้อเสียของการจัดฟันลวด จะมีเครื่องมือโลหะ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ติดแน่นบนผิวฟัน ถอดเข้าออกไม่ได้ ทำให้เคี้ยวอาหารบางชนิดลำบาก อย่างเช่น น้ำแข็ง เนื้อสัตว์ที่ติดกระดูก หรือมีขนาดชิ้นที่ใหญ่ ต้องคอยระวัง เพราะเครื่องมืออาจหลุดหรือเสียหายได้ แต่ในข้อเสียก็มีบางมุมที่กลายเป็นข้อดี เพราะ การจัดฟันลวด เป็นการรักษาโดยติดเครื่องมือที่ใช่ระยะเวลานาน ไม่ต้องถอดออก แต่การจัดฟันแบบใส invisalign ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ป่วย เพราะเป็นเครื่องมือที่สามารถถอดออกได้ หากผู้ป่วยไม่ให้ความร่วมมือการจัดฟันก็จะไม่เห็นผล ทำให้ผู้ป่วยบางรายอาจจะต้องทำการรักษาใหม่อีกรอบ

ข้อสำคัญควรคำนึงถึง คือการจัดฟันลวดมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาสภาพฟันผิดปกติ หลังจัดฟันเสร็จ บางคนอาจดูมีใบหน้าเรียวขึ้น แต่ใบหน้าเรียวนี้ไม่ใช่ผลการรักษาที่ยืนยันได้จากการจัดฟัน เพียงแต่มีความเป็นไปได้เท่านั้น

จัดฟันลวดต้องใช่เวลานานเท่าไหร่

การจัดฟันทุกรูปแบบ คือการรักษาฟันต่อเนื่องที่ยาวนาน ต้องใช้เวลา ระเบียบวินัย และที่สำคัญไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้…เพราะสภาพฟันแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล บางคนฟันห่างเพียงเล็กน้อยดัดไม่นานก็สังเกตเห็นได้ เพราะสภาพฟันผู้ป่วยแต่ละคนแตกต่างกัน แต่สิ่งพอจะตอบได้คือ โดยเฉลี่ยแล้วฟันจะเคลื่อนที่ประมาณ 1 มิลลิเมตรต่อเดือน และระยะเวลารวมในการจัดฟันจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา การทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์

อยากจัดฟันลวดต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง

ในการจัดฟันต้องถามตัวเองว่าพร้อมไหมที่จะจัดฟัน เพราะ การจัดฟันลวดต้องใช้ระยะเวลานาน ต้องพบทันตแพทย์อยู่ตลอดในทุก ๆ เดือน หลังจากนั้นทันตแพทย์จะเริ่มจากการตรวจวินิจฉัยว่า ความผิดปกติเหล่านั้นจะต้องแก้ไขด้วยการจัดฟันหรือไม่ เมื่อวินิจฉัยเสร็จว่าต้องรักษาด้วยการจัดฟัน ทันตแพทย์จะนัดมาเอ็กซเรย์ฟัน พิมพ์แบบจำลองฟันเพื่อวิเคราะห์การรักษา และเคลียร์ช่องปากให้สะอาดก่อนการติดเครื่องมือจัดฟัน การเคลียร์ช่องปาก เช่น การอุดฟัน การขูดหินปูน การผ่าฟันคุด การรักษารากฟัน เป็นต้น หลังจากใส่เครื่องมือจัดฟันแล้ว จะต้องใช้ระยะเวลาในการจัดฟัน 2-3 ปีครึ่ง ขึ้นอยู่กับความผิดปกติของฟันผู้ป่วยในแต่ละเคส

แพ็กเกจจัดฟันลวดกับ HDmall

นอกจากดูทันตแพทย์แล้วยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่คุณต้องศึกษาไม่ว่าจะเป็นค่าใช่จ่าย สถานที่ เงื่อนไขการรักษาและการให้บริการ เพราะปัจจุบันมีโรงพยาบาลและคลินิกทันตกรรมเป็นจำนวนมากที่ให้บริการจัดฟัน แต่จะดีแค่ไหนถ้ามีช่วยรวบรวมข้อมูลมาไว้ให้คุณแล้ว เพราะ HDmall ได้ทำบทความ ตารางเปรียบเทียบข้อดีข้อจำกัดของการจัดฟันวิธีแบบต่างๆ ให้คุณได้ดูข้อมูลประกอบการตัดสินใจ พร้อมจองได้เลยในที่เดียว อีกทั้ง HDmall ยังเตรียมแพ็กเกจโปรโมชั่นส่วนลดต่างๆ สูงสุดถึง 12% หากจองแพ็กเกจจัดฟันลวดกับ HDmall สามารถผ่อนชำระได้ 0% นาน 10 เดือน รับประกันความคุ้มค่า ราคาสบายกระเป๋า เพราะฉะนั้นแล้วเพื่อสุขภาพฟันที่ดีและแข็งแรงของคุณ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ HDmall ได้เลย