PRP เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผิวที่เสื่อมสภาพตามอายุค่อยๆ ฟื้นฟู กระตุ้นการเกิดคอลลาเจนในผิว หรือช่วยกระตุ้นรากผมให้งอก ลดผมหลุดร่วง
รายละเอียด
รายละเอียด
รายละเอียดราคา
ราคาครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
- ค่าฉีด PRP Rejuvenation ซ่อมแซมผิวหน้าหรือรักษาผมร่วงผมบางด้วยเกล็ดเลือดของตัวเอง (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง) 1 ครั้ง
- ค่าแพทย์
- ค่าบริการโรงพยาบาล
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 30-40 นาที
- แพทย์จะให้คำปรึกษาและคำแนะนำก่อนเริ่มกระบวนการฉีด PRP
- เจาะเลือดบริเวณแขนผู้รับบริการ ประมาณ 20-60 มิลลิลิตร เติมสารต้านการแข็งตัวของเลือด
- นำเลือดไปปั่นแยกด้วยเครื่องเหวี่ยงสาร (Centrifuge)
- ดึงเฉพาะเกล็ดเลือดเข้มข้นหรือ PRP เพื่อเตรียมการฉีด
- ทำความสะอาดผิวหน้าหรือหนังศีรษะ
- ฉีด PRP บริเวณที่ต้องการกระตุ้น
- หลังจากฉีด PRP จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ภายใน 1-3 เดือน โดยควรฉีดต่อเนื่องประมาณ 1-2 เดือนควบคู่กับการรักษาด้วยยาและรับประทานอาหารเสริม
- ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล สำหรับการฉีดผม หากเซลล์รากผมหยุดการทำงานมานานหรือตายสนิท แพทย์อาจต้องพิจารณาวิธีรักษาอื่นร่วมด้วย
- นอกจากผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละคนแล้ว ยังขึ้นอยู่กับว่าเกล็ดเลือดหลั่งสาร GF ได้มากน้อยแค่ไหนด้วย โดยยิ่งหลั่งสารมาก ก็ยิ่งกระตุ้นให้รากผมสร้างเส้นผมใหม่ได้มาก ทำให้บางโรงพยาบาลหรือคลินิก มีการเติมสารบางชนิด หรือเพิ่มกระบวนการต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้เกล็ดเลือดหลั่ง GF มากขึ้น ซึ่งเป็นเทคนิคเฉพาะของสถานพยาบาลแต่ละแห่ง
- สงวนสิทธิ์เฉพาะชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในไทย (Expat) โดยชาวต่างชาติต้องใช้พาสปอร์ตเพื่อยืนยันตัวตน
- กรณีซื้อผ่าน HDmall.co.th ในวันที่เข้ารับบริการลูกค้าจะได้ใบแจ้งหนี้ (Invoice) เท่านั้นไม่สามารถออกใบเสร็จได้
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ห้ามรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด 1 สัปดาห์ก่อนทำ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค พอนสแตน วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย โสม St. John's wort น้ำมันกระเทียม เพราะมีผลต่อยาต้านการแข็งตัวของเลือด (ควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาก่อนหยุดยา)
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ดื่มน้ำให้มากๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดมีความข้นหนืด
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
การดูแลหลังรับบริการ
- หลีกเลี่ยงการขยี้ นวด เกาศีรษะอย่างรุนแรง หากสระผมควรใช้ผ้าเช็ดผมเบาๆ
- ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมสูตรอ่อนโยนประมาณ 5-7 วัน
- มาฉีด PRP ซ้ำ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งความถี่และจำนวนครั้งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
ก่อนตัดสินใจ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
ข้อห้ามสำหรับการฉีด PRP
- สตรีมีครรภ์
- มีการอักเสบ ติดเชื้อ หรือเป็นสิวบริเวณที่จะฉีด
- เป็นโรคผิวหนังบริเวณที่จะทำ เช่น ผื่นแพ้ ผื่นกุหลาบ สะเก็ดเงิน มะเร็งผิวหนัง
- ผู้ที่เกิดแผลเป็นง่าย
- ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ เชื้อเอชไอวี
- ผู้ที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคตับ มะเร็งเม็ดเลือดทุกชนิด
- เคยมีปัญหาเลือดหยุดยากหรือต้องรับประทานยาละลายลิ่มเลือด
- มีการทำเลเซอร์ภายใน 12 เดือน หรือผ่าตัดภายใน 6 เดือน
- มีการใช้ยารักษาสิวที่เป็นอนุพันธ์วิตามินเอ เช่น Isotretrinoin
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากมีโรคประจำตัวหรือกำลังรับประทานยาหรืออาหารเสริมอยู่
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- อาจมีอาการฟกช้ำ เกิดการอักเสบ บวม แดง หลังจากการฉีด ซึ่งสามารถหายได้เองภายในไม่กี่วัน
- อาจเกิดการติดเชื้อหรือเกิดแผลเป็นหลังทำ ซึ่งโอกาสเกิดค่อนข้างน้อย
ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการ
การฉีด PRP สำหรับผิวหน้า
พีอาร์พี (PRP หรือ Platelet-Rich Plasma)⠀คือพลาสมาที่อุดมไปด้วยเกล็ดเลือด ได้จากการนำเลือดจำนวนเล็กน้อยมาผ่านกระบวนการให้ได้ส่วนของพลาสมาที่มีความเข้มข้นของเกล็ดเลือดและสารโปรตีนอื่น ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ตามธรรมชาติ
การแพทย์ในปัจจุบันจึงมีการนำ PRP มาฉีดเพื่อช่วยรักษาและฟื้นฟูเซลล์และเนื้อเยื่อหลายชนิด รวมถึงการฉีดเพื่อฟื้นฟูผิวด้วย
การฉีดผิวด้วย PRP มีประโยชน์อย่างไร?
ในแง่ของการเสริมความงาม เกล็ดเลือดและส่วนประกอบอื่นๆ ใน PRP เช่น โกรท์แฟกเตอร์ (Growth Factor) จะช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าดังต่อไปนี้
- ช่วยสร้างเซลล์ คอลลาเจน และอิลาสตินในชั้นผิว รวมถึงซ่อมแซมเซลล์ผิวเดิม ทำให้ผิวโดยรวมได้รับการฟื้นฟู
- ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอย รอยสิว หลุมสิว จุดด่างดำ รอยแผลเป็น หรือปัญหาผิวเสียจากแดด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ผิวดูมีอายุ
- ทำให้สุขภาพผิวหน้าดีขึ้น ดูใสและอ่อนวัยกว่าเดิม
ขณะฉีดเจ็บหรือไม่? หลังฉีดต้องพักฟื้นนานแค่ไหน?
การฉีด PRP บนผิวหน้าจะรู้สึกเจ็บน้อยมาก เนื่องจากเข็มที่ใช้มีขนาดเล็กเป็นพิเศษ (microneedle) ทำให้ระยะเวลาพักฟื้นค่อนข้างต่ำหรืออาจไม่ต้องพักฟื้น
อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการหลีกเลี่ยงแสงแดด และงดการบีบ คลึง หรือนวดแรงๆ หลังทำ
ปลอดภัยหรือไม่?
พลาสมา หรือ PRP ที่นำมาฉีดมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นส่วนที่ได้มาจากเลือดของตัวเอง แต่ควรมีกระบวนการทำ PRP ที่เหมาะสมและปลอดเชื้อ ดังนั้นการเลือกสถานพยาบาลและแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจึงมีความสำคัญ
หมายเหตุ
- การฉีด PRP ควรทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ และควรปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยก่อนตัดสินใจ
- สาร PRP ที่ใช้ฉีดได้มาจากเลือดของตัวเอง ดังนั้นโอกาสแพ้หรือมีปัญหาแทรกซ้อนจึงน้อย อย่างไรก็ตามควรเลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกที่สะอาดและได้มาตรฐาน เพื่อลดโอกาสเสี่ยงดังกล่าว
- ผลลัพธ์ที่ได้อาจเห็นชัดเจนหลังทำหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน ขึ้นกับความรุนแรงของปัญหาผิวและความสมบูรณ์ของเลือดในแต่ละคน ซึ่งโดยทั่วไปต้องมีการฉีดกระตุ้นอีก 1-2 ครั้ง หรือมากกว่านั้น สามารถทำความเข้าใจเพิ่มเติมได้กับแพทย์ผู้ทำการรักษา
การฉีด PRP รักษาผมร่วง
PRP หรือ Platelet-Rich Plasma⠀คือพลาสมาที่อุดมไปด้วยเกล็ดเลือด ได้จากการนำเลือดจำนวนเล็กน้อยมาผ่านกระบวนการให้ได้ส่วนของพลาสมาที่มีความเข้มข้นของเกล็ดเลือดและสารโปรตีนอื่น ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการสร้างและซ่อมแซมเซลล์ตามธรรมชาติ
การแพทย์ในปัจจุบันจึงมีการนำ PRP มาฉีดเพื่อช่วยรักษาและฟื้นฟูเซลล์และเนื้อเยื่อหลายชนิด รวมถึงการฉีดเพื่อแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง
การฉีดหนังศีรษะด้วย PRP แก้ปัญหาผมร่วงได้อย่างไร?
PRP สามารถช่วยลดผมหลุดร่วงได้ทั้งในชายและหญิง โดยเกล็ดเลือดและส่วนประกอบอื่นๆ ใน PRP เช่น โกรทแฟกเตอร์ (Growth Factor) ที่มีคุณสมบัติช่วยสร้างและฟื้นฟูเซลล์ จะกระตุ้นให้เซลล์รากผมสร้างเส้นผมเองตามธรรมชาติได้ดียิ่งขึ้น
จากการศึกษาพบว่า PRP อาจช่วยแก้ปัญหาผมร่วงหรือผมบางได้ จากคุณสมบัติต่อไปนี้
- ทำให้รากผมแข็งแรง ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม
- กระตุ้นการเจริญของเส้นผมที่เซลล์รากผม ช่วยทำให้เส้นผมมีลักษณะที่หนาขึ้น
- เพิ่มจำนวนเซลล์รากผม ช่วยลดปัญหาผมบาง
ขณะฉีดเจ็บหรือไม่? หลังฉีดต้องพักฟื้นนานแค่ไหน?
การฉีด PRP บนหนังศีรษะจะไม่รู้สึกเจ็บ เนื่องจากมีการใช้ยาชา และเข็มที่ใช้มีขนาดเล็กเป็นพิเศษ (microneedle) ระยะเวลาพักฟื้นจึงค่อนข้างต่ำหรืออาจไม่ต้องพักฟื้น อย่างไรก็ตามควรปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการทำอย่างเคร่งครัด
ปลอดภัยหรือไม่?
พลาสมา หรือ PRP ที่นำมาฉีดมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นส่วนที่ได้มาจากเลือดของตัวเอง แต่ควรมีกระบวนการทำ PRP ที่เหมาะสมและปลอดเชื้อ ดังนั้นการเลือกสถานพยาบาลและแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจึงมีความสำคัญ
เมื่อไรจึงจะเห็นผล?
หลังการฉีดจะไม่เห็นผลทันที เพราะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูเซลล์และสร้างเส้นผมใหม่ นอกจากนี้การฉีด PRP เพื่อรักษาปัญหาผมร่วงผมบางจำเป็นต้องมีการฉีดมากกว่า 1 ครั้ง ซึ่งสามารถทำความเข้าใจเพิ่มเติมได้กับแพทย์ผู้ทำการรักษา
หมายเหตุ
- การฉีด PRP ควรทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ และควรปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยก่อนตัดสินใจ
- สาร PRP ที่ใช้ฉีดได้มาจากเลือดของตัวเอง ดังนั้นโอกาสแพ้หรือมีปัญหาแทรกซ้อนจึงน้อย อย่างไรก็ตามควรเลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกที่สะอาดและได้มาตรฐาน เพื่อลดโอกาสเสี่ยงดังกล่าว
- จากการศึกษาพบว่าผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่แน่นอน ขึ้นกับชนิดหรือสาเหตุของปัญหา ความรุนแรงของอาการ และความสมบูรณ์ของเลือดในแต่ละคน
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ โรงพยาบาลสหวิทยาการมะลิ ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30-60 วัน ตามที่ระบุในคูปอง)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่โรงพยาบาลได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ โรงพยาบาลสหวิทยาการมะลิ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th