หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่ว่าจะทำ HIFU หรือฉีดสารเติมเต็มต่าง ๆ แล้ว ใบหน้าก็ยังหย่อนคล้อย ไม่กระชับเสียที การผ่าตัดดึงหน้าอาจเป็นคำตอบของคุณ!
เลือกได้ 1 ส่วน ส่วนบน ส่วนกลาง หรือส่วนล่าง
รายละเอียด
รายละเอียด
รายละเอียดราคา ผ่าตัดดึงหน้า
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าผ่าตัดดึงหน้า 1 ส่วน เลือกบริเวณบน กลาง ล่าง
- ค่ายารับประทานตามอาการ ยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวดฆ่าเชื้อ ยาชาแบบฉีด ยาชาแบบทา
หมายเหตุ
- ราคานี้ยังไม่รวมค่าตรวจเลือด 1,000 บาท
- ราคานี้เป็นราคาต่อ 1 ส่วนที่ทำ
- กรณีที่ทำหลายส่วน ของแถมจะบวกเพิ่มตามจำนวนจุดที่ทำ
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ ผ่าตัดดึงหน้าและทำ HIFU
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 2-4 ชั่วโมง
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- พบแพทย์ก่อนรับบริการ
- เลือกได้ 1 ส่วน ดังนี้
- บริเวณใบหน้าส่วนบน เช่น บริเวณหน้าผาก คิ้ว หรือหางตา
- บริเวณใบหน้าส่วนกลาง เช่น บริเวณใบหน้าหย่อนคล้อย มีปัญหาแก้มห้อย แก้มไม่เท่ากัน
- บริเวณใบหน้าส่วนล่าง เช่น บริเวณหลังหู (กรอบหน้าและลำคอ)
- หัตถการนี้ทำโดยแพทย์ โดยมีผู้ชำนาญการและพยาบาลเป็นผู้ช่วย
- แพทย์จะนัดมาตัดไหมภายใน 7-10 วัน หลังรับบริการ
- เทคนิค B.B.I เป็นเทคนิคเฉพาะของคุณหมอบุ้ง ที่เป็นเทคนิคของการเย็บแผลและซ่อนให้เห็นรอยแผลหรือให้เกิดรอยช้ำน้อยที่สุด
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- งดอาหารและเครื่องดื่มก่อนรับบริการอย่างน้อย 8 ชั่วโมง สามารถดื่มน้ำเปล่าได้
- งดรับประทานยาที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนรับบริการ
- งดรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการบวมช้ำของแผล เช่น วิตามินอี วิตามินเอ น้ำมันตับปลา เป็นต้น ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนรับบริการ
- งดสูบบุหรี่ 1 สัปดาห์ก่อนรับบริการ
ก่อนตัดสินใจ
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
- ผลลัพธ์ของการเสริมความงามขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพบอาการผิดปกติหลังรับบริการควรปรึกษาแพทย์
- การผ่าตัดดึงหน้า ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด และวางแผนการรักษาให้ตรงกับความต้องการของผู้เข้ารับบริการ
- ควรสอบถามแพทย์เกี่ยวกับการงดรับประทานยา วิตามิน อาหารเสริม หรือเครื่องดื่มที่อาจส่งผลกระทบต่อการผ่าตัด
ข้อห้ามสำหรับการผ่าตัดดึงหน้า
- สตรีตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- ใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดผิดปกติต่างๆ เช่น เส้นเลือดตีบ
- มีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- ติดเชื้อเอชไอวี (HIV)
- มีแผลติดเชื้อ ควรรักษาให้หายก่อน
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- ผู้ที่มีผิวหนังบริเวณใบหน้าหย่อนคล้อย
- ผู้ที่มีปัญหาร่องน้ำหมาก หรือริ้วรอยบริเวณมุมปากลึก
- ผู้ที่เข้ารับการฉีดสารเติมเต็ม แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยได้
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ความเสี่ยงทั่วไปจากการผ่าตัด เช่น มีเลือดออก เกิดการติดเชื้อ แพ้ยาชา หรือยาสลบที่ใช้
- มีอาการบวม ชา ปวดอย่างต่อเนื่อง
- มีรอยแผลเป็น
- ผมร่วงชั่วคราว หรือถาวรบริเวณรอยผ่าตัด
- เส้นประสาทบริเวณใบหน้าได้รับความเสียหาย
- อาจต้องมีการผ่าตัดแก้ไขเพิ่มในภายหลัง เนื่องจากไม่ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ
ข้อมูลทั่วไป
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการผ่าตัดดึงหน้า
การผ่าตัดดึงหน้า เป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาผิวหนังบริเวณใบหน้าที่หย่อนคล้อยให้กลับสู่ตำแหน่งเดิม ช่วยให้ใบหน้ายกกระชับขึ้น และลดความเด่นชัดของความหย่อนคล้อยต่างๆ
การผ่าตัดดึงหน้าสามารถเลือกทำเฉพาะจุด เช่น ดึงบริเวณขมับและแก้มที่หย่อนคล้อยให้ยกขึ้น หรือผ่าตัดดึงหน้าทั้งหมด ทั้งบริเวณใบหน้า หน้าผาก คิ้ว ขมับ และคอ ในผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมากก็ได้
ผลลัพธ์ของการผ่าตัดดึงหน้า อยู่ได้นานเท่าไหร่?
ผลลัพธ์ของการผ่าตัดดึงหน้าจะอยู่ได้นานประมาณ 5 ปีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวหน้าของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม เมื่อผิวหน้ากลับมาหย่อนคล้อย ผู้ที่เคยเข้ารับการผ่าตัดดึงหน้าก็สามารถพบแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิว และเข้ารับการผ่าตัดแก้ไขดึงหน้าอีกครั้งได้
การผ่าตัดดึงหน้าเห็นแผลเป็นหรือไม่?
วิธีการผ่าตัดดึงหน้า แพทย์จะเปิดแผลเหนือหูบริเวณขมับ ลากผ่านผิวหนังหลังแนวผมลงมาที่หน้าใบหู ไปตามขอบหูด้านหน้าลงไปทางติ่งหู แล้วอ้อมติ่งหูไปทางด้านหลัง จากนั้นจะตัดเข้าไปในแนวเส้นผมอีกที ดังนั้นแผลส่วนใหญ่จะถูกซ่อนเอาไว้ตามแนวเส้นผม
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกจะเห็นแผลบริเวณขอบหูด้านหน้า แต่หลังจากแผลหายสนิทแล้วจะค่อยๆ ลดเลือนไป ทำให้มองเห็นไม่ค่อยชัด
หมายเหตุ
- ควรทำกับศัลยแพทย์ที่ชำนาญการและมีประสบการณ์ เพื่อความปลอดภัยควรเลือกทำกับสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้
- หลังการผ่าตัดดึงหน้า จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
โรงพยาบาลและคลินิกอื่นที่ให้บริการ ดึงหน้า ราคา เท่าไรบ้าง? เช็กราคาพร้อมโปรโมชั่นได้ที่นี่
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ Siraikorn Clinic (สิรอัยย์กร คลินิก) ผ่าน HDmall
นัดคิวเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมิน แล้วทักมาจ่ายเงินที่ HDmall.co.th เพื่อรับส่วนลด
- จองแพ็กเกจกับ HDmall จากนั้นเจ้าหน้าที่จะส่งคูปองให้ทางอีเมล
- เข้ารับการประเมินที่คลินิกตามวันที่นัดหมาย
- เมื่อทราบราคาประเมินแล้ว ทักไลน์ @hdcoth มาชำระเงินและรับส่วนลดกับ HDmall โดยพิมพ์ HDexpress หรือกดปุ่ม “ชำระเงินหลังประเมิน” ขณะอยู่ที่คลินิก
- เมื่อชำระเงินแล้ว เจ้าหน้าที่จะส่งคูปองให้ลูกค้าเพื่อรับบริการ
*ระยะเวลาผ่อนชำระขึ้นอยู่กับราคาแพ็กเกจ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30-60 วัน ตามที่ระบุในคูปอง)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ ทางคลินิกจะสรุปค่าใช้จ่ายให้ทราบหลังแพทย์ตรวจประเมิน
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Siraikorn Clinic (สิรอัยย์กร คลินิก) อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th