สลายไขมันบริเวณแก้มและเหนียง ด้วยเครื่อง HIFU UltraCelQ+ จำนวนช็อตขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน 1 ครั้ง

• ระยะเวลารับบริการประมาณ 30-90 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการรักษา
• ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
• UltraCelQ+ คือนวัตกรรมที่ช่วยยกกระชับและปรับรูปหน้าโดยอาศัยเทคโนโลยี Focused Ultrasound ที่สามารถปล่อยพลังงานในการกระตุ้นเซลล์ ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่แพทย์ศัลยกรรมใช้ในการผ่าตัดดึงใบหน้า ให้ผลลัพท์ที่ยาวนานประมาณ 1-2 ปี โดยไม่มีแผล
• UltraCelQ+ เป็นเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยี HIFU (Highintensity Intensive Ultrasound) ซึ่งเป็นลักษณะของคลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูง โดยเน้นที่ชั้น SMAS เพื่อให้เกิดพลังงาน ความร้อนเป็นจุดเล็กๆ เรียงต่อกันเป็นแถว ส่งผลให้ชั้น SMAS เกิดการหดตัวและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
• LIFU หรือ Linear Firm เป็นหัวยิงชนิดพิเศษตัวแรกของโลก ที่ยิงพลังงานออกมาแบบเส้น ทำให้ได้พื้นที่รักษามากกว่าแบบจุด
• LIFU หรือ Linear Firm ปล่อยพลังงานแบบก้อนพลังงาน (Bulk Heating) ให้ความร้อนในผิวสูงถึง 58 องศาเซลเซียส คล้ายเครื่องยกกระชับกลุ่ม Radiofrequency หรือ RF (ตัวอย่างเครื่องกลุ่มนี้คือ Thermage)
• UltraCelQ+ สามารถกำหนดความลึกในการยิงได้ โดยหัวลึกใช้ในการสลายไขมัน (Fat Reduction) หัวตื้นใช้สำหรับงานผิวฟูเต่งตึง (Rejuvenation)
• ข้อดีของการทำ HIFU UltraCelQ+ มีดังนี้
  • โดยทั่วไปมักไม่เจ็บ ไม่บวม ไม่เกิดรอยแผลหลังทำ
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้า
  • ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นหลังทำ
  • อาจเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้นหลังทำประมาณ 2-3 เดือน
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี
• ผลลัพธ์ของการทำ HIFU มีดังนี้
  • เห็นผลลัพท์ที่ดีขึ้นหลังการรักษา แนวคิ้ว และหางตาดูยกขึ้น กรอบหน้าดูชัดเจนขึ้น
  • บางรายอาจต้องมีการกระตุ้นซ้ำในระยะเวลา 1-3 เดือน เพื่อผลลัพท์ที่ดีขึ้น
  • ผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ ภายใน 6 เดือน เนื่องจากจะมีการสร้างคอลลาเจนใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โครงสร้างผิวจะได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ (Collagen Remodeling) และยาวนานกว่า 1-2 ปี
• ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
  • อาจมีลักษณะผิวหนังแดงชัดเจนทันทีหลังการรับบริการ (ผื่นแดง) แต่จะหายภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังรับบริการ
  • อาจมีลักษณะบวมน้ำเล็กน้อยชัดเจนทันทีหลังรับบริการ แต่จะหายภายใน 3-72 ชั่วโมงหลังรับบริการ
  • บริเวณที่รับบริการอาจมีรอยบวมแดงเป็นเส้นตรงที่สามารถมองเห็นได้หลังรับบริการ โดยจะหายภายใน 1 สัปดาห์
  • อาจมีรอยช้ำเล็กน้อยจากการที่หลอดเลือดของเนื้อเยื่อเสียหาย โดยเกิดขึ้นในบางครั้ง และหายภายใน 2 วัน ถึง 2 สัปดาห์หลังรับบริการ
  • อาจรู้สึกเจ็บปวดชั่วขณะระหว่างรับบริการในขณะที่ฉายพลังคลื่นเสียงและหลังรับบริการ แต่จะหายภายใน 2 ชั่วโมง ถึง 2 วัน อาจเป็นไปได้ที่จะเกิดอาการกดเจ็บเมื่อสัมผัสและจะหายภายใน 2 วัน ถึง 2 สัปดาห์หลังรับบริการ

การเตรียมตัวก่อนรับบริการ

• ห้ามรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด 1 สัปดาห์ก่อนทำเช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค พอนสเตน วิตามินอี น้ำมันตับปลา ใบแปะก๊วย โสม St. John's wort น้ำมันกระเทียม เพราะมีผลต่อยาต้านการแข็งตัวของเลือด (ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหยุดยา)
• งดทายาที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A) Retinols Retinoids Glycolic Acid หรือครีมในกลุ่ม Anti-Aging อย่างน้อย 3 วันก่อนรับบริการ
• งดแว็กซ์ผิว ขัดผิว สครับผิว นวดหน้า โกนขน ดึงขน เลเซอร์ บริเวณที่จะทำอย่างน้อย 3 วันก่อนรับบริการ
• ผู้ที่มีประวัติติดเชื้อโรคเริม ควรรับประทานยาป้องกันเชื้อไวรัส 2 วันก่อนรับบริการ
• งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดไหลเวียนมากขึ้น เช่น การออกกำลังกาย หรือซาวน่า ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนรับบริการ
• งดแต่งหน้า ทารองพื้น ทาแป้งในวันที่มารับบริการ

การดูแลหลังรับบริการ

• ผู้ที่เคยติดเชื้อโรคเริมควรรับประทานยาป้องกันเชื้อไวรัสเป็นเวลา 6 วัน หลังรับบริการ
• ผิวบริเวณที่ทำอาจมีสีชมพูระเรื่อและบวมเล็กน้อย ซึ่งจะค่อยๆ ดีขึ้นภายในระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
• งดโดนแสงแดดจัด หรือความร้อนโดยตรง เช่น การนั่งหน้าเตาร้อนๆ ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก
• งดถูหน้าแรงๆ
• งดล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น
• ควรทาครีมบำรุงผิวและครีมกันแดดที่มี SPF 30+
• หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะเข้าไปทำลายคอลลาเจนที่กำลังสร้างตัวใต้ผิวหนัง
• ควรรับประทานเส้นใยคอลลาเจนเสริม และดื่มน้ำสะอาดวันละ 1-2 ลิตร
• ควรรับประทานอาหารโปรตีนสูง 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น ไข่ขาว เนื้อไก่ไม่ติดมัน เนื้อปลา ถั่วเหลือง เป็นต้น