28,504 บาท*

ปรึกษาแพทย์ฟรี! จองคิวกับแอดมินเพื่อรับแคชแบ็ก 5% ไม่มีขั้นต่ำ ถ้าตัดสินใจรับบริการ
แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
การเสริมจมูก เป็นการใส่ซิลิโคนเพื่อปรับเปลี่ยนขนาดหรือรูปทรงจมูก โดยซิลิโคนมีทั้งแบบสำเร็จรูป และซิลิโคนแท่ง (แบบเหลาเอง)
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าเสริมจมูกด้วยซิลิโคนนำเข้าจากอเมริกา และตกแต่งปลายจมูก 1 ครั้ง
- ค่าปรึกษาและผ่าตัดโดยศัลยแพทย์
- ค่ายากลับบ้าน
- ค่าล้างแผล
- ค่าตัดไหม
สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่าตัดปีกจมูก 20,000 บาท
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 1-2 ชั่วโมง
- เจ้าหน้าที่จะอธิบายขั้นตอนการปฏิบัติตัวก่อนและหลังการผ่าตัด พร้อมมี Beauty Advisor ให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ก่อนเซ็นใบยินยอมการผ่าตัด
- ทำการผ่าตัดภายใต้การใช้ยาชาชนิดพิเศษ
- ดูแลโดย ผศ. นพ. รนชัย โคมทอง (หมอรน) หัวหน้าทีมศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง พร้อมทีมแพทย์และพยาบาลผู้ชำนาญการดูแลใกล้ชิด
- แพทย์จะพูดคุยให้คำปรึกษา และเลือกทรงจมูก
- วัดสัญญาณชีพก่อนผ่าตัด กรณีที่มีความดันโลหิตสูง ให้แจ้งแพทย์และควรงดการผ่าตัดไปก่อน
- แพทย์จะเหลาซิลิโคนให้เข้ากับจมูกของผู้รับบริการ จากนั้นแพทย์จะเช็ดในรูจมูกและโพรงจมูก ก่อนกรีดเปิดแผลบริเวณฐานจมูก (Open Rhinoplasty) เพื่อตกแต่งกระดูกฐานจมูกให้มีขนาดเล็กลง จากนั้นจึงผ่าตัดปรับแต่งปีกจมูกให้ได้รูป ใส่ซิลิโคน เย็บปิดแผล และปิดพลาสเตอร์เพื่อช่วยพยุงรูปทรงของจมูก วิธีนี้จะช่วยยืดปลายจมูกให้พุ่งขึ้น
- หลังทำเสร็จ เจ้าหน้าที่จะติดตามต่อจนอาการคงที่
- แพทย์อาจนัดตัดไหมหลังผ่าตัด 1-2 สัปดาห์
- จมูกจะเข้าที่ได้รูปเห็นผลชัดเจนภายใน 2 เดือนหลังผ่าตัด
- ควรมีญาติรับกลับ
- สามารถเข้าไปปรึกษาแพทย์ก่อนได้ไม่มีค่าใช้จ่าย
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- ควรตรวจสุขภาพในโรงพยาบาลที่สะดวกก่อนถึงวันนัด โดยตรวจตามรายการดังนี้ 1. CBC 2. HIV 3. Electrolyte 4. CXR
- ส่งผลการตรวจสุขภาพให้ทางคลินิก และนำผลติดตัวมาในวันนัดด้วย
- หากผลเป็นปกติสามารถมาตามวันนัดได้เลย แต่หากผิดปกติให้ทำตามคำแนะนำของทางคลินิกว่าควรเลื่อนนัดไปก่อน หรือควรยกเลิกการผ่าตัด
- งดแต่งหน้าหรือใช้เครื่องสำอางที่ทำความสะอาดยากในวันผ่าตัด
- ห้ามรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด 1 สัปดาห์ก่อนทำ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค พอนสแตน วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย โสม St. John's wort น้ำมันกระเทียม เพราะมีผลต่อยาต้านการแข็งตัวของเลือด (ควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาก่อนหยุดยา)
- งดทายาที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น Tretinoin (Retin-A) Retinols Retinoids Glycolic Acid หรือครีมในกลุ่ม Anti-Aging อย่างน้อย 3 วันก่อนทำ
- งดแว็กซ์ผิว ขัดผิว สครับผิว นวดหน้า โกนขน ดึงขน เลเซอร์ บริเวณที่จะทำอย่างน้อย 3 วันก่อนรับบริการ
- หากมีโรคประจำตัว ยาที่ทานประจำ หรือแพ้ยา ควรแจ้งแพทย์ก่อนทำ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ 24 ชั่วโมงก่อนทำ
- งดกิจกรรมที่ส่งผลให้มีการสูบฉีดไหลเวียนของเลือดมากขึ้น เช่น การออกกำลังกาย ซาวนา ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนทำ
- ควรสระผมให้เรียบร้อยก่อนการผ่าตัด เนื่องจากหลังผ่าตัดในช่วงแรกอาจสระผมไม่สะดวก
ก่อนตัดสินใจ
ข้อห้ามสำหรับการผ่าตัดเสริมจมูก
- สตรีตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- ไม่ควรผ่าตัดเสริมจมูกในผู้ที่มีอายุไม่ถึง 18 ปี หรือยังมีการเจริญเติบโตของใบหน้าไม่เต็มที่
- ใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดผิดปกติต่างๆ เช่น เส้นเลือดตีบ
- มีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- ติดเชื้อเอชไอวี (HIV)
- เป็นหวัด มีแผลติดเชื้อ ควรรักษาให้หายก่อนทำ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- ความเสี่ยงทั่วไปจากการผ่าตัด เช่น มีเลือดออก เกิดการติดเชื้อ แพ้ยาชาหรือยาสลบที่ใช้
- มีอาการบวม ชาบริเวณจมูก
- มีแผลเป็นบริเวณฐานจมูก
- เส้นประสาทถูกทำลายถาวร
- สังเกตเห็นซิลิโคนที่ใช้เสริม
- อาจต้องมีการผ่าตัดแก้ไขเพิ่มในภายหลัง เนื่องจากซิลิโคนเคลื่อน เบี้ยว หรือทะลุ
ข้อมูลทั่วไป
การเสริมจมูก⠀เป็นศัลยกรรมความงามบนใบหน้าเพื่อปรับเปลี่ยนขนาดหรือรูปทรงของจมูก ให้ได้สัดส่วนที่ต้องการ และเหมาะสมเข้ากับรูปหน้ามากขึ้น
จมูกเป็นจุดที่อยู่ส่วนกลางของใบหน้า การปรับเปลี่ยนที่ส่วนนี้จะทำให้ใบหน้าโดยรวมเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ง่าย จึงทำให้การเสริมจมูกค่อนข้างได้รับความนิยม
วัสดุที่ใช้เสริมจมูก
การเสริมจมูกสามารถใช้เนื้อเยื่อตัวเอง หรือใช้วัสดุอื่นอย่างซิลิโคน ซึ่งได้รับความนิยมมากกว่าสำหรับชาวเอเชีย โดยซิลิโคนที่ใช้ควรเป็นชนิดที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ (medical grade)
ซิลิโคนที่ใช้เสริมจมูกแตกต่างกันอย่างไร?
รูปแบบ⠀ปกติแล้วมีซิลิโคนให้แพทย์เลือกใช้ 2 รูปแบบ ได้แก่ ซิลิโคนสำเร็จรูป และซิลิโคนแท่ง (แบบเหลาเอง) ซิลิโคนสำเร็จรูปค่อนข้างใช้ง่ายกว่าซิลิโคนแท่ง เนื่องจากถูกขึ้นมาเป็นรูปทรงให้แล้ว แพทย์ไม่ต้องเสียเวลาปรับแต่งมาก
ความแข็งหรือความอ่อนนิ่ม⠀สามารถแบ่งได้เป็น 3 ระดับ ได้แก่ แข็งมาก แข็งปานกลาง และนิ่ม
-⠀ซิลิโคนแข็ง⠀จะคงรูปได้ดี ไม่ยุบตัวง่าย แต่อาจทะลุได้หากเนื้อจมูกไม่หนาพอ จึงมักเลือกใช้ซิลิโคนชนิดแข็งปานกลาง เพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงาม ไม่ทะลุง่าย และไม่ยุบตัวหลังทำ
-⠀ซิลิโคนนิ่ม⠀เหมาะกับคนที่เนื้อจมูกไม่หนา เสริมแล้วจมูกดูเนียนเป็นธรรมชาติ แต่อาจยุบตัวได้เมื่อเวลาผ่านไป
ประเทศที่ผลิต⠀ซิลิโคนที่นิยมในปัจจุบัน อาจมีที่มาจาก อเมริกา เกาหลี และอื่นๆ
-⠀ซิลิโคนอเมริกา (USA)⠀เป็นซิลิโคนมาตรฐานพิเศษ มีความแข็งปานกลาง ยืดหยุ่นดี เหมาะกับคนที่อยากได้จมูกรูปทรงโด่งสวยงาม และไม่แข็งจนเกินไป
-⠀ซิลิโคนเกาหลี (Korea)⠀เป็นซิลิโคนมาตรฐานพิเศษเช่นกัน ค่อนข้างนิ่มโดยเฉพาะช่วงโคนและปลายจมูก มีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง เหมาะกับคนที่อยากได้จมูกรูปทรงสวยเป็นธรรมชาติ
หมายเหตุ
- แม้จะใช้ซิลิโคนชนิดเดียวกัน ผลที่ได้หลังการผ่าตัดเสริมจมูกจะแตกต่างกันไปตามรูปแบบที่เลือก ลักษณะเดิมของจมูก และความชำนาญของแพทย์
- การผ่าตัดจมูกแบบปิดเป็นการผ่าภายในจมูก ใช้เวลาน้อย เน้นการเสริมให้จมูกโด่งขึ้นอย่างเดียว ในขณะที่การผ่าแบบเปิด แพทย์จะสามารถวิเคราะห์และแก้ปัญหาอื่นๆ ของจมูกได้ด้วย เช่น การแก้ไขปัญหาสันจมูกโด่งเกินไป
- การรองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อตัวเองหรือเนื้อเยื่อเทียม จะทำให้ซิลิโคนไม่สัมผัสกับเนื้อจมูกโดยตรง ทำให้ปลายจมูกดูเหมือนเนื้อธรรมชาติ และป้องกันซิลิโคนทะลุได้
- ทรงจมูกที่นิยมในปัจจุบันมีหลายแบบ ก่อนทำสามารถนำรูปตัวอย่างไปปรึกษากับแพทย์เพื่อวางแผนการผ่าตัด
- หากมีเนื้อจมูกน้อยหรือบางมากๆ ไม่แนะนำให้เสริมจมูกด้วยซิลิโคน
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ Naravee Clinic (ณรวีคลินิก) ผ่าน HDmall
นัดคิวเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมิน แล้วกลับมาจ่ายเงินที่ HDmall.co.th รับส่วนลดทันที
- กด 'จองเลย' แล้วกรอกข้อมูลให้ครบ
- นัดคิวเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมินก่อนรับบริการ (อาจมีค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก)
- นำยอดค่าใช้จ่ายที่คุณหมอสรุปให้ มาแจ้งกับแอดมิน HDmall โดยเข้าไลน์ @hdcoth แล้วพิมพ์ 'hdexpress' เพื่อดำเนินการชำระเงินพร้อมรับส่วนลด สามารถเลือกวิธีโอน จ่ายบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต โดยจ่ายบัตรเครดิตได้เมื่อมียอดชำระ 300 บาทขึ้นไป ผ่อนได้เมื่อมียอดชำระตั้งแต่ 3,000 บาท
- รอรับคูปองทางอีเมล (จะออกภายใน 15 นาทีหลังแอดมินตรวจสอบการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว) คูปองมีอายุ 60 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่คลินิกเพื่อรับบริการ
*ระยะเวลาผ่อนชำระขึ้นอยู่กับราคาแพ็กเกจ
จองแพ็กเกจผ่าน HDmall.co.th ให้คุณหมอตรวจประเมิน แล้วไปจ่ายเงินที่คลินิก รับแคชแบ็กหลังรับบริการ
- กด 'จองเลย' และกรอกข้อมูลให้ครบ
- รับคูปองทางอีเมล คูปองมีอายุ 30 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่คลินิกเพื่อรับการตรวจประเมินจากแพทย์ก่อนทำ เมื่อแพทย์พิจารณาว่ารับบริการได้ สามารถนัดหมายวันรับบริการและจ่ายเงินราคาเต็มที่คลินิกได้เลย
- ภายใน 30 วันนับจากชำระเงิน กรุณาส่งหลักฐานดังนี้ให้แอดมินทางไลน์ @hdcoth เพื่อรับแคชแบ็ก
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาใบเสร็จของคลินิก
- สำเนาหน้าสมุดบัญชี
- หน้าคูปอง
- รอรับแคชแบ็กภายใน 7-14 วัน (ตัดรอบโอนเงินทุกวันจันทร์ เวลา 15.00 น. เงินจะเข้าบัญชีของคุณภายในวันศุกร์)
*ผู้ที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคม ประกันสุขภาพ หรือประกันชีวิต จะไม่สามารถรับสิทธิ์พิเศษต่างๆ รวมถึงไม่สามารถเบิก Cashback จาก HDmall.co.th ได้
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30-60 วัน ตามที่ระบุในคูปอง)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ ทางคลินิกจะสรุปค่าใช้จ่ายให้ทราบหลังแพทย์ตรวจประเมิน
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Naravee Clinic (ณรวีคลินิก) อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ
-
วันจันทร์-อาทิตย์ (ทุกวัน) 08.00-18.00 น.
-
BTS สถานีอุดมสุข (ทางออก 3) ต่อวินมอเตอร์ไซค์ไปซอยอุดมสุข 30 คลินิกอยู่ตรงข้ามซอยโรงเรียนสิริรัตนาธร
-
จอดรถที่หน้าคลินิก
-
จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ ยอดชำระ 1,000 บาทขึ้นไป