FUE เป็นเทคนิคการเจาะรากผมที่แข็งแรงจากส่วนท้ายทอย ด้วยหัวเจาะขนาด 1 มม. มาปลูกบริเวณที่ต้องการ
แพ็กเกจนี้จำเป็นต้องให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนรับบริการ และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์
รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
🌟 ปลูกผมที่คุณมั่นใจได้! คุณรู้สึกว่าผมบางหรือศีรษะล้านกำลังทำให้คุณขาดความมั่นใจใช่ไหม? ปัญหานี้อาจส่งผลกระทบต่อความสุขและการใช้ชีวิตประจำวันของคุณอย่างมาก มาลองพิจารณาการปลูกผมด้วยเทคนิค Non-Shaven FUE ที่ BLS Surgery Center กันเถอะ!
🏥 บริการปลูกผมด้วยเทคนิค Non-Shaven FUE เป็นวิธีที่ทันสมัยและไม่ต้องโกนผม สามารถทำให้คุณกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติได้เร็วขึ้น ในขณะที่ผมที่ปลูกยังคงเติบโตตลอดเวลาโดยไม่ต้องมีการรบกวนจากการโกนผม
💡 ทำไมต้องเลือก Non-Shaven FUE?
- ไม่ต้องโกนผม ทำให้คุณสามารถรักษาลุคเดิมได้
- ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการย้ายเซลล์รากผมจากบริเวณท้ายทอย
- ผมที่ปลูกจะไม่ร่วงตามมาในอนาคต
😥 อย่าปล่อยให้ปัญหาผมบางหรือศีรษะล้านทำให้คุณรู้สึกไม่มั่นใจ! จองบริการ ผ่าน HDmall.co.th วันนี้ และเริ่มต้นเส้นทางสู่ความมั่นใจใหม่ของคุณ พร้อมรับผลการประเมินจากแพทย์ภายใน 1 วันทำการ 📅
การคืนความมั่นใจให้กับคุณเริ่มต้นที่นี่!
รายละเอียด
รายละเอียดราคา
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าปลูกผม เทคนิค Non-Shaven FUE จำนวนกราฟต์ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน 1 ครั้ง
- ค่าฉีดยาชา
- ค่ายารับประทาน
- ค่าแพทย์
สิ่งที่ต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่า Lab Testing ตรวจค่าเลือด 1,000 บาท
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 3-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผู้เข้ารับบริการ
- ควรนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- แพ็กเกจนี้ทำโดยแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผม
- ผมที่ปลูกจะไม่เริ่มขึ้นหลังวันที่รับบริการ ระยะแรกจะมองเห็นตอผมที่ปลูก แต่หลังจากนั้น ผมจะค่อยๆ ร่วงไปใน 3-4 สัปดาห์พร้อมกับสะเก็ดจนหมด แต่รากผมที่ปลูกจะฝังอยู่ข้างในไม่ได้ร่วงไปกับเส้นผมด้วย ผมจะเริ่มขึ้นใหม่ใน 3-4 เดือน หลังจากนั้นจะค่อยๆ ยาวขึ้น จนสามารถเห็นผลชัดเจนคือ 10 เดือนหลังรับบริการ
- การปลูกผมถาวรโดยเทคนิค Non-Shaven FUE คือ การย้ายเซลล์รากผมบริเวณท้ายทอย ไปปลูกบริเวณที่มีผมบาง การนำผมบริเวณด้านท้ายทอยมาใช้ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวไม่มีตัวรับฮอร์โมน ดังนั้นผมที่ย้ายไป จะไม่มีปัญหาผมร่วงตามมาในอนาคต
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ควรงดรับประทานยาต้านเกล็ดเลือด 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เช่น พลาวิกซ์ (Plavix) แอสไพริน (Aspirin) หรือยาที่ส่วนผสมของแอสไพริน วิตามินอี (Vitamin E) น้ำมันตับปลา (Fish Oil) เนื่องจากยาดังกล่าวจะทำให้เลือดไม่แข็งตัว หยุดยาก ควรปรึกษาแพทย์โรคประจำตัวก่อนหยุดยา
- หากเป็นความดันโลหิตสูงและรับประทานยาอยู่ กรุณาแจ้งแพทย์ประจำตัวของท่านเพื่อหยุดยาในกลุ่ม เบต้าบลอกเกอร์ (Beta Blocker) และเปลี่ยนไปใช้ยาตัวอื่นก่อนการผ่าตัด 1 สัปดาห์ เพราะจะมีผลต่อยาชาฉีดเฉพาะที่ (Xylocaine)
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1 สัปดาห์ ก่อนการผ่าตัด
- หากต้องการทำสีผมหรือย้อมผม ควรทำล่วงหน้าก่อนการผ่าตัด 1-2 วัน เพราะหลังจากผ่าตัดปลูกผมแล้วห้ามทำสีผมเป็นเวลา 1 เดือน
- สามารถตัดผมได้ แต่ควรเหลือผมไว้ปิดแผลบริเวณท้ายทอยอย่างน้อย 1 นิ้ว
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากการผ่าตัดจะใช้เวลานานซึ่งอาจทำให้อ่อนเพลียได้
- วันผ่าตัดและวันหลังจากผ่าตัด 2-3 วัน ควรสวมเสื้อเชิ้ต เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนกราฟต์ที่ปลูกผม
- วันผ่าตัดต้องนำหมวกหลวมๆ มาด้วย
- สามารถรับประทานอาหารเช้าได้แต่ไม่ควรมากเกินไป และงดชา กาแฟ หากมีไข้ กรุณาแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า
- ห้ามขับรถมาเองในวันที่ทำการผ่าตัด
- กรุณาแจ้งแพทย์ให้ทราบล่วงหน้าหากมีอาการแพ้ยา
การดูแลหลังรับบริการ
- ควรคาดผ้าที่คาดศีรษะ (Head Band) โดยถอดเข้า-ออกได้ แต่ไม่ควรเอาออกนานเกินครึ่งชั่วโมง และเวลานอนควรคาดไว้ตลอดคืน
- อาจมีอาการบวมบริเวณหน้าผากได้ ส่วนใหญ่เป็นอาการบวมเล็กน้อยและอาจหายเองภายใน 7 วัน ถ้ามีอาการบวมให้ใช้ Cold Pack ประคบบริเวณหน้าผาก ระวังไม่ให้โดนบริเวณเซลล์ผม (Graft) ที่ปลูกไป จะช่วยทำให้อาการลดลงเร็วขึ้น
- หลังการผ่าตัดควรนอนหงายหรือตะแคงข้าง ห้ามนอนคว่ำหน้า เพราะทำให้หน้าบวมและอาจทำให้เซลล์ผม (Graft) ที่ปลูกหลุดได้
- เวลานอนควรใช้ผ้าขนหนูม้วนเป็นก้อน (Roll) รองบริเวณต้นคอใต้ผ้าคาดศีรษะเพื่อประคองให้แผลลอยไม่กระทบหมอน
- ให้นอนหัวสูงขึ้นเล็กน้อย เพื่อช่วยลดอาการบวมและอาการปวดแผลบริเวณท้ายทอย
- ถ้ามีเลือดออกบริเวณที่ปลูกผม แสดงว่าเซลล์ (Graft) ที่ปลูกหลุด ให้ใช้ผ้าก๊อซสะอาดกดบริเวณที่มีเลือดออกนาน 3-5 นาที ถ้ายังไม่หยุดให้กดนานขึ้นประมาณ 5-10 นาที แต่ถ้าเลือดยังไหลควรโทรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลทันที
- ไม่ควรก้มศีรษะลงหยิบของหรือสวมรองเท้า เพราะจะทำให้เลือดออกและเกิดอาการบวมบริเวณหน้าผากได้ ควรย่อตัวลงเพื่อหยิบของหรือสวมรองเท้าแทน
- สัปดาห์แรกของการผ่าตัด ควรระวังไม่ให้ศีรษะกระแทกของแข็ง เช่น ขอบประตูบ้าน ขอบประตูรถ เพราะอาจทำให้เซลล์ผม (Graft) ที่ปลูกหลุดได้
- หลังการผ่าตัดควรงดยกของหนักอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หลังการผ่าตัดควรพักผ่อน และไม่อยู่ในที่ที่มีอากาศร้อน
- หลังออกจากคลินิกควรรับประทานอาหารเบาๆ ถ้าเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนควรงดรับประทานอาหาร
- หลังผ่าตัด 48 ชั่วโมง ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสมทุกชนิดเพื่อป้องกันภาวะเลือดออกและอาการบวม
- งดออกกำลังกายอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดว่ายน้ำทั้งในสระว่ายน้ำหรือทะเล อย่างน้อย 1 เดือน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- งดซาวน่าอย่างน้อย 2 เดือน เนื่องจากความร้อนสูงมีผลต่อรากผมที่ปลูกไป
- การสระผมครั้งแรกหลังปลูกผม ควรมาสระที่คลินิกโดยให้เจ้าหน้าที่ของคลินิกสอนและแนะนำการสระผม พร้อมทั้งการทำความสะอาดแผลให้ จากนั้นสามารถกลับไปดูแลเองได้
- หลังจากผ่าตัดในสัปดาห์แรกต้องสระผมทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง โดยใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนที่ทางคลินิกจัดให้ หลังจากนั้นสามารถใช้แชมพูอื่นๆ สระผมได้ตามปกติ
- ควรใช้น้ำที่มีอุณหภูมิปกติหรืออุ่นเล็กน้อยในการสระผม ไม่ควรใช้น้ำอุ่นมากในสัปดาห์แรก และไม่ควรใช้กระแสน้ำแรงเกินไป สามารถใช้มือบังกระแสน้ำไม่ให้กระทบบริเวณที่ปลูกผมโดยตรงได้ เพื่อป้องกันเซลล์รากผมที่ปลูกหลุดได้
- การสระผมในสัปดาห์แรกหลังผ่าตัด ใช้ฝ่ามือแตะเบาๆบริเวณที่ปลูกผม ห้ามถูหรือขยี้และปล่อยทิ้งไว้ 2-3 นาที
- การสระผมในสัปดาห์ที่ 2 หลังผ่าตัด ให้เริ่มถูเบาๆ บริเวณที่ปลูกได้ การสระผมในสัปดาห์ที่ 3 หลังผ่าตัด เริ่มถูได้แรงขึ้น หลังจากผ่าตัด 1 เดือน สามารถสระผมได้ตามปกติ
- สำหรับแผลบริเวณท้ายทอย สามารถถูเบาๆ ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่สระผม แต่ให้ระวังบริเวณปมไหมที่ปลายแผลทั้ง 2 ข้าง
- แผลบริเวณท้ายทอยสีจะค่อยๆ จางลงและหายเป็นปกติใน 5-6 เดือน หลังผ่าตัด 24 ชั่วโมง แผลจะเริ่มแห้ง และเริ่มตกสะเก็ดภายใน 2-3 วัน ไม่ควรใช้เล็บแกะหรือเกาเพราะจะทำให้เลือดออกหรือแผลติดเชื้อได้
- อาการแดงของหนังศีรษะบริเวณที่ปลูกผม จะค่อยๆ จางลงภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่บางรายอาจใช้เวลา 2-3 เดือน
- ในสัปดาห์แรกหลังการผ่าตัดควรหลีกเลี่ยงแสงแดด หากจำเป็นต้องออกไปข้างนอก สวมหมวกป้องกันแดด
- สามารถใช้เจล มูส สเปรย์ ได้หลังผ่าตัดแล้ว 5 วัน
- สำหรับผู้รับบริการบางรายที่ปลูกผมแทรกเข้าไปในบริเวณที่มีผมเดิมอยู่ ผมเหล่านั้นอาจได้รับผลกระทบจากการผ่าตัดจนหลุดร่วงไปได้ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นมากน้อยแค่ไหน อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นในช่วงเดียวกับการร่วงของผมใหม่ที่ปลูกไป คือสัปดาห์ที่ 3-4 หลังผ่าตัด และจะงอกกลับขึ้นมาพร้อมผมชุดใหม่ที่ปลูกไปในช่วง 3-4 เดือนหลังผ่าตัด
- หลังจากผ่าตัดปลูกผมไป 6 เดือน ควรมาพบแพทย์เพื่อติดตามผลการเปลี่ยนแปลงและรับยาบำรุง
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ BLS Surgery Center ผ่าน HDmall
นัดคิวเข้าไปให้คุณหมอตรวจประเมิน แล้วทักมาจ่ายเงินที่ HDmall.co.th เพื่อรับส่วนลด
- จองแพ็กเกจกับ HDmall จากนั้นเจ้าหน้าที่จะส่งคูปองให้ทางอีเมล
- เข้ารับการประเมินที่คลินิกตามวันที่นัดหมาย
- เมื่อทราบราคาประเมินแล้ว ทักไลน์ @hdcoth มาชำระเงินและรับส่วนลดกับ HDmall โดยพิมพ์ HDexpress หรือกดปุ่ม “ชำระเงินหลังประเมิน” ขณะอยู่ที่คลินิก
- เมื่อชำระเงินแล้ว เจ้าหน้าที่จะส่งคูปองให้ลูกค้าเพื่อรับบริการ
*ระยะเวลาผ่อนชำระขึ้นอยู่กับราคาแพ็กเกจ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 1-3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30 วัน)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ ทางคลินิกจะสรุปค่าใช้จ่ายให้ทราบหลังแพทย์ตรวจประเมิน
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ BLS Surgery Center อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th