มีการตรวจแมะแบบจีน ฝังเข็มเพื่อผิวพรรณ ติดหมุดใบหูลดความอยากอาหาร กัวซาหน้าเพื่อผิวเปล่งปลั่ง ฉายแสงลดรอยสิว ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าคอร์สเจ้าสาวตามศาสตร์แพทย์แผนจีน 9 ครั้ง ประกอบด้วย
- ตรวจแมะชีพจรแบบแผนจีน 15 นาที
- ฝังเข็ม กระตุ้นคอลลาเจน ฟื้นฟูเซลล์ผิว 20 นาที
- ติดหมุดใบหู ลดความต้องการรับประทานอาหาร
- กัวซาใบหน้า ยกกระชับกรอบหน้าและลดริ้วรอย โดยนักหัตถการบำบัด 20 นาที
- ฉายแสง (Aura Light Therapy) กระตุ้นคอลลาเจน ลดรอยแดง รอยสิวให้สีผิวสม่ำเสมอ 20 นาที
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการครั้งละประมาณ 75 นาที
- แพทย์ผู้ฝังเข็มจะวินิจฉัยก่อนทำการรักษา
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- ไม่ควรทำในขณะที่รู้สึกหิวหรือหลังจากรับประทานอาหารทันที ควรทำหลังรับประทานอาหารเสร็จสิ้นอย่างน้อย 1 ชั่วโมงขึ้นไป
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- สวมเสื้อผ้าหลวม ผ่อนคลายสบายๆ ไม่รัดแน่นจนเกินไป
- แจ้งประวัติโรคประจำตัว ประวัติการตั้งครรภ์ ประวัติการผ่าตัด และประวัติยาที่ใช้อยู่ให้แพทย์ทราบ
การดูแลหลังรับบริการ
- หลังฝังเข็มอาจมีอาการต่อเนื่องได้ เนื่องจากร่างกายอยู่ในการปรับสมดุลและจะหายไปเอง
- อาจมีอาการปวด ความหน่วง หรือความอ่อนแรงของบริเวณที่ฝังเข็ม ถือเป็นอาการปกติและจะหายไปได้เอง
- รอยแดงจากการทำกัวซาจะหายไปภายใน 3-4 วัน
ก่อนตัดสินใจ
ฝังเข็ม
ข้อห้ามสำหรับการฝังเข็ม
- หญิงมีครรภ์
- ผู้ที่เพิ่งออกกำลังกายอย่างหนัก
- ผู้ที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด เช่น โรคฮีโมฟีเลีย หรือได้รับยาละลายลิ่มเลือด
- ผู้ที่มีเครื่องกระตุ้นหัวใจ (Pacemaker) ติดอยู่ในร่างกาย
- ผู้ป่วยที่มีเลือดออกง่าย โรคมะเร็งที่ยังไม่ได้รับการรักษา หรือโรคที่ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด
- ทารกเด็กเล็ก ผู้ป่วยทางจิตเวช หรือผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม ที่ไม่สามารถให้ความร่วมมือในการรักษาได้
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- รู้สึกเจ็บปวด ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฝังเข็ม
- รู้สึกหน้ามืด วิงเวียน หรือเป็นลม
- เกิดรอยฟกช้ำหรือห้อเลือดได้
- มีอาการปวด รู้สึกหน่วง หรืออ่อนแรงบริเวณที่ฝังเข็ม
กัวซา
ข้อห้ามสำหรับการทำกัวซา
- ผู้ที่เป็นโรคหัวใจและโรคมะเร็ง
- สตรีมีครรภ์
- ผู้ที่มีแผลติดเชื้อ
- ผู้ที่ดื่มสุราหรือมีอาการมึนเมา
- ผู้ที่กำลังมีประจำเดือน
- ผู้ที่ประสบภาวะกระดูกหักและกระดูกยังไม่สมานติดกัน
- ผู้ที่กำลังรับประทานยาละลายลิ่มเลือด หรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ที่มีเกล็ดเลือดต่ำ
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ผู้ที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดภายใน 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- มีรอยแดง ฟกช้ำ แต่จะหายไปภายใน 3-4 วัน แต่หากมีอาการปวดหรือมีไข้ ควรรีบพบแพทย์
ฉายแสง
- ผลลัพธ์ของการเสริมความงามขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล หากพบอาการผิดปกติหลังรับบริการควรปรึกษาแพทย์
ข้อห้ามสำหรับการฉายแสงบำบัดผิว
- ผู้ที่กำลังใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ หรือยารักษาสิวที่เป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอ
- ผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวไวต่อแสง เช่น ครีมหรือสารเคมีที่ช่วยในการผลัดผิว ยาทาแก้สิว Retinoic acid เป็นต้น
- ผู้ที่เป็นโรคผิวหนัง
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
- ผู้ที่มีสิวอักเสบจำนวนมากและไม่ต้องการใช้ยาแบบรับประทาน
- ผู้ที่มีสิวหายยากจากการดื้อยา
- ผู้ที่มีปัญหารอยแดง รอยดำ
- ผู้ที่มีปัญหาสิวกลับมาเป็นซ้ำ
- ผู้ที่มีรอยแผลเป็นบางชนิด
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ผลข้างเคียงจากการฉายแสงบำบัดผิวเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก จึงควรรีบติดต่อแพทย์ทันทีหากเกิดอาการเหล่านี้หลังรับบริการ
- อาการอักเสบเพิ่มขึ้น
- ผื่น รอยแดง
- อาการเจ็บ หรือกดเจ็บ
- อาการของโรคลมพิษ คัน ผิวหนังเป็นผื่นแดง แสบ บวม
ติดหมุด
ข้อห้ามสำหรับการติดเมล็ดผักกาด
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะการกดจุดสะท้อนบางจุด อาจส่งผลให้มดลูกบีบตัวได้
- ผู้ที่มีปัญหาที่หู เช่น แผลบริเวณใบหู ติดเชื้อที่ใบหู หรือเป็นไข้หวัด ควรรักษาให้หายก่อน
ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้
การติดเมล็ดผักกาดในแพทย์แผนจีนสามารถบรรเทาอาการได้หลากหลาย ผู้ที่มีอาการผิดปกติสามารถเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์แผนจีนเพื่อรับการรักษาด้วยการติดเมล็ดผักกาดได้ เช่น
- ผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับ
- ผู้ที่มีอาการปวดไมเกรน
- ผู้ที่มีปัญหาในระบบย่อยอาหาร ท้องผูก แน่นท้อง
- ผู้ที่ต้องการเสริมสมรรถภาพทางเพศ
- ผู้ที่มีอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS)
- ผู้ที่มีความเครียด
- ผู้ที่มีอาการไอเรื้อรัง
- ผู้ที่เป็นสิวเรื้อรัง
- ผู้ที่ต้องการลดความอ้วน
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- อาจเกิดอาการเจ็บที่ใบหู ขณะติดเมล็ดผักกาด
- อาจเกิดอาการระคายเคือง รอยแดง บวม ปวดระบม กดแล้วเจ็บ หากมีอาการเหล่านี้ ให้นำเมล็ดผักกาดออกทันที
ข้อมูลทั่วไป
ฝังเข็ม
การฝังเข็ม⠀คือการใช้เข็มที่มีขนาดบางและเล็ก ประมาณ 0.2 มิลลิเมตร หรือเล็กกว่าเข็มฉีดยาทั่วไปประมาณ 4-6 เท่า ฝังตามจุดต่างๆ บนเส้นลมปราณ (Meridian) ของร่างกาย ทำให้ให้ระบบลมปราณหมุนเวียนดีขึ้น และช่วยปรับสมดุลการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย
การฝังเข็มช่วยเรื่องผิวพรรณได้อย่างไร?
การฝังเข็มใช้หลักการการปรับสมดุล ทำให้สุขภาพร่างกายดีขึ้นจากภายใน โดยการฝังเข็มจะทำให้ระบบโลหิตไหลเวียนดีขึ้น ช่วยฟื้นฟูผิว ลดปัญหาผิวพรรณบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นฝ้า กระ สิว ริ้วรอย ถุงใต้ตา รวมถึงผื่นแพ้
อย่างไรก็ตาม การฝังเข็มเป็นเพียงการปรับสมดุล จึงควรทำควบคู่กับการดูแลสุขภาพด้านอื่นด้วย ทั้งการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ รสไม่จัดเกินไป นอนไม่ดึก และไม่ตากแดดนานๆ โดยไม่ทาครีมกันแดดป้องกัน
หมายเหตุ
- เทคนิคและความถี่ของการฝังเข็มขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์
กัวซา
กัวซา⠀เป็นการรักษาโดยใช้วัสดุขูดที่ผิวหนังตรงบริเวณที่มีอาการเจ็บป่วยเพื่อให้ระบบหมุนเวียนโลหิตในร่างกายทำงานได้มีประสิทธิภาพ หากผิวหนังบริเวณนั้นเป็นผื่นหรือจ้ำสีแดงจนถึงม่วง นั่นหมายถึงผิวหนังบริเวณดังกล่าวมีอาการผิดปกติ ควรได้รับการรักษา
วัสดุหรืออุปกรณ์ที่ใช้ทำกัวซา
- สมุนไพร เช่น น้ำสมุนไพรจีน น้ำผึ้ง หรือน้ำมันมะพร้าว ขึ้นอยู่กับอาการของผู้รับบริการว่าเป็นอาการแบบร้อนหรือเย็น
- อุปกรณ์สำหรับขูดผิวหนัง เช่น ช้อน เหรียญ เซรามิก หยก ไม้ หรือวัสดุอื่นที่เป็นก้อนหรือแผ่นบาง แต่จะต้องมีปลายกลมมนไม่บาดผิวหนัง
ประโยชน์ของการทำกัวซา
- ช่วยขับพิษ แก้ปวดเมื่อยตามร่างกายและอาการชาตามกล้ามเนื้อ ช่วยขจัดพิษให้ออกตามรูขุมขน
- ทำให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น อย่างเช่นระบบโลหิต การทำกัวซาจะช่วยเพิ่มออกซิเจนให้แก่เซลล์
- ช่วยประกอบการวินิจฉัยโรคได้
- ชะลอความเสื่อมของเซลล์ ทำให้ผิวกระชับขึ้น และช่วยคลายความตึงของกล้ามเนื้อ
หมายเหตุ
- ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันถึงผลการรักษาของการทำกัวซา จึงควรปรึกษาแพทย์และศึกษารายละเอียดของสถานที่รับบริการก่อนตัดสินใจ
- ไม่ควรทำขณะที่กำลังรู้สึกหิวหรือหลังจากรับประทานอาหารทันที โดยควรทำหลังรับประทานอาหารอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
- ควรอาบน้ำหลังจากทำกัวซาประมาณ 1 ชั่วโมงขึ้นไป และจิบน้ำอุ่นบ่อยๆ
ฉายแสง
การฉายแสงบำบัดผิว⠀(Light-Emitting Diode: LED) คือการฉายแสงความเข้มสูงมาช่วยกระตุ้นกลไกการฟื้นฟูของเซลล์ผิว โดยแสงที่ใช้รักษาจะมีหลายสี แต่ละสีต่างก็มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ใช้เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวต่างๆ เช่น ลดจุดด่างดำและริ้วรอยแผลเป็นจากสิว กำจัดเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบของผิวหนัง เป็นต้น
ข้อดี
- ไม่มีรังสีอัลตราไวโอเล็ต สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย
- ไม่ทำให้ผิวไหม้ สามารถใช้ได้กับทุกสีผิวและทุกสภาพผิว
แสงแต่ละสีมีประโยชน์อย่างไร?
- แสงสีฟ้า ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวอักเสบติดเชื้อ จึงช่วยรักษาสิวและลดการอักเสบของผิวโดยไม่ทำให้ดื้อยา
- แสงสีเขียว ช่วยลดการสร้างเม็ดสี รอยแดง จุดด่างดำ ฝ้า กระ และรักษาเส้นเลือดฝอยที่ขยายตัว รวมถึงผิวหนังรอบดวงตาหย่อนคล้อย
- แสงสีเหลือง มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับแสงสีเขียว แต่เพิ่มคุณสมบัติในการกระตุ้นต่อมน้ำเหลืองให้ไหลเวียนได้ดีขึ้น
- แสงสีแดง ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด ซึ่งช่วยลดการอักเสบของผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยซ่อมแซมเซลล์ ลดริ้วรอยบนใบหน้า รอยแผลเป็น กระชับผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น มักใช้คู่กับแสงสีฟ้าในกรณีที่ต้องมีการกดสิว โดยแสงสีแดงจะช่วยให้ไม่ทิ้งรอยหลุมสิวไว้บนใบหน้า
หมายเหตุ
- ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับบริการ
- หากรับประทานยาหรือมีปัญหาเกี่ยวกับผิว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้า
- การฉายแสงอย่างเดียวอาจทำให้ผิวแห้งหลังจากทำเสร็จ ควรทำทรีตเมนต์ผิวควบคู่ไปด้วย
ติดหมุด
การติดเมล็ดผักกาด⠀หรือเรียกว่า การแปะหู หรือการติดหมุดใบหู เป็นหนึ่งในการรักษาด้วยการกดจุดสะท้อนที่ใบหูของแพทย์แผนจีน เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ เช่น ปวดหู ปวดศีรษะ ความเครียด กระตุ้นระบบเผาผลาญ หรือนอนไม่หลับ
ในความเป็นจริง การติดเมล็ดผักกาด คือการติดเมล็ดหวังปู้หลิวสิง (王不留行) ซึ่งเป็นสมุนไพรจีนชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายเมล็ดผักกาด ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Cowherb หรือ Vaccaria seeds
นอกจากเมล็ดหวังปู้หลิวสิงแล้ว ยังสามารถใช้เม็ดแม่เหล็กที่มีลักษณะคล้ายเมล็ดผักกาดติดแทนได้
การกดจุดสะท้อนที่ใบหูช่วยรักษาโรคอย่างไร?
ใบหู มีจุดที่เป็นตัวแทนของอวัยวะต่างๆ การกดเพื่อกระตุ้นจุดสะท้อนเหล่านั้น จะช่วยกระตุ้นให้การทำงานของอวัยวะนั้นๆ กลับคืนสู่สภาพปกติได้
ขั้นตอนการติดเมล็ดผักกาดโดยทั่วไป
- แพทย์แผนจีนวินิจฉัยอาการ โดยการซักประวัติสุขภาพ ตรวจแมะ และตรวจดูลิ้น
- ทำความสะอาดใบหูด้วยแอลกอฮอล์
- ติดเมล็ดผักกาดบริเวณจุดสะท้อนที่ใบหู บริเวณที่ติดจะขึ้นอยู่กับเป้าหมายในการรักษา
- การติดเมล็ดผักกาดเป็นการแพทย์ทางเลือก ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
- หลีกเลี่ยงการโดนน้ำขณะที่ติดเมล็ดผักกาด เพราะจะทำให้หลุดได้ง่าย
- ระยะเวลา และความถี่ในการติดเมล็ดผักกาดจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ควรสอบถามรายละเอียดกับแพทย์แผนจีนผู้ทำการรักษา
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ แมนดารินคลินิก ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 30-60 วัน ตามที่ระบุในคูปอง)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ แมนดารินคลินิก อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th