ผ่าตัดรักษาเส้นเลือดขอดที่ขา
ดูแลทุกขั้นตอน มีนัดติดตามผล
รายละเอียด
HDcare สรุปให้
อาการแบบไหนที่ต้องรีบรักษาเส้นเลือดขอด?
- เส้นเลือดขอดมีสีม่วงเข้ม หรือสีน้ำเงิน
- เส้นเลือดขอดมีลักษณะบิด และโป่งพอง
- มีการเปลี่ยนแปลงของสีผิวที่บริเวณรอบๆ เส้นเลือดขอด
- รู้สึกเจ็บ ปวด บริเวณที่ขาและน่อง
- รู้สึกขาหนัก และอึดอัด
- รู้สึกแสบร้อน ปวดกล้ามเนื้อ และข้อเท้าบวม โดยอาการจะแย่ลงหลังจากที่นั่ง หรือยืนเป็นระยะเวลานาน
- รู้สึกคันและผิวแห้งบริเวณรอบ ๆ เส้นเลือดขอด
- เป็นตะคริวที่ขา โดยเฉพาะตอนกลางคืน
ผ่าตัดเส้นเลือดขอด ทำได้ 2 วิธี โดยแพทย์จะดูจากปัญหาของคนไข้
1. ผ่าตัดลอกเอาเส้นเลือดขอดออก ใช้การบล็อกหลังหรือดมยาสลบ โดยเปิดแผลที่ขาหนีบประมาณ 4-5 ซม. และใต้เข่า 1-2 ซม. แล้วทำการผูกและตัดหลอดเลือดดำที่โป่งพองออก หลังทำต้องนอน รพ. 1-2 คืน และพักต่อที่บ้าน 7-14 วัน
2. เจาะเอาเส้นเลือดขอดที่ตื้นๆ ออก ใช้ยาชาระงับความรู้สึก แล้วเปิดแผลเล็กๆ ด้วยเครื่องมือพิเศษดูดเจาะเส้นเลือดขอดที่โป่งนูนออก ไม่ต้องเย็บแผล ไม่ต้องตัดไหม ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องนอนพักฟื้นที่ รพ.
ผ่าตัดเส้นเลือดขอด ดียังไง?
- รักษาเส้นเลือดขอดได้ทุกขนาด
- กรณีผ่าตัดลอกเส้นเลือดขอด พักฟื้นไม่เกิน 2 สัปดาห์ ก็ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- กรณีที่ผ่าตัดเจาะเอาเส้นเลือดขอดที่ตื้นๆ ออก หลังผ่าตัดสามารถกลับบ้านได้ทันที
รู้จักโรคนี้
ร่างกายของคนเรามีหลอดเลือดดำอยู่ใต้ผิวหนัง ซึ่งจะถูกล้อมรอบด้วยกล้ามเนื้อที่คอยบีบหลอดเลือดดำเพื่อส่งเลือดดำกลับสู่หัวใจ หากวาล์วที่อยู่ในหลอดเลือดดำทำงานผิดปกติจะทำให้มีเลือดดำตกค้าง ส่งผลให้หลอดเลือดดำบวม ขยายเป็นก้อน หรือผิดรูปจนกลายเป็นเส้นเลือดขอดนั่นเอง
โรคเส้นเลือดขอดจะพบบ่อยที่สุดที่บริเวณขา ซึ่งในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดที่ทำให้วาล์วในหลอดเลือดดำทำงานผิดปกติ แต่คาดว่าเกี่ยวข้องกับปัจจัยเหล่านี้
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้วาล์ว หรือลิ้นเล็กๆ ที่อยู่ในหลอดเลือดดำ ซึ่งคอยทำหน้าที่ควบคุมการไหลเวียนของเลือดเกิดการเสื่อมสภาพ
- ฮอร์โมน ฮอร์โมนเพศหญิงอาจส่งผลให้ความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือดดำลดลง
- กรรมพันธุ์ ผู้ที่มีพ่อแม่ หรือบุคคลในครอบครัวมีประวัติเป็นเส้นเลือดขอด จะมีความเสี่ยงมากกว่าปกติ
- น้ำหนักตัวที่มากเกินไป จะส่งผลให้เกิดแรงกดดันต่อเส้นเลือดมากกว่าปกติ
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต การทำงานที่ต้องยืน หรือนั่งเป็นระยะเวลานานๆ การนั่งไขว่ห้าง หรือใส่รองเท้าส้นสูงเป็นประจำ
- ผลข้างเคียงจากการรักษาด้วยฮอร์โมน เช่น ยาคุมกำเนิด อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นเส้นเลือดขอดมากขึ้น
- มีประวัติหลอดเลือดดำทำงานผิดปกติ เช่น เคยมีลิ่มเลือดอุดตัน
- ผลข้างเคียงจากภาวะที่ส่งผลให้เกิดการกดดันที่ช่องท้อง เช่น การตั้งครรภ์ ท้องผูก หรือเนื้องอก
อาการเส้นเลือดขอด แบ่งเป็นกี่ระยะ?
อาการเส้นเลือดขอด จะแบ่งเป็น 6 ระยะ ดังนี้
- ระยะที่ 1 เส้นเลือดขอดมีลักษณะคล้ายใยแมงมุม เป็นเส้นเลือดขอดในระยะเริ่มต้น มักไม่มีอาการแสดง นอกจากการส่งผลกระทบเรื่องความสวยงาม
- ระยะที่ 2 เส้นเลือดเริ่มปูดเป็นตัวหนอน มีขนาดใหญ่มากกว่า 3 มิลลิเมตร และทำให้เกิดอาการปวดเมื่อใช้งานอวัยวะที่มีเส้นเลือดขอดเป็นระยะเวลานาน เช่น การนั่ง เดิน หรือยืน
- ระยะที่ 3 คล้ายระยะที่ 2 แต่จะทำให้เกิดอาการขาบวมและปวดมากขึ้น ถึงแม้จะใช้งานในระยะเวลาสั้นๆ
- ระยะที่ 4 บริเวณที่มีเส้นเลือดขอดเปลี่ยนเป็นสีดำเข้ม ซึ่งหมายถึงการเกิดภาวะอักเสบของผิวหนัง
- ระยะที่ 5 เป็นระยะที่แผลหายจากการรักษาแล้ว แต่ผิวหนังจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำ
- ระยะที่ 6 เกิดแผลบริเวณหลอดเลือดดำ เช่น ขอบแผลแดง
สัญญาณที่ต้องผ่าตัด
หากคุณเริ่มมีเส้นเลือดขอด โดยเฉพาะเส้นเลือดขอดที่ขา แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เนื่องจากเส้นเลือดขอดในระยะแรกๆ สามารถรักษาได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นนาน ซึ่งจะช่วยป้องกันผลข้างเคียงของเส้นเลือดขอดในระยะท้ายๆ ได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่มีเส้นเลือดขอดแต่ยังไม่ได้รับการรักษา จะต้องหมั่นสังเกตอาการของตัวเองอยู่เสมอ ถ้าหากเกิดอาการเหล่านี้จะต้องไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนของเส้นเลือดขอดที่อันตรายได้
- เส้นเลือดขอดมีสีม่วงเข้ม หรือสีน้ำเงิน
- เส้นเลือดขอดมีลักษณะบิด และโป่งพอง
- มีการเปลี่ยนแปลงของสีผิวที่บริเวณรอบ ๆ เส้นเลือดขอด
- รู้สึกเจ็บ ปวด บริเวณที่ขาและน่อง
- รู้สึกขาหนัก และอึดอัด
- รู้สึกแสบร้อน ปวดกล้ามเนื้อ และข้อเท้าบวม โดยอาการจะแย่ลงหลังจากที่นั่ง หรือยืนเป็นระยะเวลานาน
- รู้สึกคันและผิวแห้งบริเวณรอบ ๆ เส้นเลือดขอด
- เป็นตะคริวที่ขา โดยเฉพาะตอนกลางคืน
รู้จักการผ่าตัดนี้
การผ่าตัดเส้นเลือดขอด คืออะไร?
การผ่าตัดเส้นเลือดขอด (Varicose vein Surgery) เป็นวิธีรักษาเส้นเลือดขอดขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยการฉีดยา หรือการรักษาด้วยคลื่นวิทยุได้ โดยจะแบ่งเป็น 2 วิธีหลัก ได้แก่ การผ่าตัดลอกเอาเส้นเลือดขอดออก และการเจาะเอาเส้นเลือดขอดที่ตื้นๆ ออก ซึ่งสามารถใช้วิธีใดวิธีหนึ่ง หรือทั้งสองวิธีร่วมกัน ขึ้นกับลักษณะอาการเส้นเลือดขอดของคนไข้ มีรายละเอียดดังนี้
- การผ่าตัดลอกเอาเส้นเลือดขอดออกเป็นวิธีรักษาเส้นเลือดขนาดใหญ่ที่อยู่ชั้นลึก โดยแพทย์จะเปิดแผลที่ขาหนีบ ความยาวประมาณ 4-5 เซนติเมตร และบริเวณใต้เข่า ความยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร เพื่อทำการผูก และตัดหลอดเลือดดำที่โป่งพองออก
- การเจาะเอาเส้นเลือดขอดที่ตื้นๆ ออกเป็นวิธีรักษาเส้นเลือดขอดที่อยู่ใต้ผิวหนังชั้นตื้น โดยแพทย์จะระงับความรู้สึกด้วยการฉีดยาชา แล้วใช้เครื่องมือพิเศษเจาะเปิดแผลเล็กๆ และทำการดูดเส้นเลือดขอดที่โป่งนูนออก ทำให้ไม่ต้องเย็บแผล ไม่ต้องตัดไหม หลังทำเสร็จแล้วสามารถกลับบ้านได้โดยที่ไม่ต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล
ขั้นตอนการผ่าตัดเส้นเลือดขอดเป็นอย่างไร?
ขั้นตอนการผ่าตัดเอาเส้นเลือดขอดออก มีดังนี้
- วิสัญญีแพทย์ทำการระงับความรู้สึกคนไข้ด้วยการดมยาสลบ หรือบล็อคหลัง
- แพทย์ทำการผ่าตัดเส้นเลือดขอดออก ซึ่งวิธีการผ่าตัดแพทย์จะเป็นผู้ประเมิน โดยพิจารณาจากลักษณะเส้นเลือดขอดขอคนไข้
- หลังผ่าตัดเส้นเลือดขอดเสร็จแล้ว แพทย์จะให้คนไข้นอนพักฟื้น 1-2 วัน เพื่อเฝ้าสังเกตอาการ ถ้าไม่มีอาการผิดปกติก็สามารถกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้
- แพทย์นัดตรวจติดตามอาการ และนัดตัดไหมในอีก 14 วันหลังผ่าตัด
การผ่าตัดเส้นเลือดขอดใช้ระยะเวลาเท่าใด?
การผ่าตัดเส้นเลือดขอดใช้ระยะเวลาประมาณ 30 นาที ถึง 3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับจำนวนเส้นเลือดขอดที่ต้องผ่าตัดออก
การผ่าตัดเส้นเลือดขอดต้องพักฟื้นนานเท่าไหร่?
ในกรณีที่ผ่าตัดลอกเอาเส้นเลือดขอดออกจะต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล 1-2 คืน แล้วกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านอีกประมาณ 7-14 วัน หลังจากนั้นจะต้องกลับมาตรวจติดตามอาการและตัดไหมที่โรงพยาบาลตามที่แพทย์นัดหมาย
ส่วนในกรณีที่ผ่าตัดเจาะเอาเส้นเลือดขอดที่ตื้นๆ ออก หลังผ่าตัดสามารถกลับบ้านได้ทันที เนื่องจากไม่มีการเปิดแผลผ่าตัด มีอาการบวมและฟกช้ำน้อย สามารถฟื้นตัวได้เร็ว แต่จะต้องใส่ถุงน่องสำหรับรักษาเส้นเลือดขอด และดูแลตนเองตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด
เปรียบเทียบการผ่าตัดวิธีต่างๆ
เปรียบเทียบการรักษาเส้นเลือดขอดด้วยวิธีต่างๆ
การรักษาเส้นเลือดขอดด้วยคลื่นวิทยุ ร่วมกับผ่าตัดกำจัดเส้นเลือดขอดบริเวณขา
เหมาะสำหรับคนที่มีเส้นเลือดขอดทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่
แพทย์จะผ่าตัดกำจัดเส้นเลือดขอดขนาดใหญ่ก่อน โดยผ่าตัดเปิดแผลที่ขาหนีบเพื่อเข้าไปผูกเส้นเลือดดำ แล้วตัดเส้นเลือดดำที่โป่งพองออกมา
หลังจากนั้นจะรักษาเส้นเลือดขอดที่เหลืออยู่ด้วยคลื่นวิทยุ โดยแพทย์จะใส่สายนำความร้อนเข้าไปที่หลอดเลือด แล้วปล่อยคลื่นวิทยุความถี่สูงเข้าไปทำให้เกิดความร้อนภายในเส้นเลือด ส่งผลให้เส้นเลือดขอดฝ่อตัวลง
รักษาเส้นเลือดขอดด้วยกาวทางการแพทย์การรักษาเส้นเลือดขอดด้วยกาวทางการแพทย์ จะทำภายใต้การฉีดยาชาเฉพาะที่ ไม่ต้องดมยาสลบ หรือบล็อกหลัง
แพทย์จะเจาะเส้นเลือดบริเวณใต้เข่า หรือเหนือข้อเท้า จากนั้นจะใส่สายสวนขึ้นไปบริเวณขาหนีบหลัง แล้วทำการหยอดสารยึดติดทางการแพทย์ (กาว) เข้าไปปิดเส้นเลือดดำที่มีปัญหา ซึ่งจะทำให้อาการเส้นเลือดขอดดีขึ้นทันทีหลังทำ
เป็นวิธีรักษาที่มีความปลอดภัย มีผลข้างเคียงน้อย มีแผลขนาดเล็กแค่จุดเดียว
ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำเสร็จแล้วสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
ไม่ต้องสวมถุงน่องหลังทำเหมือนวิธีอื่นด้วย
ผ่าตัดเส้นเลือดขอดแบบมีแผลเปิดที่ขาหนีบเป็นวิธีรักษาเส้นเลือดขอดขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่นได้
วิสัญญีแพทย์จะระงับความรู้สึกด้วยการบล็อกหลัง หรือดมยาสลบก่อน หลังจากนั้นแพทย์จะผ่าตัดเปิดแผลที่ขาหนีบ ขนาดประมาณ 4-5 เซนติเมตร และบริเวณใต้เข่า ขนาดประมาณ 1-2 เซนติเมตร เพื่อทำการผูกและตัดหลอดเลือดดำที่โป่งพองออกมา
หลังผ่าตัดเสร็จแล้วจะต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล 1-2 คืน และพักฟื้นต่อที่บ้านประมาณ 7-14 วัน
การผ่าตัดเส้นเลือดขอดด้วยวิธีนี้ หลังทำเสร็จแล้วจะมีรอยฟกช้ำสูง ปวดบริเวณแผลผ่าตัด และในบางรายอาจมีรอยแผลเป็นบริเวณขาหนีบได้
ผ่าตัดเส้นเลือดขอดด้วยคลื่นวิทยุ (Spinal block)เป็นวิธีผ่าตัดเส้นเลือดขอดด้วยคลื่นวิทยุ ภายใต้การฉีดยาชาเข้าช่องไขสันหลัง (Spinal block) ซึ่งเป็นการระงับความรู้สึกทั่วร่างกาย ทำให้ไม่ต้องฉีดยาชาเฉพาะที่หลายๆ ส่วน เหมือนการรักษาเส้นเลือดขอดด้วยคลื่นวิทยุแบบปกติ
หลังจากที่วิสัญญีแพทย์ทำการระงับความรู้สึกแล้ว แพทย์จะตรวจหาเส้นเลือดด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ หลังจากนั้นจะสอดท่อเล็กๆ ผ่านผิวหนังเข้าไปยังหลอดเลือดดำที่มีปัญหา แล้วปล่อยคลื่นวิทยุความถี่สูงเข้าไปเหนี่ยวนำให้เกิดความร้อนในเส้นเลือด เพื่อทำให้หลอดเลือดดำฝ่อตัวลง
เมื่อทำหัตถการเสร็จแล้ว แพทย์จะถอดสายท่อออก แล้วทำการกดแผลให้เลือดหยุดไหล และปิดพลาสเตอร์ปิดแผลให้เรียบร้อย (ไม่จำเป็นต้องเย็บแผล)
หลังรักษาเสร็จแล้ว แพทย์จะให้นอนพักสังเกตอาการที่ห้องพักฟื้น ถ้าไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ก็สามารถกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้เลย
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัด ทำให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างปลอดภัยมากขึ้น โดยแพทย์จะแนะนำให้เตรียมตัวดังนี้
- ตรวจประเมินความเสี่ยงก่อนการผ่าตัดให้เรียบร้อย
- ควรรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้ดีขึ้น และลดโอกาสในการติดเชื้อหลังผ่าตัด
- งดการสูบบุหรี่อย่างน้อย 3-6 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด เพราะนิโคตินในบุหรี่จะส่งผลกระทบต่อการหายของบาดแผล
- งดการใช้ยาที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้าอย่างน้อย 7 วันก่อนการผ่าตัด เพื่อลดการเสียเลือดระหว่างผ่าตัด เช่น ยาแอสไพริน ยาวาร์ฟาริน หรือยาในกลุ่มระงับอาการปวด
- งดการใช้ยาสมุนไพร อาหารเสริม หรือวิตามินบางประเภท ที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น น้ำมันปลา โอเมก้า 3 น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส หรือโคเอนไซม์คิวเทน เป็นต้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม
- งดรับประทานอาหารและดื่มน้ำก่อนผ่าตัด อย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการสำลักน้ำย่อย หรือเศษอาหารจากกระเพาะอาหารเข้าสู่ปอดในระหว่างที่ได้รับยาระงับความรู้สึก
- หลังจากผ่าตัดแล้ว จะต้องนอนพักฟื้นต่อที่โรงพยาบาล 1-2 วัน จึงควรเตรียมเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไปให้เรียบร้อย
การดูแลหลังผ่าตัด
การดูแลตนเองหลังรับการผ่าตัดเส้นเลือดขอด
หลังจากที่แพทย์อนุญาตให้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้แล้ว ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูได้เร็วขึ้น และป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย ดังนี้
- สามารถรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำได้หลังจากที่ผ่าตัดเสร็จแล้วประมาณ 2-3 ชั่วโมง
- ในช่วง 24-48 ชั่วแรก อาจมีเลือดออกบริเวณรอยเย็บเกิดขึ้น ซึ่งเป็นอาการที่พบได้ตามปกติ โดยแพทย์จะให้สวมถุงน่องชนิดพิเศษ หรือพันด้วยผ้ายืด
- หลังจากที่แพทย์ให้กลับบ้านแล้ว จะต้องสวมถุงน่องสำหรับรักษาเส้นเลือดอย่างต่อเนื่อง เพื่อประคองกล้ามเนื้อและเส้นเลือดบริเวณนั้น โดยควรใส่ติดต่อกันอย่างน้อย 1-3 สัปดาห์ หรือตามที่แพทย์สั่ง
- รับประทานยาฆ่าเชื้อ ยาแก้อักเสบ และยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- งดการว่ายน้ำ แช่อ่างอาบน้ำ ออกกำลังกายหนัก และยกสิ่งของหนัก อย่างน้อย 3 สัปดาห์หลังผ่าตัด หรือตามที่แพทย์สั่ง
- พบแพทย์ตามนัดหมาย เพื่อตรวจติดตามอาการและทำการตัดไหม
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการผ่าตัดเส้นเลือดขอด
การผ่าตัดเส้นเลือดขอดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ ดังนี้
- ความเสี่ยงทั่วไปที่พบได้จากการรักษา เช่น การติดเชื้อ แพ้ยาชา แพ้ยาสลบ อาการชา บวมช้ำ เลือดออก หรือเลือดคลั่ง
- เจ็บและปวดแผลบริเวณที่รักษา ซึ่งแพทย์จะจ่ายยาบรรเทาอาการปวดให้
- อาจมีอาการชาตามแนวเส้นเลือดที่ทำการรักษา ซึ่งอาการจะหายได้เองภายใน 3 - 6 เดือน
- เส้นเลือดขอดอาจไม่ได้หายไปทั้งหมด และอาจจำเป็นต้องฉีดยารักษาเส้นเลือดขอดที่เหลืออยู่เพิ่มเติม
- อาจมีรอยจ้ำเลือดใต้ผิวหนัง ซึ่งจะสามารถหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
- อาจเกิดแผลเป็นบริเวณที่ผ่าตัดเส้นเลือดขอด