มีการตรวจโดยแพทย์เฉพาะทาง อัลตราซาวด์มดลูก ตรวจน้ำอสุจิ ดูรายการตรวจทั้งหมดในรายละเอียดราคา
รายละเอียด
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่าตรวจคัดกรองภาวะมีบุตรยาก สำหรับผู้หญิงและผู้ชาย มีรายการตรวจดังนี้
- ตรวจรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางด้านการรักษาผู้มีบุตรยาก
- ให้คำปรึกษาโดยทีมงานที่มีประสบการณ์
- ตรวจตรวจรังไข่และมดลูกด้วยการอัลตราซาวด์ทางช่องคลอด (TVS) สำหรับฝ่ายหญิง
- ตรวจวิเคราะห์น้ำอสุจิสำหรับฝ่ายชาย ได้แก่
- ตรวจค่าความเป็นกรด-ด่าง
- ตรวจจำนวนตัวอสุจิ
- ตรวจเปอร์เซ็นต์อสุจิที่เคลื่อนไหวได้ดี
- ตรวจรูปร่างอสุจิ
- ตรวจปริมาณเม็ดเลือดขาวในน้ำอสุจิ
- ค่าบริการ
หมายเหตุ
- ถ้ามีการตรวจรักษาอื่นๆ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 30-60 นาที
- สามารถรับบริการกับแพทย์ที่ร่วมโครงการเท่านั้น
- ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงต้องเข้ารับการตรวจในวันเดียวกัน
- สงวนสิทธิ์สำหรับผู้ที่นัดหมายล่วงหน้าเท่านั้น
- ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแพ็กเกจภายหลังจากที่มีการจองหรือซื้อแพ็กเกจเรียบร้อยแล้ว
- เงื่อนไขเป็นไปตามที่โรงพยาบาลกำหนด
ก่อนตัดสินใจ
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมีประจำเดือน ผู้ที่ยังไม่มีประจำเดือน ผู้ที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน และผู้ที่มีช่องคลอดแคบหรือไม่สามารถตรวจด้วยวิธีคลำสองมือ (Bimanual)
ข้อห้ามสำหรับการตรวจภาวะมีบุตรยาก
- ผู้ที่กำลังเป็นหวัด มีไข้ หรือติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
- ผู้ที่มีภาวะติดเชื้อในระบบปัสสาวะและอวัยวะสืบพันธุ์
- ผู้ที่กำลังอยู่ในภาวะติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs)
- ผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงรับยาปฏิชีวนะ ยาต้านซึมเศร้า ยาอนาบอลิกสเตียรอยด์ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
ข้อมูลทั่วไป
ภาวะมีบุตรยาก⠀หมายถึงการไม่ประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์หลังจากพยายามมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี ภาวะนี้เกิดขึ้นได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง โดยทั่วไปหากคู่สมรสมาปรึกษาปัญหามีบุตรยาก แพทย์จะเริ่มทำการประเมินสาเหตุในฝ่ายชายก่อน หากฝ่ายชายปกติ จึงทำการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุในฝ่ายหญิงต่อไป
ปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยาก
- ผู้ชายที่อายุ 40 ปีขึ้นไป และผู้หญิงที่อายุ 30 ปีขึ้นไป เนื่องจากความสมบูรณ์ทางเพศลดลง
- การสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มมึนเมา
- น้ำหนักตัวที่มากเกินไป
- ออกกำลังกายไม่เพียงพอ
การตรวจภาวะมีบุตรยากสำหรับผู้ชาย
ในการตรวจภาวะมีบุตรยากสำหรับผู้ชาย จะเริ่มที่การซักประวัติและตรวจร่างกายโดยสูตินรีแพทย์ และตรวจน้ำอสุจิ การตรวจน้ำอสุจิในผู้ชายจะสามารถบอกได้ทันทีว่ามีภาวะมีลูกยากหรือไม่
หากจะทำการรักษา จะต้องมีการตรวจอย่างอื่นเพิ่มเติม เช่น ตรวจเลือดเพื่อวัดระดับฮอร์โมน อัลตราซาวด์ หรือเอกซเรย์ เพื่อหาสาเหตุและแนวทางการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
สาเหตุของภาวะมีบุตรยากในฝ่ายชาย
- มีปัญหาเกี่ยวกับน้ำอสุจิและสเปิร์ม
- ท่อนำเชื้อ หรือท่อปัสสาวะตีบตัน
- อัณฑะเสียหายจากการติดเชื้อ มะเร็งอัณฑะ ภาวะลูกอัณฑะไม่ลงถุง โรคหนองในแท้ การผ่าตัดอัณฑะ หรือมีความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด
- มีภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
- เคยทำหมันชายมาก่อน
- มีภาวะฮอร์โมนเพศต่ำ
- ใช้ยาบางชนิด ได้แก่ ซัลฟาซาลาซีน (Sulfasalazine) อนาบอลิกสเตียรอยด์ (Anabolicsteroids) ยาเคมีบำบัด รวมถึงสมุนไพรบางอย่างที่อาจส่งผลต่อการผลิตอสุจิ หรือทำให้อัณฑะมีขนาดเล็กลง
- ใช้สารเสพติดที่อาจส่งผลต่อคุณภาพ ความแข็งแรงของอสุจิ เช่น โคเคน กัญชา บุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
- ภาวะอ้วน
- ขาดสารอาหาร
- ความเครียด
- มีโรคทางพันธุกรรม เช่น กลุ่มอาการไคลน์เฟลเตอร์ (Klinefelter's syndrome)
การตรวจภาวะมีบุตรยากสำหรับผู้หญิง
ในการตรวจภาวะมีบุตรยากสำหรับผู้หญิง จะเริ่มที่การซักประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจภายในโดยสูตินรีแพทย์ นอกจากนี้ อาจตรวจอย่างอื่นประกอบด้วย เช่น ฉีดสีและส่องกล้องดูโพรงมดลูกและท่อนำไข่ ตรวจเลือดเพื่อวัดระดับฮอร์โมน อัลตราซาวด์ หรือเอกซเรย์ เป็นต้น เพื่อทำการรักษาที่เหมาะสม
สาเหตุของภาวะมีบุตรยากในฝ่ายหญิง
- มีความผิดปกติของฮอร์โมนทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับการตกไข่ เช่น ภาวะถุงน้ำหลายใบในรังไข่ โรคไทรอยด์ และภาวะรังไข่หยุดทำงานก่อนอายุ 40 ปี เป็นต้น
- มีแผลจากการผ่าตัดที่ส่งผลให้ท่อนำไข่เสียหาย
- มีความผิดปกติของมูกตกไข่
- มีพังผืดหรือเนื้องอกในมดลูก
- ท่อรังไข่อุดตัน
- ผนังมดลูกเจริญไม่เต็มที่
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- อุ้งเชิงกรานอักเสบ
- เคยทำหมันมาก่อน
- ใช้ยาบางชนิด เช่น ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ยาต้านอาการทางจิต สไปโรโนแลคโตน รวมถึงยาเสพติดอย่างกัญชาและโคเคน
ข้อควรรู้สำหรับการตรวจภาวะมีบุตรยากในผู้หญิง
การตรวจในฝ่ายหญิงจะมีขั้นตอนและวิธีตรวจที่ซับซ้อนกว่าฝ่ายชาย เช่น
- ตรวจภายใน
- ตรวจเลือดวัดระดับฮอร์โมน
- อัลตราซาวด์ทางช่องคลอดเพื่อดูมดลูกและรังไข่
- ฉีดสีเข้าโพรงมดลูกพร้อมกับส่องกล้องดูโพรงมดลูกและท่อนำไข่
- ส่องกล้องดูโพรงมดลูกและอุ้งเชิงกราน
อย่างไรก็ตาม แพทย์จะเลือกการตรวจที่เหมาะสมซึ่งไม่จำเป็นต้องตรวจทุกวิธีที่กล่าวมา หากผลตรวจออกมาผิดปกติ แพทย์จะพิจารณาการตรวจที่จำเป็นในแต่ละกรณี
วิธีชำระและใช้งาน
จองและจ่ายเงินที่ HDmall.co.th พร้อมรับส่วนลดทันที (มีสิทธิ์ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน*)
- แจ้งชื่อและข้อมูลของคุณสำหรับจองแพ็กเกจกับแอดมิน
- ชำระเงิน สามารถเลือกวิธีโอน จ่ายบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต โดยจ่ายบัตรเครดิตได้เมื่อมียอดชำระ 300 บาทขึ้นไป ผ่อนได้เมื่อมียอดชำระตั้งแต่ 3,000 บาท
- ส่งหลักฐานการชำระเงิน
- รอรับคูปองทางอีเมล (จะออกภายใน 24 ชั่วโมงหลังแอดมินตรวจสอบการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว) คูปองมีอายุ 60 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่โรงพยาบาลเพื่อรับบริการ
จองผ่าน HDmall.co.th แล้วไปจ่ายเงินที่โรงพยาบาล รับแคชแบ็กหลังรับบริการ
- แจ้งชื่อและข้อมูลสำหรับจองแพ็กเกจกับแอดมิน
- รับคูปองทางอีเมล คูปองมีอายุ 30 วัน
- นำคูปองไปยื่นที่โรงพยาบาลเพื่อรับบริการ และชำระค่าแพ็กเกจราคาเต็ม
- ภายใน 30 วันนับจากชำระเงิน กรุณาส่งหลักฐานดังนี้ให้แอดมินทางไลน์ @hdcoth เพื่อรับแคชแบ็ก
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาใบเสร็จของโรงพยาบาล
- สำเนาหน้าสมุดบัญชี
- หน้าคูปอง
- รอรับแคชแบ็กภายใน 7-14 วัน (ตัดรอบโอนเงินทุกวันจันทร์ เวลา 15.00 น. เงินจะเข้าบัญชีของคุณภายในวันศุกร์)
หมายเหตุ สำหรับแพ็กเกจที่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนทำ หลังจากแพทย์ตรวจประเมินแล้วว่ารับบริการได้ คุณสามารถจ่ายเงินโดยตรง ณ สถานที่ให้บริการ แล้วรับแคชแบ็กภายหลัง หรือจ่ายกับ HDmall.co.th เพื่อรับส่วนลดได้ทันทีพร้อมรับสิทธิ์ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่โรงพยาบาลได้โดยตรง
สาขาหรือแผนกที่ให้บริการ
-
วันจันทร์-ศุกร์ 08.00-18.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ 08.00-17.00 น. (รับคิวสุดท้ายไม่เกิน 16.00 น.)
-
เดินทางโดยรถยนต์ ได้ใช้ ถ. เพชรบุรีตัดใหม่ แล้วเลี้ยวซ้าย เข้า ซ. ชิดลม ตรงไป 100 เมตร จะพบโรงพยาบาลเจตนินอยู่ทางซ้ายมือ ถ้าเดินทางโดย BTS ให้ลงสถานีชิดลม (ทางออก 3) ลงจากสถานีจะพบการไฟฟ้านครหลวงทางซ้ายมือ จากนั้นเดินย้อนไปประมาณ 50 เมตรเพื่อข้ามทางม้าลายไปยังเซ็นทรัลชิดลม เดินตรงผ่าน ซ. ชิดลม มุ่งหน้า ถ. เพชรบุรีตัดใหม่ เดินไปประมาณ 250 เมตร จะพบโรงพยาบาลเจตนินอยู่ทางขวา
-
จอดรถริมถนนหน้าโรงพยาบาล
-
จ่ายบัตรเครดิตได้ ไม่มีขั้นต่ำ ไม่มีค่าธรรมเนียม