การฉีด PRP ใช้เลือดจากตัวผู้ป่วยเอง เพื่อกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมและสมานแผลให้เร็วขึ้น
รายละเอียด
ทำไมคนอื่นซื้อแพ็กเกจนี้?
🦵 ฟื้นฟูข้อเข่าเสื่อมด้วยการฉีดเกล็ดเลือด (PRP)! คุณรู้สึกเจ็บหรือมีอาการตึงบริเวณข้อเข่าหรือไม่? ไม่ว่าคุณจะเป็นนักกีฬา หรือผู้ที่มีอายุมากขึ้น การเสื่อมของข้อเข่าอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคุณอย่างมาก การรักษาโดยการฉีด PRP ที่ Phenomed Clinic เป็นทางเลือกที่คุณไม่ควรพลาด!
🏥 บริการรักษาข้อเข่า 1 ข้าง ด้วยการฉีดเกล็ดเลือดตัวเอง (PRP) 1 ครั้ง จะช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมและฟื้นฟูข้อเข่าของคุณ โดยใช้เกล็ดเลือดที่สกัดจากเลือดของคุณเอง ซึ่งมีโกรทแฟคเตอร์ที่ช่วยบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
💡 ทำไมต้องเลือกการฉีด PRP?
- ปลอดภัยและมีผลข้างเคียงน้อย เนื่องจากใช้เลือดของคุณเอง
- เห็นผลลัพธ์ใน 1-3 เดือนหลังการฉีด
- ทดแทนการใช้ยาฉีดสเตียรอยด์ที่อาจมีผลข้างเคียงอันตราย
⏳ อย่าปล่อยให้ความเจ็บปวดรบกวนคุณอีกต่อไป! จองบริการกับเราได้ง่ายๆ ผ่าน HDmall.co.th และเตรียมตัวพบกับการฟื้นฟูข้อเข่าที่จะช่วยให้คุณกลับมาทำกิจกรรมที่คุณรักได้อีกครั้ง! 📅
เริ่มต้นการฟื้นฟูข้อเข่าของคุณตั้งแต่วันนี้!
รายละเอียด
ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
- ค่ารักษาข้อเข่า 1 ข้าง ด้วยการฉีดเกล็ดเลือดตัวเอง PRP 1 ครั้ง
เกี่ยวกับแพ็กเกจ
- ระยะเวลารับบริการประมาณ 30-40 นาที
- แพทย์จะให้คำปรึกษาและคำแนะนำก่อนเริ่มกระบวนการฉีด PRP
- หลังจากฉีด PRP จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ภายใน 1-3 เดือน โดยควรฉีดต่อเนื่องประมาณ 1-2 เดือนควบคู่กับการรักษาด้วยยาและการรับประทานอาหารเสริม
- ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล
การเตรียมตัวก่อนรับบริการ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 6-8 ชั่วโมง
- ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
- งดรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด 1 สัปดาห์ก่อนทำ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค พอนสแตน วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย โสม St. John's wort น้ำมันกระเทียม เพราะมีผลต่อยาต้านการแข็งตัวของเลือด (ควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาก่อนหยุดยา)
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2-3 วัน
- งดยา NSAIDs ก่อนและหลังการฉีด PRP เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์
- ดื่มน้ำมากๆ ตั้งแต่ก่อนวันฉีด 1 วัน
- ถ้ามีอาการป่วยอยู่ ควรรักษาให้หายก่อน เพราะอาจมีเชื้อในกระแสเลือด
การดูแลหลังรับบริการ
- หลังฉีดอาจมีการปวดตึงบริเวณตำแหน่งที่ฉีด ควรใช้ความเย็นประคบประมาณ 48 ชั่วโมง ร่วมกับรับประทานยาบรรเทาอาการปวด เช่น พาราเซตามอล
- ควรงดยาสเตียรอยด์และยาต้านการอักเสบต่อไปอย่างน้อย 2 สัปดาห์ แต่หากมีอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดพาราเซตามอล และประคบเย็นได้
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดการกระทบกระเทือนบริเวณตำแหน่งที่ฉีด
ก่อนตัดสินใจ
ข้อห้ามสำหรับการฉีด PRP
การฉีด PRP จะต้องเก็บเลือดของผู้เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมเองมาปั่นแยกเกล็ดเลือด ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเกล็ดเลือดจึงไม่สามารถเข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้ได้ เช่น
- ผู้ป่วยโรคโลหิตจาง
- ผู้ป่วยที่มีเกล็ดเลือดต่ำหรือเกล็ดเลือดทำงานผิดปกติ
- ผู้ป่วยโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งกระดูก
- ผู้ป่วยที่รับประทานยาต้านเกล็ดเลือดหรือยาละลายลิ่มเลือด
ข้อมูลทั่วไป
การฉีดเกล็ดเลือดสกัดเข้มข้น หรือการฉีดพีอาร์พี (Platelet Rich Plasma: PRP)⠀เป็นหนึ่งในการแพทย์ทางเลือก ใช้รักษาโรคข้อเข่าเสื่อมในผู้ที่มีอาการระดับปานกลาง มีความปลอดภัยมากและมีโอกาสเกิดอาการแพ้น้อย เพราะใช้เกล็ดเลือดที่สกัดจากเลือดของตัวเอง
ในเกล็ดเลือดจะมีโกรทแฟคเตอร์ (Growth factor) หลายชนิด โปรตีน และเซลล์จากกระแสเลือด ซึ่งช่วยในการซ่อมแซมหลอดเลือด กระดูก และกล้ามเนื้อ กระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์และคอลลาเจน อีกทั้งยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการปวดในข้อได้เป็นอย่างดี
แพทย์มักแนะนำให้ผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมเข้ารับการฉีด PRP หลังจากที่การรักษาด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและรับประทานยาแก้ปวดไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร
การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการฉีด PRP ต้องรักษากี่ครั้ง?
- จำนวนครั้งในการฉีด PRP จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ผู้ทำการรักษา โดยส่วนมากจะต้องฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 2-3 สัปดาห์ โดยจะเริ่มเห็นผลการรักษาในช่วง 4-6 สัปดาห์เป็นต้นไป
- ผลการรักษาด้วยการฉีด PRP จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ ฮอร์โมน ความรุนแรงของอาการ และพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้ป่วย
ขั้นตอนในการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการฉีด PRP
- แพทย์จะเก็บเลือดของผู้รับการฉีด PRP ประมาณ 20 ซีซี เพื่อนำไปปั่นแยกชั้นเกล็ดเลือด ใช้ระยะเวลาประมาณ 10-15 นาที จะได้เกล็ดเลือดลักษณะสีเหลืองใสประมาณ 2 ซีซี
- แพทย์ฉีดเกล็ดเลือดบริเวณที่ต้องการรักษา หากเป็นการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมก็จะฉีดบริเวณข้อเข่า
- ในช่วงที่รับการรักษาด้วยวิธีนี้ผู้ป่วยไม่ควรใช้ยาชา ยาต้านการอักเสบ หรือยาสเตียรอยด์ เพราะตัวยาจะไปลดประสิทธิภาพการทำงานของเกล็ดเลือด
ข้อดีของการฉีด PRP
- การฉีด PRP เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยสูง และมีผลข้างเคียงน้อย เพราะใช้เกล็ดเลือดจากตัวผู้ป่วยเอง
- การฉีด PRP อาจทดแทนการใช้ยาฉีดยาสเตียรอยด์ได้ ซึ่งการฉีดยาสเตียรอยด์อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ เช่น ข้อสึกกร่อนรุนแรง ข้ออักเสบจากผลึกสเตียรอยด์
หมายเหตุ
- การฉีด PRP ควรทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ และควรปรึกษาแพทย์หากมีข้อสงสัยก่อนตัดสินใจ
- สาร PRP ที่ใช้ฉีดได้มาจากเลือดของตัวเอง ดังนั้นโอกาสแพ้หรือมีปัญหาแทรกซ้อนจึงน้อย อย่างไรก็ตามควรเลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกที่สะอาดและได้มาตรฐาน เพื่อลดโอกาสเสี่ยงดังกล่าว
วิธีชำระและใช้งาน
วิธีซื้อแพ็กเกจของ Phenomed Clinic ผ่าน HDmall
วิธีการจ่ายเงินและการใช้คูปอง
- กดชำระเงินออนไลน์
- รับคูปองทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมง
- โทรนัดหรือเลื่อนนัดกับคลินิกได้โดยตรงตามข้อมูลในคูปอง
- ยื่นคูปองที่คลินิกเพื่อรับบริการ
เงื่อนไขการใช้คูปอง
- คุณสามารถเลื่อนนัดได้ด้วยตัวเอง ตามเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ที่ระบุไว้ในคูปอง ก่อนวันนัดอย่างน้อย 1-3 วันทำการ แต่ต้องรับบริการก่อนคูปองหมดอายุ (คูปองมีอายุ 60 วัน)
- สามารถซื้อแพ็กเกจให้คนอื่นได้ เพียงแจ้งชื่อผู้จะรับบริการให้แอดมินทราบ เพื่อจะได้ระบุบนคูปอง
- อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถานที่ให้บริการ สามารถจ่ายที่คลินิกได้โดยตรง
- สำหรับแพ็กเกจแบบคอร์ส ต้องรับบริการครั้งแรกก่อนคูปองหมดอายุ ส่วนครั้งต่อๆ ไปขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของคลินิก
เงื่อนไขการให้บริการ และราคาของ Phenomed Clinic อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามแผนการส่งเสริมการขาย ท่านสามารถตรวจสอบเงื่อนไขการให้บริการ และราคาล่าสุดได้จากแอดมิน HDmall.co.th