คอร์สทำกายภาพบำบัด ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดในสมอง อัมพฤกษ์ อัมพาต แขนขาอ่อนแรง จำนวน 20 ครั้ง ฟรี ! ตรวจประเมินร่างกายในครั้งแรก

การทำกายภาพบำบัด

กายภาพบำบัด (Physical Therapy)⠀คือการรักษาด้วยเครื่องมือทางกายภาพ ไม่เน้นการรับประทานยาหรือการผ่าตัด เน้นการบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยในกลุ่มอาการเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ ข้อ กระดูก ระบบประสาท ระบบทางเดินหายใจ โรคที่เกิดจากอุบัติเหตุ ออฟฟิศซินโดรม ผู้ป่วยอัมพฤกษ์-อัมพาต ผู้สูงอายุที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อเสื่อม ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว
โดยการกายภาพบำบัดทำได้หลายวิธี เช่น อัลตราซาวด์ เลเซอร์ ประคบร้อน ประคบเย็น การนวด และการออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรง
 
การกายภาพบำบัด มีประโยชน์อย่างไร?

• ให้ความสำคัญแก่การฟื้นฟูผู้ป่วยในภาวะต่างๆ ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ
• ส่งเสริมสุขภาพ
• ป้องกันภาวะแทรกซ้อน
• ลดอัตราเสี่ยงของการกลับมามีอาการซ้ำ

หมายเหตุ

• นักกายภาพบำบัด หรือผู้ให้บริการกายภาพบำบัด จะต้องจบการศึกษาด้านกายภาพบำบัดโดยตรงและต้องมีใบประกอบวิชาชีพกายภาพบำบัดที่ออกให้โดยสภากายภาพบำบัดเท่านั้น
• นักกายภาพบำบัดจะทำงานร่วมกับบุคลากรอื่นๆ ด้านสาธารณสุข เช่น แพทย์ พยาบาล เภสัชกร นักเทคนิคการแพทย์ เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับผลการรักษาที่มีผลสำเร็จสูงสุด

โรคหลอดเลือดในสมอง

โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)⠀หรือที่คุ้นเคยกันดีในชื่อ โรคอัมพฤกษ์ หรือ อัมพาต แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ โรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน และโรคหลอดเลือดสมองแตก
โรคหลอดเลือดสมองนั้นเกิดจากเลือดที่นำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองถูกกีดขวาง ทำให้เกิดอาการผิดปกติตามมา เช่น อาการอ่อนแรง ชาครึ่งซีก มองเห็นภาพซ้อน ตามัว พูดไม่คล่อง เวียนศีรษะ เดินเซ หมดสติ จนถึงขั้นเสียชีวิต
เมื่อเกิดอาการผิดปกติเหล่านี้จะต้องรีบพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด เนื่องจากยิ่งรักษาเร็วยิ่งได้ผลดี โดยผู้ป่วยที่ได้รับยาสลายลิ่มเลือดเร็วภายใน 90 นาทีแรกหลังเกิดอาการจะมีโอกาสหายเป็นปกติถึง 3 เท่าของกลุ่มที่ไม่ได้รับยา
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโรคหลอดเลือดสมองจะมีอาการรุนแรงที่เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต แต่สามารถป้องกันได้โดยการหลีกเลี่ยง หรือลดปัจจัยที่ทำให้เกิดโรค รวมไปถึงการตรวจหาความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดสมองในผู้สูงอายุเป็นประจำทุกปี เพื่อเตรียมรับมืออย่างทันท่วงที

ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง

• ปัจจัยที่ไม่สามารถป้องกันได้ คือ อายุที่เพิ่มมากขึ้น และผู้ที่ครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดสมอง จะมีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่นๆ
• ปัจจัยที่สามารถป้องกันได้ คือ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ภาวะไขมันสูง โรคหัวใจและภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ภาวะไขมันสูง โรคอ้วน ความเครียด การสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์

วิธีป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง

• ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เพราะการตรวจสุขภาพจะช่วยให้ประเมินความเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคเกาต์ โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจ ช่วยให้คุณสามารถป้องกันได้อย่างทันท่วงที
• รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นรับประทานผักและผลไม้ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และผ่อนคลายความเครียด
• ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
• งดสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองตีบ
• ในกลุ่มผู้มีความเสี่ยงที่อาจเกิดโรคหลอดเลือดสมอง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจ หรือผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา
• ผู้ที่เคยเป็นโรคหลอดเลือดสมองมาก่อน จะต้องรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำอีก

หมายเหตุ

• โปรแกรมตรวจสุขภาพมีหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบจะเหมาะสมกับบุคคลที่แตกต่างกันไป หากต้องการตรวจหาความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง ควรเลือกโปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับค้นหาความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองโดยเฉพาะ